เล่ห์รักร้าย จอมเผด็จการ EP.02

1142 คำ
“นี่แกยังหวังความรักจากคุณป้าอีกเหรอ? ...ยาหยี” “คนเป็นลูกก็หวังที่จะได้ความรักความพ่อแม่ทั้งนั้นแหละเพชร” “ถึงแกทำดีแค่ไหน คุณป้าก็ไม่เห็นความดีของแกหรอกยาหยี ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าคุณป้ารักพี่ชายแกอย่างกับอะไรดี รักมากซะจนลืมไปว่ายังมีลูกสาวอย่างแกอีกคน” “พูดอีกก็ถูกอีกนั่นแหละ แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องทำไม่ใช่หรือเพชร ลูกที่ดี ไม่ควรทำให้พ่อแม่เสียใจ ฉันพูดถูกไหม” “เออ แกพูดถูก แต่แกก็ไม่เคยทำอะไรให้พ่อแม่เสียใจไม่ใช่เหรอ?” เธอล่ะอยากจะบ้าตายกับความคิดของมารดารังสิยา ลูกที่ดีไม่ยอมรัก แต่ดันไปรักไอ้ลูกไม่ดี โชคดีหน่อยที่บิดาของรังสิยารักและให้ความสำคัญกับลูกๆ เท่ากัน ไม่ได้ลำเอียงเหมือนคนเป็นภรรยา ไม่อย่างนั้นเพื่อนสนิทของเธอคงโชคร้ายสุดๆ ที่เกิดมาในตระกูลนี้ “เลิกพูดเรื่องของฉันเถอะ ตกลงแกช่วยติวหนังสือสอบให้พี่ชายฉัน ตกลงนะ” “โอเค ฉันต้องลงช่วยแกก็ได้ แต่ฉันให้วันละสองชั่วโมงเท่านั้นนะ แล้วพี่ชายของแกเรียนคณะไหน แล้วมีวิชาอะไรบ้างที่ฉันต้องไปติวให้” “คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ” “สาขานี่ก็ไม่ได้เรียนยากเท่าไรนะยาหยี ตัวเลขก็มีไม่เยอะ บัญชีก็มีไม่กี่ตัว แล้วทำไมพี่ชายแกถึงเรียนถึงหกปีได้วะเนี่ย” “ไม่รู้เหมือนกัน” “ตกลงพี่ชายแกไปเรียนหนังสือ หรือไปผลาญเงินพ่อแม่กันแน่” “แกก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว” “…” คำตอบของรังสิยา ทำให้เพชรน้ำค้างถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความอึดอัด นอกจากนั้นเธอยังรู้สึกสงสารเพื่อนสนิทไม่น้อย ทุกครอบครัวต่างก็มีปัญหาทั้งนั้น โชคดีที่เธอไม่ต้องมามีปัญหาครอบครัวเหมือนกับคนอื่นเขา เอาเถอะตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเครียดเสียหน่อย เธอควรทำใจให้สงบ แล้วค่อยหาหนังสือที่พี่ชายของเพื่อนสนิทเรียนมาอ่านทวนสักหน่อย ก่อนที่เธอจะไปติวหนังสือสอบให้กับเขา ******** “นั่นมันหลานสาวของนายไม่ใช่เหรอ?” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากษมา ทำให้ชายหนุ่มอีกคนชะงักเท้าฉับพลัน แล้วหันไปมองยังร้านอาหารฝั่งตรงข้ามทันที คิ้วทั้งสองขมวดขึ้น ดวงตาคู่คมกล้าเบิกกว้างขึ้น จ้องมองหลานสาวกับผู้ชายที่เขาไม่รู้จักด้วยสีหน้าเรียบตึงทันพลัน “ไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่นเป็นใคร ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นมาก่อนวะไอ้ธี” “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ธี หรือ ชลธี ศิวาลักษณ์ ตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด สายตายังจับจ้องอยู่ที่ร้านที่หลานสาวนั่งกับผู้ชายที่เขาไม่รู้จัก ถ้าจำไม่ผิดเมื่อเช้า รังสิยาขอนุญาติมารดาออกไปหาเพื่อน แล้วมานั่งทำบ้าอะไรอยู่ที่นี่ ยังไอ้ผู้ชายหน้าอ่อนนั่นอีก กล้าดียังไงถึงเข้ามายุ่งวุ่นวายกับหลานสาวของเขา “แล้วนั่นแกจะไปไหนน่ะไอ้ธี” “ฉันจะเข้าไปจัดการไอ้หน้าอ่อนนั่นไงไอ้ษมา” “หยุดเลยนะไอ้ธี ถ้าแกเข้าไปหาเรื่องผู้ชายคนนั้น ฉันรับรองได้เลยว่าหนูยาหยีต้องโกรธแกแน่” “แล้วแกจะให้ฉันปล่อยมันไปหรือไงไอ้ษมา” “สองคนนั้นอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ แกก็อย่าคิดมากไอ้ธี” ษมาเตือนสติเพื่อนสนิท จับแขนเอาไว้ข้างหนึ่ง แต่สายตายังจับจ้องอยู่ในร้านที่รังสิยากับผู้ชายที่เขารู้จักกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ด้วยความประหลาดใจ อาจเพราะเขาสนิทกับครอบครัวศิวาลักษณ์มานับสิบปี เขาจึงรู้ว่าครอบครัวนี้รักและเข้มงวดกับลูกหลานมากแค่ไหน “ฉันว่าพวกแกเลิกยุ่งกับชีวิตของหนูยาหยีเถอะวะ หนูยาหยีโตแล้วนะเว้ย จะมีแฟนก็ไม่แปลก” “แกก็ยังเข้าข้างหลานสาวฉันไม่เคยเปลี่ยนเลยนะไอ้มนัส” ชลธีหันมาโวยใส่เพื่อนสนิททันที ไอ้นี่ก็อีกคน เวลาเขาคิดจะสั่งสอนหรือตำหนิรังสิยา ไอ้เพื่อนบ้านี่ก็มักยื่นมือเข้ามาขัดขวางตลอด แถมยังกล้าด่าเขากลับมาอีก ว่าเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของรังสิยามากเกินไป ตกลงเขาหรือมันกันแน่ที่เป็นญาติผู้ใหญ่ของรังสิยา มนัสได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับนิสัยเผด็จการและเห็นแก่ตัวของชลธี เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะรักและหวงหลานสาวไปทำไมนักหนา ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าหลานสาวคนนี้ของมันเป็นเด็กดีขนาดไหน แล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว “คนที่แกน่าจะห่วง ควรเป็นนายวัชระมากกว่านะไอ้ธี เรียนมาหกปีแล้วยังไม่จบ ไม่ใช่เหรอ?” คนที่ชลธีควรเป็นห่วงควรจะเป็นไอ้หลานชายไม่เอาถ่านมากกว่า เขาไม่เห็นว่ารังสิยาจะน่าจะเป็นห่วงตรงไหน เรียนก็ใกล้จะจบแล้ว แล้วเรื่องที่หญิงสาวจะมีแฟน เขาก็ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหน ผู้หญิงบางคนมีแฟนตั้งแต่ยังเรียนชั้นมัธยมด้วยซ้ำ “นั่นสิไอ้ธี” ษมาเห็นด้วยกับความคิดของมนัสอย่างแรง ระหว่างหลานชายกับหลานสาว เขาคิดว่าชลธีควรเป็นห่วงและให้ความสนใจหลานชายมากกว่า เขาก็ได้ข่าวมาเหมือนกันว่าเรียนมาหกปีแล้วยังไม่จบเลย หากเทอมนี้สอบไม่ผ่านอีก อาจจะพ้นสภาพนักศึกษา “ฉันก็เป็นห่วงทั้งสองคนนั่นแหละ” ชลธีตอบไม่เต็มเสียงนัก เมื่อเจอคำทักท้วงจากบรรดาเพื่อนสนิท ในความคิดเขาถึงวัชระจะน่าเป็นห่วงในเรื่องการเรียน แต่ยังไงวัชระก็เป็นผู้ชาย เขาเลยเป็นห่วงรังสิยามากกว่า อาจเพราะรังสิยาเป็นผู้หญิง แล้วเขาก็กังวลเรื่องผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของรังสิยาด้วย ถ้าเป็นคนดีก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นคนชั่วขึ้นมาล่ะ เขาจะทำยังไง “แกน่ะเลิกห่วงหนูยาหยีได้แล้ว เอาเวลาไปสนใจเรื่องของตัวเองดีกว่าไหม” คนที่เดินเข้ามาสมทบทีหลังเอ่ยขึ้น เขาก็สงสัยอยู่ว่าทำไมเพื่อนสนิททั้งสามถึงได้ยืนกันอยู่หน้าร้าน ที่แท้ก็คุยกันเรื่องของรังสิยานี่เอง ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ถึงได้พูดเรื่องของรังสิยาขึ้นมา ******** ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม