นางเอกในดวงใจ

1282 คำ
ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมีที่ดินผืนหนึ่งอยู่ใกล้เนินเขาเถาฮวากู่ นางสั่งให้คนงานปลูกเรือนไว้หลังหนึ่ง ให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนสกุลซ่ง เรือนจวี๋ฮวาหลังไม่ใหญ่ไม่เล็ก ตกแต่งเรียบง่าย เน้นบรรยากาศอบอุ่น อีกทั้งพื้นที่โดยรอบยังถูกรายล้อมด้วยทุ่งดอกเบญจมาศที่ยามนี้บานสะพรั่งเหลืองอร่ามตา ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนชื่นชอบดอกไม้ จึงมักปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล ในวันฉงหยาง ฮูหยินผู้เฒ่าจะเชิญญาติมิตรสหายไปนั่งจิบชาชื่นชมดอกเบญจมาศ ช่วยกันทำขนมฮัวเกาและหมักเหล้า ถือเป็นกิจกรรมสังสรรค์เล็กๆ ในหมู่สตรี เซี่ยหนิงที่เป็นหลานสะใภ้คนเดียวของบ้านย่อมต้องมาช่วยฮูหยินผู้เฒ่าดูแลแขก ที่จริงวันนี้เซี่ยหนิงไม่สบายตัวนัก นางไข้ขึ้นสูงตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ก็ทนฝืนสังขารมา ด้วยเพราะทนฟังซ่งหลานเหน็บแหนมไม่ไหว เขาหาว่านางแสร้งป่วยเพื่อจะได้นอนสบายอยู่ในจวน ฮูหยินผู้เฒ่านั้นแก่ตัวลงทุกวัน นางจึงอยากสอนงานหลังบ้านให้หลานสะใภ้คนโต เผื่อวันใดไม่มีนางแล้วเซี่ยหนิงจะได้ดูแลงานหลังบ้านต่อ ทว่าเซี่ยหนิงนั้นขี้เกียจเกินไป นางมักหาข้ออ้างไม่ยอมเรียนรู้ เรื่องนี้ย่อมทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าคิดไม่ตก แต่นางหาใช่คนพูดมากอะไร ทำได้แค่บ่นกับป้าหลิวคนสนิทสองสามคำ แต่เรื่องดันเข้าหูซ่งหลานได้อย่างไรไม่รู้ ความไม่ชอบใจที่มีต่อเซี่ยหนิงจึงเพิ่มขึ้นไปอีก เดือนเก้าอากาศค่อนข้างดี ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆบดบัง เริ่มมีลมหนาวพัดโชยเป็นระลอก เซี่ยหนิงถึงกับต้องกายสั่นทุกครั้งยามต้องลมเย็น ฮูหยินผู้เฒ่าแอบสังเกตหลานสะใภ้ตั้งแต่นั่งอยู่ในรถม้าด้วยกันแล้ว เห็นสีหน้าของนางดูซีดเซียวผิดปกติจึงเอ่ยถาม “ไม่สบายหรือ” เซี่ยหนิงที่กำลังช่วยจัดโต๊ะตอบไปว่า “ครั้นเนื้อครั้นตัวนิดหน่อยเจ้าค่ะ” ฮูหยินผู้เฒ่า “หากเจ้าไม่ไหวก็ไปพักเสียก่อนเถอะ ตรงนี้ยังมีเฉียนเอ๋อร์” ซ่งเฉียนเองที่ก็กำลังช่วยจัดเตรียมโต๊ะอยู่อีกฝั่งชำเลืองมองพี่สะใภ้ก่อนแอบทำปากคว่ำ นึกว่านางรู้ไม่ทันความคิดของผู้หญิงคนนี้หรืออย่างไร ส่วนเซี่ยหนิงนั้นไม่ได้พูดอะไรนอกจากอมยิ้มก่อนก้มหน้าจัดโต๊ะต่อ กระทั่งช่วยงานในโถงใหญ่เสร็จก็ออกไปรอต้อนรับแขกที่ประตูใหญ่ ซ่งเฉียนที่เดินตามหลังพี่สะใภ้ออกมาตามคำสั่งท่านย่าถึงกับขมวดคิ้ว นางรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าแปลกไปเล็กน้อย ตั้งแต่อยู่ร่วมกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเซี่ยหนิงช่วยงานโดยไม่อิดออด อย่าว่าแต่นางสงสัย ท่านย่าก็รู้สึกเช่นเดียวกันเพราะตอนอยู่โถงใหญ่สองย่าหลานสบตากันอยู่บ่อยครั้ง วันนี้นอกจากฮูหยินผู้เฒ่าซ่งที่เป็นเจ้าของงานแล้ว ยังมีฮูหยินผู้เฒ่าบ้านอื่น หนึ่งในนั้นก็คือฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ นางมาพร้อมสวีซื่อลูกสะใภ้และหลานสาว หลานสาวคนนั้นดูโดดเด่นกว่าใครที่มา ผิวขาวเนียนละเอียด ผมดำขลับราวน้ำหมึก ใบหน้าเกลี้ยงเกลารูปไข่ ดวงตางดงามเป็นประกาย ที่สำคัญยังมียิ้มหวานตรึงใจ นอกจากรูปโฉมงดงามแล้ว กิริยายังอ่อนหวาน การพูดการจาหรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหวล้วนอ่อนช้อยไร้ที่ติ เซี่ยหนิงรู้สึกว่าราวกับนางมีปีกลอยได้ หญิงสาวที่งามราวเทพเซียนคนนั้นคือหลี่เสี่ยวลู่ นางเอกในดวงใจซ่งหลาน ที่เซี่ยหนิงรู้ว่านางคือหลี่เสี่ยวลู่ก็เพราะได้ยินซ่งเฉียนที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยทัก ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหลี่เสี่ยวลู่ ทั้งสองทักทายกันอย่างสนิทสนม ซ่งเฉียนไม่ได้พบหลี่เสี่ยวลู่มานาน ตั้งแต่พี่ใหญ่พาผู้หญิงคนนั้นเข้าจวน พี่เสี่ยวลู่ก็ไม่มาหานางที่จวนอีกเลย “พี่เสี่ยวลู่ ดีใจที่ท่านมาเจ้าค่ะ” หลี่เสี่ยวลู่ก้มบีบแก้มยุ้ยของซ่งเฉียน “ต้องมาอยู่แล้ว” เซี่ยหนิงที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูเผลอจ้องหลี่เสี่ยวลู่โดยไม่รู้ตัว ในใจไม่ได้คิดอะไรไม่ดี นอกเสียจากชมว่าหลี่เสี่ยวลู่นั้นสวยจริงๆ หลี่เสี่ยวลู่รับรู้ได้ถึงสายตาคู่นั้นที่จ้องมองมา ทว่านางไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะหยุดทักทายเหมือนแขกคนอื่น แน่นอนว่านางย่อมรู้ว่าสตรีนางนั้นคือเซี่ยหนิง ภรรยาของซ่งหลาน ...พอคิดถึงตรงนี้ แผลในใจที่คิดว่าสมานดีแล้วก็เริ่มปริแตกทีละนิด ซ่งเฉียนที่กำลังเดินจูงมือหลี่เสี่ยวลู่เดินเข้ามา เห็นสายตาที่พี่สะใภ้มองมาแล้วก็เกิดความกังวลขึ้นในใจ ก่อนเดินผ่านประตูใหญ่เข้าไปข้างในจึงได้หยุดพูดกับเซี่ยหนิงโดยที่หลี่เสี่ยวลู่เองก็ได้ยิน “ครั้งนั้นที่พี่เสี่ยวลู่ตกน้ำ อย่าคิดว่าไม่มีผู้ใดไม่รู้ไม่เห็นนะ หากท่านยังทำตัวไม่ดีกับพี่เสี่ยวลู่อีก ครั้งนี้ข้าฟ้องพี่ใหญ่แน่” สีหน้าของหลี่เสี่ยวลู่เรียบเฉย วันนั้นนางรู้ว่าใครแกล้งผลักตกน้ำ ซ่งเฉียนก็รู้แต่ถูกนางสั่งห้ามไม่ให้บอกเรื่องนี้แก่ผู้ใด ซ่งเฉียนไม่ชอบพี่สะใภ้คนนี้เลยจริงๆ ไม่รู้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรถึงทำให้พี่ใหญ่หน้ามืดคว้ามาเป็นภรรยา พี่ใหญ่ก็แย่เสียเหลือเกิน ไปทำงานต่างที่ไม่ถึงปีก็เปลี่ยนใจ ทำให้พี่เสี่ยวลู่ของนางต้องเจ็บช้ำน้ำใจ คราแรกเซี่ยหนิงยังงุนงงที่จู่ๆ ซ่งเฉียนก็มาพูดอะไรเช่นนี้กับตน นางจึงย้อนนึกถึงเนื้อหาในนิยายก่อนจะร้องอ้อในใจ ครั้งหนึ่งฮูหยินผู้เฒ่าพาซ่งเฉียนและเซี่ยหนิงไปเยี่ยมฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ที่จวนสกุลหลี่ เซี่ยหนิงบังเอิญเจอหลี่เสี่ยวลู่นั่งเหม่ออยู่ริมสระบัวเพียงลำพัง ด้วยความหมั่นไส้จึงย่องไปข้างหลังแล้วผลักหลี่เสี่ยวลู่ให้ตกน้ำ เซี่ยหนิงไม่คิดหวังให้จมน้ำตาย เอาแค่ความสะใจก็เท่านั้น ส่วนซ่งเฉียน เซี่ยหนิงรู้ว่าน้องสามีคนนี้ไม่ชอบตนจึงเอาแต่กระแหนะกระแหนทุกครั้งที่เห็นหน้า คราแรกนางไม่ถือสาเพราะเห็นว่าซ่งเฉียนยังเด็ก แต่นานวันเข้าความอดทนที่มีก็เริ่มหมดลง ซ่งเฉียนเลี้ยงกระรอกเผือกหายากไว้ตัวหนึ่ง นางรักกระรอกเผือกตัวนั้นยิ่งกว่าอะไร เซี่ยหนิงย่องเข้าไปในห้องของน้องสามี แล้วจัดการปล่อยกระรอกเผือกตัวนั้นคืนสู่ธรรมชาติ ซ่งเฉียนเมื่อทราบเรื่องก็ร่ำไห้แทบขาดใจ หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่พูดคุยกันอีกเลยจนกระทั่งวันนี้ ที่ซ่งเฉียนต้องยอมเอ่ยปากเพราะนางไม่อยากให้พี่เสี่ยวลู่ถูกรังแก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม