ร่างบอบบางในชุดกระโปรงสีหวานยาวแค่หัวเข่ารีบก้าวยาวๆ มากขึ้นเมื่อเสียงเครื่องยนต์คุ้นหูดังใกล้เข้ามาทุกขณะ และก่อนที่หล่อนจะเดินไปถึงป้ายรอรถประจำทาง รถสปอร์ตแลมสีบลอนด์เทาที่หล่อนจดจำเจ้าของมันได้ดีก็แล่นมาจอดเทียบข้าง พร้อมๆ กับกระจกรถที่ถูกกดให้ต่ำลงครึ่งบาน หล่อนอยากจะเดินหนี แต่เท้าก้าวไม่ออก ความอำมหิตจากนัยน์ตาสีดำสนิทพุ่งทะลุเลนส์แว่นตากันแดดสีดำเข้ามาใส่หล่อนอย่างจัง
ไม่เคยมีวินาทีไหนที่หล่อนไม่ตกตะลึงยามได้สบประสานสายตากับผู้ชายคนนี้ ดีแลน คาร์ตัน ผู้ชายที่หล่อลากดิน
“จะไปไหน”
“เอ่อ...”
หล่อนพูดไม่ออก สมองหยุดทำงานไปแล้ว มีแต่หัวใจเท่านั้นที่ยังคงเต้นอยู่ และเต้นอย่างรุนแรงอีกต่างหาก
“ฉันถามว่าจะไปไหน หูแตกหรือไง แม่คุณ!”
น้ำเสียงของเขาหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น เมื่อหล่อนเอาแต่อ้ำอึ้ง สุดท้ายก็จำต้องเค้นเสียงสั่นเทาตอบออกไป
“เอ่อ ลิลลี่... มีนัดค่ะ”
รอยยิ้มหยามหยันผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้าหล่อลากดินของเจ้าของรถสปอร์ตคันงาม
“กับไอ้คู่รักหน้าจืดของเธอสินะ”
“ค่ะ ขอตัวนะคะ”
“ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
เท้าบอบบางที่พยายามจะเดินหนี ต้องหยุดชะงัก และหันกลับมามองผ่านกระจกรถเข้าไปยังคนอำมหิตด้วยความประหลาดใจ
“ทำไมล่ะคะ หรือว่าคุณจอร์จต้องการให้ลิลลี่กลับไปคะ”
เขาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะใช้อำนาจในการออกคำสั่งแทน
“ขึ้นรถ”
“ลิลลี่เหรอคะ”
หล่อนเต็มไปด้วยความสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่ดีแลนชวนให้หล่อนขึ้นรถ
“แล้วเธอคิดว่าฉันบอกใครล่ะ ขึ้นรถ ฉันจะไปส่งเธอ”
เมื่อสมองได้ไตร่ตรองทุกอย่างด้วยความรอบคอบแล้ว หล่อนก็เลือกที่จะปฏิเสธเขา การอยู่ใกล้ดีแลนมันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับหัวใจเลย เขาทำให้หล่อนหวั่นไหว และเขาก็ทำให้หล่อนอ่อนแอได้อย่างง่ายดายเสมอ หล่อนเลือกที่จะวิ่งหนีเขาดีกว่า
“ขอบคุณสำหรับความกรุณาค่ะ คุณดีแลน แต่ลิลลี่ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ”
“นี่เธอกล้าขัดคำสั่งฉันหรือไง ลิลลี่”
น้ำเสียงของดีแลนไม่ได้ดังลั่น ตรงกันข้ามมันกลับแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แต่ในความแผ่วเบานั้นกลับเต็มไปด้วยโทสะร้ายที่น่าหวาดกลัว
“ลิลลี่ไม่ได้ขัดคำสั่งค่ะ แต่ลิลลี่เกรงใจ...”
ลัลลลินตัวสั่น มองเขาอย่างวิงวอน
‘ปล่อยหล่อนไปเถอะ’
หญิงสาวอ้อนวอนเขาภายในใจ และหวังว่าเขาจะรับรู้ แต่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้นสักนิด
“ขึ้นรถ นี่จะเป็นคำพูดครั้งสุดท้ายของฉัน”
ต่อให้ต้องวิ่งหนีหล่อนก็จะทำ หล่อนไม่ต้องการอยู่ใกล้กับดีแลน แม้แต่วินาทีเดียว และความคิดนี้ก็ทำให้สองเท้าก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็ว ไม่มีเสียงตะโกนเรียกจากผู้ชายคนนั้น มีแต่เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่วิ่งตามมา ไม่นานร่างของหล่อนก็ถูกคว้าเอาไว้ และกระชากเข้าไปกอดรัด
“อย่าลืมสิว่าฉันเป็นที่หนึ่งในกีฬาทุกประเภท และหนึ่งในนั้นก็คือวิ่งเร็ว”
“ปละ ปล่อย... ปล่อยลิลลี่เถอะค่ะ”
คนตัวโตที่ดูยังไง๊ยังไงก็หล่อระเบิดแสยะยิ้มร้ายกาจ หรี่ตามองหล่อนด้วยความอำมหิต
“ไปขึ้นรถกับฉัน”
“ไม่ค่ะ ลิลลี่มีนัด”
“ก็ให้ไอ้ระยำมันรอเก้อไปสิ เธอมีหน้าที่ต้องไปกับฉัน”
หล่อนดิ้นรน ดิ้นอย่างไร้จุดหมาย ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางต่อกรกับแรงอันมหาศาลจากผู้ชายตัวโตที่แข็งแรงกำยำไปซะทุกสัดส่วนอย่างดีแลนได้ สุดท้ายก็ถูกจับมาโยนลงบนเบาะรถสปอร์ตคันงามอย่างไร้ทางต่อสู้
“ถ้าคิดจะวิ่งหนีอีก คิดใหม่ได้เลย”
แล้วพ่อเจ้าประคุณก็เดินผิวปากอ้อมรถกลับมาขึ้นประจำที่นั่งคนขับ รถคันงามทะยานสู่ท้องถนนอีกครั้ง ในขณะที่หล่อนทำได้แค่เพียงมองออกไปข้างทางด้วยความเศร้าใจเท่านั้น หยาดน้ำตาเอ่อซึมสองดวงตาจนสุดท้ายก็กลิ้งหล่นลงมาบนพวงแก้มนวล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกคนที่เห็น มองหล่อนด้วยความอิจฉา แต่ใครจะรู้บ้างล่ะว่า หล่อนน่ะน่าสมเพชที่สุดต่างหาก
มือเรียวขาวสะอาดต้องรีบป้ายน้ำตาทิ้ง เมื่อรถสปอร์ตคันงามแล่นเข้ามาจอดในอาณาจักรของCarton Hospital ซึ่งที่นี่คือโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่สุดในรัฐลุยเซียนาและอันดับต้นๆ ของอเมริกา ผู้มีเงินหนักเงินหนาเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามารักษาในสถานพยาบาลที่แพงระยับอย่าง Carton Hospital ได้
“คุณดีแลน... เอ่อ... พาลิลลี่มาที่นี่ทำไมคะ ลิลลี่ไม่ได้ป่วยอะไรนะคะ”
เขาหันมามองหน้าหล่อน นัยน์ตาสีดำสนิทเยือกเย็นน่ากลัว
“ฉันก็ไม่ได้ว่าเธอเจ็บป่วยอะไรนี่”
“แล้ว... พาลิลลี่มา... ทำไมคะ”
ใบหน้าหล่อเหลาห่างแค่คืบเดียวจริงๆ ลมหายใจอุ่นร้อนของดีแลนช่างหอมกรุ่นจนหล่อนมึนเมา ผู้ชายคนนี้ทรงเสน่ห์ และมีอำนาจต่อหัวใจของอิสตรีเพศเหลือเกิน ลัลลลินกัดฟันละสายตาจากใบหน้าหล่อลากดินก้มลงมองมือตัวเอง
ดีแลนหรี่ตาแคบมองสตรีตรงหน้าด้วยสายตายากจะอ่านความรู้สึก
“เธอเป็นชนชั้นแรงงานของคาร์ตัน ดังนั้นในเมื่อเธอไม่ต้องดูแลคุณพ่อของฉัน เธอก็ต้องมาทำงานที่นี่แทน ฉันไม่อนุญาตให้เธอหยุดงาน”
จากที่ก้มหน้ามองตักตัวเอง ต้องเงยขึ้นโดยอัตโนมัติ
“แต่ว่า... คุณจอร์จอนุญาตแล้วนะคะ”
ดีแลนยิ้มเลือดเย็น เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวเองก่อน จากนั้นก็โน้มตัวเข้ามาใกล้หล่อนที่ตัวแข็งราวกับถูกสาป
“แต่ฉันไม่อนุญาต ปลดเข็มขัดนิรภัยซะ แล้วตามฉันเข้าไปในห้องทำงาน”
เขาถอยห่างออกไปก่อนที่หล่อนจะหัวใจวายแค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น หญิงสาวพ่นลมออกจากปาก หัวใจเต้นแรงระรัวด้วยความระทึก เหมือนเขาจะแกล้งยั่วให้หล่อนคลั่ง เหมือนเขาจะพยายามทำให้หล่อนยิ่งลุ่มหลงมากขึ้นไปอีก
“คุณ... จะให้ลิลลี่ทำงานอะไรคะ”
นัยน์ตาคมกริบไม่บอกความรู้สึกอีกเช่นเคย
“เข้าไปในห้องทำงานของฉันแล้วก็จะรู้เองนั่นแหละ”
ประตูรถถูกพนักงานด้านนอกเปิดให้ เขาก้าวลงไปด้วยท่าทางสง่างาม ในขณะที่หล่อนยังคงนั่งนิ่งด้วยหัวใจที่เต้นระรัวไม่หยุด
“ฉันให้เวลาเธอเดินตามมายังห้องทำงานของฉัน 5 นาที”