ทางด้านอ๋องแปด หลังจากที่แยกทางกับเสวี่ยอี้หน้าวังหลวง เขาก็เดินมาถึงหน้าห้องทรงงาน ตำหนักจักรพรรดิจินหลงภายในเวลาไม่นาน
ขันทีประจำตัวของฮ่องเต้ นามว่า หลีกงกง ที่กำลังยืนคุ้มกันอยู่ทางด้านหน้าประตู
เมื่อเห็นอ๋องแปดเดินมา เขาก็รี่เดินเข้าไปหา ก้มหน้าเคารพอย่างนอบน้อม พลางเอ่ย "กระหม่อมจะไปแจ้งฝ่าบาทให้ทราบนะพ่ะย่ะค่ะ"
อ๋องแปดแทบไม่ต้องพูดอะไรเลย หลีกงกงก็รู้ว่าจะต้องทำหน้าที่ของตนเช่นไร
หลีกงกงเข้าไปในห้องทรงงานครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเพียงไม่นาน เขาก็ออกมาเชิญอ๋องแปดเข้าไปพบกับฮ่องเต้ด้านใน
ฮ่องเต้ชำเลืองตามอง เผยรอยยิ้มเบาบาง เมื่อเห็นอ๋องแปดเดินเข้ามา พลางเอ่ยทักเสียงทุ้ม "อ๋องแปด...เจ้ามาแล้วหรือ"
"พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ" อ๋องแปดแสดงท่วงท่าคำนับบิดาของตนอย่างนอบน้อม ก่อนที่จะถอนอิริยาบทมาเป็นท่ายืนสำรวมแทน
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ หลังจากแต่งงาน มีความสุขดีหรือไม่" ฮ่องเต้เอ่ยไถ่ถาม
"มีความสุขดีพ่ะย่ะค่ะ ขอบพระทัยท่านพ่อที่ทรงพระราชทานพระชายารูปงามให้ข้า"
"เช่นนั้นข้าก็มิเป็นห่วงอันใด" ฮ่องเต้เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อ "อ๋องแปด...เจ้ารู้หรือไม่! ว่ากลุ่มโจรจากทางทิศใต้กำลังซุ่มซ่อนโจมตีกองทัพของเราอยู่"
อ๋องแปดขบคิดชั่วครู่ ก็พลันนึกออกว่า กองทัพหลวงเคยส่งสาส์นมายังจวนอ๋องแปดก่อนหน้านี้ประมาณสองอาทิตย์ได้ จึงเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "พอทราบมาบ้างแล้วพ่ะย่ะค่ะ กลุ่มโจรพวกนั้น เป็นกลุ่มที่มีอาวุธสังหารที่เป็นที่ประจักษ์นัก มีการใช้ธนูที่แม่นยำ กองทัพของเราสูญเสียทหารไปไม่น้อย แต่ท่านพ่ออย่าได้ทรงกังวลไป ข้าได้เตรียมการไว้ส่วนหนึ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
"เจ้ามิเคยทำให้ข้าผิดหวังเลยอ๋องแปด เช่นนั้น วันพรุ่งนี้... เจ้าไปเป็นแม่ทัพไปจัดการโจรกลุ่มนี้ได้หรือไม่"
ถึงแม้จะเป็นคำถาม แต่อ๋องแปดรู้ดีว่า นั่นคือคำสั่งจากบิดาตน ที่ยากที่จะปฏิเสธ ไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ก็ตาม
และเขาก็รู้ดีว่าหากนำทัพไปครั้งนี้ กว่าจะกลับมา ใช้เวลายาวนานนัก คงไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือนเป็นแน่ พอคิดถึงตรงนี้ก็อดเป็นห่วงชายาแสนรักไปไม่ได้
"เกรงว่า...จะเร็วเกินไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ" อ๋องแปดพยายามกล่าวปฏิเสธ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของฮ่องเต้ก็เปลี่ยนไปทันที เขาหุบยิ้มโดยพลัน ก่อนจะเอ่น้ำเสียงเคร่งขึม "เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้างั้นหรือ"
"มิกล้าพ่ะย่ะค่ะท่านพ่อ! " อ๋องแปดเอ่ยพลางก้มหน้ามองต่ำ
"ดี! ข้าได้ข่าวมาว่า...โจรกลุ่มนี้กำลังลุกลามเข้ามาใกล้เมืองขึ้นเรื่อยๆ หากมิรีบจัดการ บ้านเมืองต้องมีภัยเป็นแน่"
"กระหม่อมรับคำบัญชาพ่ะย่ะค่ะ" อ๋องแปดก้มคำนับ เอ่ยรับคำสั่งอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ในใจ ไม่อยากทำเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย…
พระตำหนักองค์หญิงเหม่ยหลี่
ยามซื่อ (๐๙.๐๐ น.) ประตูส่งเสียงและถูกเปิดออกอย่างช้า ๆ
"องค์หญิงเพคะ...หม่อมฉันนำยาสมุนไพรมาถวายเพคะ" สาวใช้ส่งเสียงเอ่ยเรียกพลางเดินผลักประตูเข้ามาในเรือน
นางยกถ้วยยาสมุนไพรวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง พลางเอ่ยคำเดิมซ้ำๆ ทุกวันว่า "หม่อมฉันวางเอาไว้บนโต๊ะแล้วนะเพคะ อีกประมาณสักสองชั่วยาม หม่อมฉันจะเข้ามาเก็บนะเพคะ"
องค์หญิงเหม่ยหลี่หันไปพยักหน้าตอบรับ
หลังจากนั้น สาวใช้ก็เดินออกไปนอกเรือน
เมื่อไม่มีผู้ใดอยู่ในห้องแล้ว องค์หญิงเหม่ยหลี่ก็รีบคว้าถ้วยยาสมุนไพร ซ่อนเอาไว้ใต้เตียง พลางใช้ผ้าคลุมปิดอย่างมิดชิด
"รอเพียงแค่เสวี่ยอี้มาเท่านั้น….รอเพียงแค่เสวี่ยอี้มาเท่านั้น" องค์หญิงเหม่ยหลี่กล่าวพึมพำกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา
ยามอู่ (๑๑.๐๐ น.) เสวี่ยอี้เข้ามาหาองค์หญิงเหม่ยหลี่ในเรือนพักตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ พร้อมทั้งนำเอากล่องอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์และยาสมุนไพรใส่ย่ามติดตัวมาด้วย
องค์หญิงเหม่ยหลี่เมื่อเห็นเสวี่ยอี้เข้ามาในเรือน นางก็รีบย่อตัวลง ใช้มือควานหาถ้วยยาสมุนไพรใต้เตียง ก่อนที่จะส่งยื่นให้กับเสวี่ยอี้ "นี่คือยาสมุนไพรที่ข้ากินทุกวัน ข้ายังแปลกใจอยู่ดีว่าเหตุใด เจ้าถึงอยากให้ข้าเก็บมันไว้"
เสวี่ยอี้ไม่เอ่ยตอบอะไร นางรับถ้วยนั้นและใช้เข็มเงินจุ่มไปในยาสมุนไพร
หากเข็มเงินเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วล่ะก็ แสดงว่ายาสมุนไพรชามนี้มีพิษและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้องค์หญิงมีอาการลุกลามเป็นแน่ แต่หากเข็มคงสภาพเดิม ก็แสดงว่ายาสมุนไพรถ้วยนี้ไร้ข้อครหาใดๆ
เวลาล่วงไปครู่หนึ่ง เข็มแหลมสีเงินถูกยกขึ้นมาตรวจสอบอย่างช้าๆ
ปรากฏว่า...เข็มเงินนั้นยังคงมีสภาพเช่นเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด
"เป็นไปได้อย่างไรกัน" เสวี่ยอี้อุทานออกมาด้วยความแปลกประหลาดใจ
"หมายความว่าอย่างไร...สรุปแล้วยาสมุนไพรนี้เป็นตัวการทำให้ข้าเป็นอย่างนี้หรือไม่" องค์หญิงเหม่ยหลี่เขย่าตัวเสวี่ยอี้คาดคั้นถาม
เสวี่ยอี้ส่ายศีรษะ แสดงสีหน้าผิดหวัง "ไม่เพคะ"
"เช่นนั้น....เจ้าจะทำอย่างไรต่อไป เจ้ายังจะรักษาข้าได้หรือไม่ แล้วข้า..." องค์หญิงเหม่ยหลี่เอ่ยพลางแสดงสีหน้าลนลาน คิ้วของนางคว่ำลงด้วยความวิตกกังวล
"องค์หญิงทรงเย็นพระทัยก่อนนะเพคะ หม่อมฉันจะรักษาองค์หญิงให้หายขาดเป็นแน่"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น องค์หญิงเหม่ยหลี่ก็สงบท่าทีลง
"ก่อนอื่น องค์หญิงทายาสมุนไพรนี้ก่อนนะเพคะ" เสวี่ยอี้เอ่ยพลางส่งยื่นตลับยาให้ พลางเอ่ยอธิบายต่อ "ยาสมุนไพรชนิดนี้เป็นยาฤทธิเย็น เมื่อทาแล้ว จะช่วยลดอาการคัน นอกจากนี้ยังมีผลลั่วเป็นส่วนผสมที่จะช่วยลดอาการแพ้ได้ดีอีกด้วย องค์หญิงทายาสมุนไพรชนิดนี้สามเวลานะเพคะ"
องค์หญิงเหม่ยหลี่เผยรอยยิ้มเริงร่า พลางค่อยๆ ใช้มือยื่นรับยาสมุนไพรเอามาไว้กับตัว "ขอบใจเจ้านะเสวี่ยอี้ แต่เจ้ายังจะช่วยข้าหาสาเหตุในสิ่งที่ข้าเป็นอยู่หรือไม่"
"เพคะ... หม่อมฉันสัญญาว่าจะรักษาองค์หญิงให้หายขาดให้จนได้เพคะ องค์หญิงทรงพักผ่อนเถิดเพคะ"
ดวงตาสีดำอำพันทอประกาย เมื่อได้ยินเช่นนั้น
องค์หญิงเหม่ยหลี่พยักหน้าตอบรับ ก่อนที่จะนั่งลงและทอดกายนอนหลับบนเตียงนอน