ยุ่ง

1199 คำ
“ท่านผู้ตรวจการซ่งรีบไปดูภรรยาเถอะ นี่ก็เลยเวลาเลิกงานแล้ว เดี๋ยวข้าน้อยกับอาหยวนช่วยกันตรวจสอบเอกสารสองสามฉบับก็จะกลับแล้วเช่นกัน” ที่ปรึกษาลู่กล่าวยิ้มๆ ซ่งหลานคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มขณะเดินออกจากที่ทำงาน เมื่อครู่คนของท่านย่ามาตาม บอกว่าภรรยาล้มป่วยกระทันหันให้รีบไป ซ่งหลานไม่เต็มใจนัก แต่ก็ควบม้ามายังเนินเขาเถาฮวากู่ สีหน้าราวอยากจะบีบคอคนแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเห็นรถม้าจวนสกุลหลี่จอดอยู่ไม่ไกล ซ่งหลานย่อมคาดหวังว่าหลี่เสี่ยวลู่จะมาร่วมงานในวันนี้ ซ่งหลานรีบนำม้าไปผูกไว้ใต้ต้นไม้ ก้าวขึ้นบันไดทีละขึ้นด้วยฝีเท้าที่หนักอึ้ง เขาอยากเจอหน้านางสักครั้ง อยากพูดอะไรบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจ “ฮูหยินน้อยอยู่ทางนี้เจ้าค่ะ” ป้าหลิว บ่าวอาวุโสคนสนิทของท่านย่ายืนรออยู่หน้าประตูใหญ่ นางผายมือไปยังศาลาทรงแปดเหลี่ยมที่ตั้งอยู่ในสวนลึกเข้าไปข้างใน ซึ่งต้องเดินผ่านโถงกลางเรือน ซ่งหลานก้าวอย่างช้าๆ พยายามสอดส่องสายตาเข้าไปในห้องโถง สตรีน้อยใหญ่กำลังนั่งพูดคุยอยู่ในนั้น เขาเห็นเพียงฮูหยินผู้เฒ่าหลี่และสวีซื่อ ผู้หญิงที่เขาอยากเจอไม่อยู่ในนี้ นางอาจไม่มา “ทางนี้เจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่าสั่งไว้ว่าให้นายท่านรีบพาฮูหยินน้อยไปโรงหมอ นางไข้ขึ้นสูง เช็ดตัวไปหลายรอบแล้วไข้ก็ไม่ลดเสียที อีกทั้งวันนี้ยังคอยช่วยงานยุ่งกันทั้งวันจนหมดสติไปเลยเจ้าค่ะ” ป้าหลิวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง คล้ายจะเร่งให้ชายหนุ่มเดินเร็วอีกหน่อย ซ่งหลานบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ “สารถีด้านล่างก็มีตั้งมาก เหตุใดไม่ส่งนางไปโรงหมอ เหตุใดท่านย่าถึงต้องให้คนไปตามข้า หรือนางใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรเป่าหูท่านย่าอีก” ป้าหลิวส่ายหน้า “บ่าวก็ไม่ทราบเจ้าค่ะ” สายตาเฉียบคมเหลือบไปเห็นร่างบางนั่งนิ่งอยู่ในศาลา บ่าวรับใช้ล้อมกายช่วยปรนนิบัติพัดวี สีหน้าของนางไม่เหมือนคนเจ็บป่วยเลยสักนิด ซ่งหลานแค่นเสียงในลำคอ คิดว่าหญิงผู้นั้นเรียกร้องความสนใจอีกตามเคย เพราะรู้ว่าเขาเชื่อฟังคำสั่งท่านย่ายิ่งกว่าอะไร ร่างสูงหน้าบึ้งตึง ยังไม่ทันได้ก้าวสักก้าว กลิ่นหอมอ่อนๆ ก็ลอยโชยแตะจมูก ซ่งหลานจำกลิ่นกายหอมละมุนนี้ได้ดี เขาหันหลังขวับ มุมปากจะกดลึกเป็นรอยยิ้ม อารมณ์ขุ่นมัวเลือนหายทันที ซ่งเฉียนและหลี่เสี่ยวลู่กำลังเดินผ่านมาทางนี้พอดี หลี่เสี่ยวลู่หยุดชะงักฝีเท้า สีหน้านางดูตื่นตกใจไม่น้อย ซ่งเฉียนที่เดินจูงมืออยู่กับหลี่เสี่ยวลู่ก็ต้องหยุดชะงักเช่นกัน เด็กสาวเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยถามด้วยความฉงน “พี่ใหญ่มาได้อย่างไร” ซ่งหลานไม่ได้ฟังที่ซ่งเฉียนถาม ไม่แม้แต่เหลือบมองน้องสาว เขาเอาแต่จ้องใบหน้าที่ซูบผอมของหลี่เสี่ยวลู่ เห็นเช่นนั้นในใจก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อนางมากขึ้นกว่าเดิม ซ่งหลานก้าวขึ้นหน้าสองก้าว เอ่ยทักอีกฝ่ายเสียงแผ่ว “ไม่เจอกันนานเลย” หลี่เสี่ยวลู่รู้สึกราวกับมีอะไรทิ่มตำหัวใจ ริมฝีปากบางค่อยๆ ยกขึ้นด้วยความยากลำบาก นางฝืนยิ้ม “ไม่เจอกันนานจริงๆ พี่สบายดีหรือไม่” “สบายดี...แล้วเจ้าเล่า” หลี่เสี่ยวลู่หลุบตาลง “ข้าก็เช่นกันเจ้าค่ะ” ซ่งหลานค่อยสบายใจขึ้นที่ได้ยินเช่นนั้น “ลู่เอ๋อร์ ข้าขอคุยกับเจ้าตามลำพังจะได้หรือไม่” หลี่เสี่ยวลู่เงยหน้าขึ้น สีหน้าของนางดูลำบากใจไม่น้อย เพราะมองจากตรงนี้ยังเห็นภรรยาของเขานั่งอยู่ในศาลา และสายตาของนางก็กำลังมองตรงมาทางนี้เช่นกัน ซ่งหลานมองตามสายตาหลี่เสี่ยวลู่ก็พลันเข้าใจ เขาแต่งงานแล้ว หากแยกตัวไปคุยกับนางลำพัง หากใครมาเห็นเข้าอาจมองนางไม่ดี ร่างสูงถอนหายใจ “เจ้าฟังข้าพูดสักประเดี๋ยวจะได้หรือไม่” หลี่เสี่ยวลู่ยังคงยิ้ม “พี่มีอะไรก็รีบมาพูดเถิด ท่านแม่กำลังรอข้าอยู่” ซ่งหลาน “...ข้าขอโทษที่ไม่อาจรักษาสัญญาที่ให้ไว้ต่อเจ้า ทำให้เจ้าต้องเสียใจแล้ว” หลี่เสี่ยวลู่ยืนนิ่งเพื่อรอว่าเขาจะพูดอะไรอีกหรือไม่ หญิงสาวเม้มริมฝีปาก เมื่อเห็นริมฝีปากหยักของคนตรงหน้าปิดสนิท คำพูดที่จะพูดกับนางมีเท่านี้ใช่หรือไม่ นางแอบคาดหวังในใจว่าเขาจะพูดกับนางอีกหลายประโยค ที่ไม่ใช่แค่เพียงประโยคขอโทษ ถึงคราวที่นางพร้อมรับฟังเรื่องราวต่างๆ เขากลับไม่พูด หลี่เสี่ยวลู่ยังคงฝืนยิ้ม เอ่ยเสียงเบา “เรื่องสัญญาช่างมันเถิดเจ้าค่ะ ตอนนี้ข้าเองก็ดีขึ้นมากแล้ว หากพี่ไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวเจ้าค่ะ” พูดจบหญิงสาวก็รีบหมุนตัวเดินจากไป ซ่งเฉียนเองก็วิ่งตามนางไปติดๆ เช่นกัน ซ่งหลานยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองตามแผ่นหลังบางที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ ที่จริงแล้วเขามีอีกหลายประโยคที่อยากจะพูดกับนาง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดเมื่ออยู่ต่อหน้ากลับพูดได้เพียงขอโทษ เมื่อได้สติซ่งหลานก็สาวเท้าดุ่มๆ เข้ามาในศาลาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เซี่ยหนิงที่ได้สตินานแล้ว นางเห็นฉากที่พระนางและนางเอกยืนคุยกัน แม้ไม่รู้ว่าพวกเขาพูดเรื่องอะไร แต่บรรยากาศชวนน่าอึดอัดเสียเหลือเกิน ซ่งหลานราวผีเข้า พุ่งเข้าไปคว้าแขนเซี่ยหนิง ดึงนางให้ลุกขึ้น เขาโมโหที่นางเอาแต่สร้างเรื่องเรียกร้องความสนใจ ทว่าต้องสะดุ้งเมื่อตัวนางนั้นร้อนจี๋ดั่งไฟลน “ท่านจะทำอะไร!” เซี่ยหนิงตกใจที่จู่ๆ ก็ถูกฉุดกระชาก ส่วนซ่งหลานตกใจที่นางตัวร้อนถึงเพียงนี้ เขาจึงค่อยๆ ปล่อยมือจากแขนบอบบาง “ไม่สบายขนาดนี้เหตุใดถึงต้องถ่อสังขารมาให้ลำบากผู้อื่น” “ยุ่ง...” เซี่ยหนิงขมวดคิ้ว ร่างบางเซเล็กน้อย ลั่วเอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกลจึงรีบเข้ามาช่วยประคองนายหญิง “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” ซ่งหลานได้ยินไม่ชัดเท่าไรนัก เซี่ยหนิงโมโหลมแทบออกหู ไม่ว่านางทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด ทำอะไรก็ไม่ดีเลยสักอย่างใช่หรือไม่ นางขึ้นเสียงอย่างลืมตัว “ข้าจะเจ็บจะป่วยหรือจะตาย แล้วท่านมายุ่งอะไร!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม