bc

ฤาแค้นจะซ้อนรัก

book_age16+
217
ติดตาม
1K
อ่าน
ล้างแค้น
เจ้านาย
เศรษฐีนี
หวาน
หนุ่มใหญ่จีบวัยรุ่นชาย
บูลลี่
เมือง
punishment
office lady
stubborn
like
intro-logo
คำนิยม

“เธอทำอะไรน้องสาวของฉัน...”

ดวงตาและน้ำเสียงของอิศรา แสดงออก

ถึงความโกรธเกรี้ยว และ เคียดแค้นอย่างเห็นได้ชัด

ทำให้ร่างบางที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยร่างใหญ่ถึงกับสั่นเทา

ด้วยความหวาดกลัว...

และยิ่งแย่ไปกว่านั้น คือ เธอไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาถาม

“คุณหนึ่งหมายถึงอะไร?...มนต์ไม่เข้าใจ”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
Ep1 : บทนำ By...kanokrot
ความเงียบสงัดในยามค่ำคืนนี้ช่างดูวังเวงใจยิ่งนัก มันดูแปลกแตกต่างไปมากกว่าทุกวันที่เป็น หญิงสาวในชุดสูทสีเนื้อเข้ารูปหันซ้ายแลขวาตอนเหวี่ยงขาลงจากรถรับจ้างมายืนบนพื้นปูนซีเมนต์ รับรู้ถึงบรรยากาศรอบตัวมันช่างไม่ต่างจากเมืองลับแลสักเท่าไหร่ ความหนาวยะเยือกที่ไม่ได้เกิดจากกระแสลมพัด ทำให้ขนในกายเธอลุกชัน... “ขอบคุณมากนะคะพี่ดำ” เธอกล่าวขอบคุณพรางถอดหมวกกันน็อคยื่นส่งคืนให้เจ้าของดุจเดิม พี่ดำคือคนขับรถรับจ้างอยู่แถวหน้าปากซอยทางเข้าหมู่บ้านไวยเวศ ซึ่งเป็นคันเจ้าประจำที่เธอมักนั่งบ่อยสุด บ่อยจนเธอตัดสินใจเอ่ยปากว่าจ้างผูกขาดให้พี่ดำมาคอยรับส่งเธอในทุกเช้า เย็น “วันนี้กลับดึกจังนะรสา มีงานด่วนอีกแล้วเหรอ...” พี่ดำเอ่ยถามเมื่อเขายื่นมือออกไปรับหมวกกันน็อคจากหญิงสาวเอามาแขวนไว้ตรงด้านหน้า แต่ยังไม่ยอมสตาร์ทรถออก เพราะเมียรักฝากของกินมาให้น้องสาวสุดรัก ถึงจะไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันออกมาจริงๆก็ตาม ถึงอย่างนั้นเขากับเมียก็รักและเอ็นดูมนต์รสาไม่ต่างจากน้องสาวแท้ๆของตัวเอง “ค่ะพี่ดำ...วันนี้รสามีงานด่วนเลยต้องอยู่เคลียร์ยาวหน่อย กว่าจะเรียบร้อยก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้ว...” “เอ้านี่...แกงเหลืองหน่อไม้ดอง เมื่อตอนเย็นลำไยมันทำเอาไว้หมอใหญ่ มันเลยตักแบ่งใส่ถุงฝากให้พี่เอามาให้รสาด้วย กลับบ้านดึกๆจะได้มีอะไรกินก่อนนอนไปต้องเสียเวลาทำให้เหนื่อยอีก ถ้ารสากินไม่หมดยังแช่ไว้อุ่นกินพรุ่งนี้ได้อีกด้วยนะ...” ดำหยิบถุงแกงเหลืองหน่อไม้ดองตรงแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ยื่นส่งให้น้องรัก มนต์รสารับมาถือไว้ในมืออย่างดีใจเธอยิ้มจนตาโตๆนั้นหยี่ลงเป็นรูปพระจันทร์คว่ำเห็นฟันขาวสะอาดเกือบหมดทุกซี่เมื่อเห็นแกงโปรดของตัวเอง “ของชอบเรานี่...” ดำยิ้มตามกับภาพตรงหน้าด้วยอดเอ็นดูไม่ได้ อาจเพราะเขากับเมียมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับมนต์รสากันมานานมากในระดับนับถือกันเป็นญาติคนหนึ่งก็ว่าได้ เขากับหญิงสาวเห็นหน้ากันมาตั้งแต่เขากับลำไยยังไม่แต่งงาน จนปัจจุบันเขากับเมียมีลูกสาววัยน่ารักด้วยกันหนึ่งคนแล้ว จำได้ว่าตอนนั้นมนต์รสายังทำงานอยู่ในบ้าน ไวยเวศ ด้วยซ้ำ และด้วยความมีน้ำใจเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ของมนต์รสาที่มีต่อครอบครัวเขาด้วยน้ำใสใจจริง ตอนนั้นเขากำลังเพิ่งสร้างฐานะเงินทองยังมีติดขัดไปบ้าง เขาก็ได้มนต์รสานี่แหละคอยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเอาไว้ทุกครั้ง ทำให้เขากับเมียรู้สึกทั้งรักและเอ็นดูเจ้าหล่อนไม่ต่างจากน้องสาวแท้ๆ ยิ่งพอได้รับรู้ว่ามนต์รสามาสูญเสียคุณย่าบัวไป เจ้าตัวต้องใช้ชีวิตลำพัง เขากับเมียจึงมั่นคอยมาดูแลน้องสาวคนนี้ไม่เคยทิ้งกันไปไหน... “ขอบคุณค่ะ พี่ลำไยใจดีกับรสาตลอดเลย” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณ ดำพยักหน้ารับไหว้ “รสามีขนมมาฝากหนูนิดด้วยนะ...” เธอยกถุงกระดาษในมือขึ้นโชว์ “นี่จ้ะ...”หญิงสาวยื่นถุงใส่กล่องขนมเค้กติดชื่อยี่ห้อแบรนด์ดังไปให้พี่ดำ ซึ่งเขามีลูกสาววัยกำลังน่ารักซื่อหนูนิด ตัวก็เล็กนิดเดียวไม่ต่างจากชื่อสักเท่าไหร่ เลยทำให้มนต์รสาเอ็นดูมากเป็นพิเศษ ถ้าเธอมีขนมอะไรอร่อยมักจะซื้อติดมือมาฝากกันเป็นประจำ “ซื้อมาให้เปลืองเงินอีกแล้วเรานี่ เมื่อวานที่รสาให้ไปหนูนิดยังกินไม่หมดเลย” ที่ดำพูดเพราะรู้สึกเกรงใจ เพราะมนต์รสามักมีขนมติดมือมาฝากลูกสาวเขาเป็นประจำทุกวันก็ว่าได้ “ขนมเค้กเจ้านี้เขาอร่อยมาก พอดีเพื่อนของรสาที่ออฟฟิศเขาไปเดินเที่ยวห้างกันตอนเที่ยง รสาเลยฝากเขาซื้อมาให้ แช่ตู้เย็นเก็บไว้กินได้หลายวันค่ะ...” “ขอบใจนะทั้งสวยทั้งใจดีแต่ก็ไม่ยอมหาใครมาคอยดูแลสักที ว่าแต่...แล้วพรุ่งนี้จะให้พี่มารับเวลาเดิมหรือให้มาช้ากว่าเดิมล่ะ” ดำแขวนถุงของฝากก่อนหันไปถาม “พรุ่งนี้พี่ดำมารับรสาก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมงดีกว่า พอดีรสามีประชุมตอนเช้าต้องรีบไปเตรียมเอกสารรอบิ๊กบอสสุดหล่อน่ะจ้ะ...” “ โอเค...นั้นพี่ไปก่อนนะ รสาเองก็รีบเข้าบ้านก่อนเถอะมันดึกมากแล้ว...” ดำเอ่ยปากเตือน “จ้ะ...” “พี่ไปนะ...ลำไยมันรอปิดบ้านอยู่...” ดำกล่าวลาพร้อมกับเตรียมสตาร์ทรถ “ขับรถดีๆนะพี่ดำ รสาฝากความคิดถึงพี่ลำไยกับหนูนิดด้วย เอาไว้ถ้ารสาได้วันหยุดยาวอีกเมื่อไหร่เดี๋ยวรสาจะไปชวนพี่ลำไยกับหนูนิดออกไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน...” ดำพยักหน้าเข้าใจยกมือขึ้นปิดหมวกกันน็อค แล้วบิดคันเร่งขับรถออกไป มนต์รสาโบกมือลาจนเห็นรถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวเข้าไปอีกซอย เธอจึงหมุนตัวเตรียมเข้าบ้าน ทุกการกระทำของหญิงสาว ถูกจับตามองด้วยสายตากราดเกรี้ยวในมุมหนึ่งของใครบางคน ซึ่งมนต์รสาไม่อาจล่วงรู้ได้เลย... หญิงสาวกวาดสายตามองรอบกายอย่างระแวดระวังภัย เซ้นส์บางอย่างสะกิดเตือน ทำไมวันนี้เธอถึงได้รู้สึกใจคอไม่ค่อยดีอย่างบอกไม่ถูก... หากทว่าก็ไม่เห็นมีความผิดปกติอื่นใดเกิดขึ้น ทุกอย่างยังคงปกติ ความเงียบสงัดยามค่ำคืนยังคงปกคลุมทั่วทั้งถนนยาวเหยียด รวมทั้งต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่แผ่กิ่งก้านยาวออกมานอกริมถนนทั้งสองฝากฝั่ง หรือแม้แต่ถังขยะของหมู่บ้าน มันยังคงถูกวางเอาไว้ตรงจุดเดิม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ดูน่ากลัวอะไรสำหรับคนที่เกิดและเติบโตที่นี่มาตั้งแต่เด็กอย่างเธอ... “คิดมากไปหรือเปล่าเรา ก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติเลยนี่นา...” มนต์รสาส่ายหน้า ตัดความคิดสงสัยของตัวเองออกแต่เพียงเท่านั้น ก่อนเจ้าตัวจะเดินไปเปิดประตูรั้วไม้ระแนงสีขาวสูงแค่ระดับน่าอก แล้วเปิดอ้าออก พร้อมกับมุดร่างอรชรก้าวเข้าไปยืนด้านใน บริเวณรอบบ้านยังคงมืดสนิท มีเพียงแสงระเรื่อส่องประกายจากดวงจันทร์แทนความสว่างจากหลอดไฟฟ้าของบ้าน เธออยู่บ้านหลังนี้มานานจนคุ้นชิน จึงไม่คิดเกรงกลัวอะไรกับความมืดนี้ หญิงสาวหันร่างสูงเพรียวก้มมองประตูรั้วไม้อีกครั้ง พร้อมกับยื่นมือที่ถือโซ่พร้อมแม่กุญแจ สอดคล้องกลับเข้าที่เดิมของมัน ตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย ก่อนจะหมุนร่างเพื่อเดินเข้าบ้าน แต่แล้วขาที่กำลังจะก้าวเดิน กลับต้องชะงักอยู่งันอยู่กับที่ เหมือนเธอเห็นเงาอะไรแวบๆ “เอ๊ะ!” เธออุทานเสียงเบา หางตาที่สะดุดเข้ากับเงาดำเรือนรางนั้น พยายามเพ่งมองไปยังจุดเดิม หากทว่าเงาดำปริศนานั้นกลับอันตรธานหายไป “หรือว่าเราจะตาฝาดไปเอง” มนต์รสางึมงำบอกกับตัวเอง พอเดินไปชะโงกหน้าดูตรงบริเวณนั้นก็ไม่เห็นอะไรผิดปกติ เธอจึงลงความเห็นสรุปว่าตัวเองคงจะตาฝาดไปจริงๆนั่นเอง... วันนี้ที่เธอต้องกลับเข้าบ้านดึกมากกว่าทุกวัน เนื่องจากต้องอยู่เคลียร์งานด้านเอกสารให้เสร็จทันก่อนมีการประชุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ เป็นการประชุมสรุปผลกำไรขาดทุนในไตรมาศแรกของปี ซึ่งดูเหมือนปีนี้ผลกำไรในการส่งออกจะมากขึ้นอีกเช่นเคย นั่นย่อมส่งผลถึงโบนัสก้อนโตตอนสิ้นเดือน งวดแรกที่เธอกับเพื่อนพนักงานคนอื่นจะได้รับ คิดแล้วใจสาวมันกระชุ่มกระชวยขึ้นมากะทันหัน ยามเมื่อคิดถึงเงินเก็บในบัญชีของตนจะเพิ่มพูนขึ้นมากกว่าเดิม หัวใจดวงน้อยกลับยิ่งพองโตเป็นลูกบอลลูนก็ไม่ปาน... มนต์รสาทำงานในตำแหน่งเลขานุการให้ท่านประธานใหญ่ของบริษัทนำเข้าและส่งออกเนื้อสัตว์แช่แข็งแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของเมืองไทย อาจเป็นเพราะด้วยผลการเรียนที่สูงด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จึงทำให้เธอมีโอกาสได้เข้าทำงานในบริษัทใหญ่แห่งนี้ได้อย่างสบาย แถมยังได้เป็นเลขาของท่านประธานใหญ่เสียด้วย เธอจึงมีรายได้มากพอที่จะเลี้ยงดูตัวเองเพียงลำพังได้อย่างสบายโดยไม่ต้องเดือดร้อนอะไรนัก เพราะนับตั้งแต่เธอต้องสูญเสียคุณย่าไปเมื่อสามปีก่อน เธอก็อยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด เนื่องจากพ่อกับแม่ของเธอทอดทิ้งเธอไปตั้งแต่แบเบาะ เรียกได้ว่าเธอยังไม่ทันหย่านมดีด้วยซ้ำ ท่านทั้งสองก็ทิ้งเธอไปอย่างไร้เยื้อใย แต่ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดจากครอบครัวที่พ่อแม่ไม่พร้อมจะมีลูกด้วยวัยที่เด็กมากด้วยกันทั้งคู่ แบบพ่อไปทางแม่ไปทางก็จริงอยู่ แต่ทว่าเธอกลับไม่เคยเดือดร้อนอะไรตรงจุดนี้นัก อาจเพราะทุกอย่างนั้น เธอได้รับทดแทนจากความรักความห่วงใยจากคุณย่าและจากบรรดาพี่น้องร่วมงานรอบตัวในบ้านไวยเวศ เพียงเท่านี้มันก็มากเกินพอแล้วสำหรับเธอ... มนต์รสาเดินไปเปิดไฟให้สว่างทั่วทั้งตัวบ้าน จะได้ดูไม่น่ากลัว ไม่เว้นแม้กระทั่งความสว่างบริเวณด้านนอก เธอจัดการวางกระเป๋าถือไว้บนโต๊ะตัวเตี้ยข้างๆกับตู้โชว์ หันกลับไปเก็บรองเท้าหนังคู่ใจเข้าตู้ มันเป็นตู้ไม้แนววินเทจที่ราคาไม่แพงมากมาย สีฟ้าอ่อนของมันทำให้ภายในตัวบ้านดูสว่างตา มีชีวิตชีวามากกว่าเดิม สีฟ้าอ่อนตัดกับสีผนังปูนฉาบด้วยสีเขียวจางสลับกับเขียวมะกอกหน่อยๆ โดยหลักเธอเลือกที่จะจัดตกแต่งตัวบ้านให้ดูโล่งโปร่งสบายตามากกว่าจะเน้นหนักไปทางเฟอร์นิเจอร์ เพราะจะได้เหลือพื้นที่เอาไว้ใช้สอยให้เกิดประโยชน์ในด้านอื่นๆอีก อย่างน้อยๆเหลือพื้นที่ไว้ให้คุณย่าได้เดินออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆตอนอาศัยอยู่ภายในบ้านก็ยังดี อันที่จริงบ้านหลังน้อยหลังนี้เธอกับคุณย่าได้รับเป็นค่าสินไหมตอบแทนน้ำใจจากคุณหญิงอรอุมา เจ้านายผู้ให้ชีวิตเธอกับคุณย่า คุณผู้หญิงผู้กุมอำนาจสูงสุดของตระกูลไวยเวศ ตระกูลผู้ดีเก่าจากทางเหนือ ที่ใครหลายคนในแวดวงไฮโซชั้นสูงต่างรู้จักคุ้นชื่อเสียงกันเป็นอย่างดี อีกทั้งท่านยังเป็นเจ้าของที่ดินแทบนี้ทั้งซอยอีกด้วย... ตอนคุณย่าท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านทำงานเป็นแม่บ้านใหญ่ โดยควบตำแหน่งแม่นมให้กับคุณหนูคนโตของบ้านไวยเวศ ท่านทำงานกับคุณหญิงอรอุมามานานหลายสิบปี ก็นับตั้งแต่คุณหญิงยังเป็นสาววัยละอ่อนอยู่นั่นแหละ ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้รับอานิสงส์ความรักความเมตตาจากคุณหญิงอย่างมากมายด้วยเช่นกัน พอคุณย่าเริ่มแก่ตัวขึ้นมาก ท่านได้ขออนุญาตคุณหญิง ออกมาใช้ชีวิตอยู่กับเธอเพียงสองคน เธอดีใจที่คุณย่าตัดสินใจเช่นนั้น เนื่องจากเธอเองก็ไมอยากให้ท่านต้องทำงานอะไรอีก ถึงงานจะไม่หนักหนา แต่เธอก็อยากดูแลท่านให้เต็มที่ ไม่อยากให้ท่านหยิบจับทำงานอะไรอีกเลย ในตอนแรกคุณหญิงท่าน ทำท่าจะไม่ยอมลูกเดียว ท่านบอกเป็นห่วง ไม่อยากให้ออกมาใช้ชีวิตกันเพียงแค่คนแก่กับผู้หญิงเท่านั้น อาจเพราะความผูกพันทำงานรับใช้กันมาเนิ่นนาน ท่านเลยอดเป็นห่วงในข้อนี้ไม่ได้ แต่สุดท้ายท่านจำใจยอมรับ เมื่อคุณย่าให้เหตุผลสำคัญ นั้นเพราะอยากเห็นหลานสาวคนเดียวได้ใช้ชีวิตเป็นอิสระนอกรั้วกำแพงสูงใหญ่มากขึ้น คุณหญิงอรอุมาถึงได้ยอม แต่ก็ยอมให้ลาออกแค่นั้นแต่ท่านไม่ยอมให้ไปอยู่กันที่ไหนจนห่างไกลสายตา ท่านจึงได้ยกผืนดินแปลงนี้ให้ทั้งแปลงเป็นของขวัญ พร้อมกับสร้างบ้านหลังนี้ให้เธอกับคุณย่าได้อยู่อาศัยอีกด้วย ความเมตตาปราณีทุกอย่างของคุณหญิง ชาตินี้ทั้งชาติตัวเธอเองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ จะหาสิ่งใดมาทดแทนท่านได้ เพื่อให้คุ้มกับความเมตตาปราณีที่ท่านมีต่อเธอและคุณย่าเรื่อยมา ถึงจะออกมาใช้ชีวิตด้านนอกรั้วไวยเวศ ทั้งคุณย่ากับคุณหญิงอรอุมาก็ยังไปมาหาสู่กันเป็นประจำ... มนต์รสาจัดการวางกระเป๋ากับเอกสารในมือลงบนตู้ขนาดเล็ก มันเป็นตู้โชว์ผลรางวัลในด้านการเรียนต่างๆของเธอ นับตั้งแต่เธอเริ่มเข้าศึกษาชั้นประถมต้นจวบจนกระทั่งในเขตรั้วมหาวิทยาลัย รางวัลในตู้โชว์เป็นผลตอบแทนทางใจ แสดงให้เห็นถึงความความตั้งใจจริงที่เธออยากทำมันเพื่อคุณย่านั่นเอง... เธอดึงชายเสื้อเชิ้ตออกนอกกระโปรงสั้นเหนือเข่า ก่อนเดินเลี้ยวตรงดิ่งเข้าไปยังห้องครัว ซึ่งอยู่ติดบันไดทางเดินเชื่อมต่อขึ้นไปยังชั้นสอง อากาศวันนี้ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลาช่วงกลางคืน หากมันก็ทำให้เธอรู้สึกกระหายน้ำจนรู้สึกแสบคอไปหมด เธอกะว่าจะอุ่นแกงเหลืองหน่อไม้ดองของพี่ลำไยกินลองท้องไปก่อน แล้วค่อยขึ้นไปอาบน้ำชำระร่างกายพักผ่อน เพื่อเติมพลังแรงกายเอาไว้ต่อสู้กับงานในวันพรุ่งนี้ พอนึกถึงวันพรุ่งนี้ มนต์รสาได้แต่เดินยิ้มแป้นอารมณ์ดี เมื่อนึกถึงเงินโบนัสก้อนแรกของปีนี้ที่เธอกับเพื่อนๆในบริษัทจะได้รับ หากพอไฟในครัวสว่างวาบขึ้น เงาดำปริศนาที่เธอนึกสงสัยเมื่อก่อนเข้าบ้าน ดันปรากฏตัวอยู่กลางห้องครัว จนมนต์รสาหลุดเสียงอุทานลั่นบ้านด้วยความตกใจสุดขีด ฝ่ามือบอบบางยกขึ้นทาบอก ม่านตาขยายกว้างขึ้นเพ่งมองเงาทะมึนตรงหน้า... “คุณหนึ่ง!!!” เมื่อเห็นชัดเต็มสองลูกกะตา บุรุษหนุ่มผู้ยืนหันหลังนิ่งขึงให้เธอตอนนี้นั้นเป็นใคร ปลายเท้าเรียวสะอาดถึงกับถอยหลังเซจนติดกำแพง เขาเข้ามาทำอะไรในบ้านของเธอ? และเข้ามาได้ยังไง... **********************

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.0K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.5K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook