แม้ว่าการทำหน้าที่พยาบาลประจำตัวของอภิมหาเศรษฐีจะได้ค่าตอบแทนสูงลิบ แต่กระนั้นความเป็นส่วนตัวก็หายากยิ่งกว่าเข็มในห้วงมหาสมุทร หล่อนต้องทำงานเจ็ดวันเต็ม ตั้งแต่จอร์จตื่นนอนจนถึงเวลาที่เขาเข้านอนแล้วนั่นแหละจึงจะมีเวลาพัก แต่หล่อนโชคดีกว่าคนอื่นก็ตรงที่จอร์จ คูล คาร์ตัน ใจดีและเมตตาหล่อนมากนั่นเอง
“วันนี้ฉันให้หนูลิลลี่พักผ่อนได้หนึ่งวัน หนูออกไปเปิดหูเปิดตานอกบ้านได้ตามใจเลยนะ”
ลิลลี่ยกมือขึ้นพนมที่กลางอกและโน้มใบหน้านำหน้าผากมาจรดที่ปลายนิ้วด้วยกิริยางดงามอ่อนช้อย ความจริงวันนี้หล่อนนัดกับโจเซฟเอาไว้ในช่วงหัวค่ำช่วงที่จอร์จเข้านอนแล้ว แต่เหมือนชายชราจะรู้ว่าหล่อนกำลังต้องการเวลาส่วนตัว
“ขอบคุณค่ะ คุณจอร์จ แต่ลิลลี่...”
“อย่าเกรงใจฉันเลย ตั้งแต่หนูลิลลี่มาดูแลฉัน เนี่ยก็เกือบจะครบปีแล้ว หนูลิลลี่ไม่เคยได้หยุดพักผ่อนแม้แต่วันเดียว เอาเป็นว่ามันคือโบนัสจากฉันก็แล้วกันนะ”
“แต่ลิลลี่เป็นห่วงคุณจอร์จค่ะ”
หญิงสาวเต็มไปด้วยความเป็นกังวล และอดจะหวั่นเกรงต่อความขุ่นเคืองของดีแลนไม่ได้ หากเขารู้เข้าว่าหล่อนไม่อยู่ดูแลจอร์จ หล่อนคงถูกตำหนิอีกมากมายแน่
“ลิลลี่ขออยู่ดูแลคุณจอร์จนะคะ ลิลลี่ไม่มีธุระด่วนอะไรหรอกค่ะ”
จอร์จระบายยิ้มและยกมือขึ้นโบกไปมาคล้ายกับไม่เห็นด้วย
“ไปเถอะ วันนี้ฉันต้องการความเป็นส่วนตัวน่ะ อยากนั่งคิดอะไรคนเดียว”
“แต่...”
“ห้ามมีแต่เด็ดขาด”
น้ำเสียงของชายชราดุดันขึ้นกว่าเวลาปกติเล็กน้อย จนคนที่จะค้านต้องก้มหน้ารับคำ
เมื่อเห็นลัลลลินไม่คัดค้าน จอร์จก็อมยิ้ม และพูดขึ้น
“พาฉันเข้าห้องเถอะ แล้วก็สั่งให้แม่มาเรียดูแลเรื่องอาหารและก็ยาสำหรับมื้อกลางวันให้กับฉัน”
แม้จะรู้สึกไม่สบายใจเลยกับการที่ต้องละทิ้งหน้าที่ไป แต่คำสั่งของจอร์จก็ถือว่าเป็นที่สุดที่หล่อนไม่สามารถคัดค้านได้
“ค่ะ คุณจอร์จ”
หญิงสาวเข็นรถของจอร์จเข้าไปในห้องพัก ประคองท่านให้นอนพิงกับหมอนใบใหญ่ที่วางตั้งไว้กับหัวเตียง จากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้น
“ถ้าคุณจอร์จต้องการอะไรด่วน โทรตามลิลลี่ได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”
จอร์จอมยิ้ม มองสตรีสาวสวยตรงหน้าด้วยสายตาพึงพอใจ
“นี่ถ้าฉันชอบผู้หญิงนะ หนูลิลลี่จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ฉันคิดจะชอบ”
“ลิลลี่คงโชคดีที่สุดในโลกเลยค่ะ”
ลัลลลินรู้ดีว่าจอร์จแค่พูดเล่น ไม่ได้คิดจริงจังอะไร เพราะรสนิยมทางเพศนั้นเปลี่ยนแปลงกันไม่ได้ง่ายๆ หล่อนจึงยิ้มหวานให้กับคู่สนทนาโดยไม่ได้คิดอะไร แต่คนที่เดินมาหยุดอยู่ที่ประตูห้องที่เปิดค้างอยู่กลับไม่ได้คิดแบบนั้น
“ผมมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าครับคุณพ่อ”
“ไม่ขัดอะไรหรอก ว่าแต่ทำไมมาหาพ่อแต่เช้านักล่ะ ดีแลน”
นายจ้างของหล่อนหันไปยิ้มให้กับบุตรชายคนโตของตระกูลคาร์ตัน ซึ่งตรงกันข้ามกับหล่อนอย่างสิ้นเชิง เพราะหล่อนยิ้มไม่ออกเลยสักนิด สันหลังเย็นยะเยือกรับรู้ได้ถึงรังสีความอำมหิตจากดีแลนได้เป็นอย่างดี
หล่อนรีบลุกขึ้นจากการคุกเข่า และถอยหลังไปอยู่มุมห้องเมื่อผู้ชายตัวโตและมีพลังอำนาจในทุกอณูเนื้อก้าวมาหยุดที่ข้างเตียง
เขาชำเลืองนัยน์ตาดุดัน ที่เต็มไปด้วยโทสะมาที่ร่างกายของหล่อน มันทำให้หล่อนต้องรีบก้มหน้าหลบตาด้วยความหวั่นเกรงทันควัน เนื้อตัวสาวสั่นเทาราวกับจับไข้สูง
“ถ้าผมมาช้า ก็คงไม่ได้ยินอะไรดีๆ น่ะสิครับ”
“ลูกหมายถึงอะไรหรือดีแลน”
จอร์จไม่เข้าใจในคำถามของบุตรชายจึงถามกลับ และจ้องหน้าหล่อลากดินของดีแลนด้วยความพิศวง แต่ผู้เป็นลูกชายกลับยิ้มกลบเกลื่อนและเปลี่ยนเรื่อง
“เช้านี้คุณพ่อดูสดชื่นขึ้นมากนะครับ ผมอยากเห็นคุณพ่อเป็นแบบนี้ทุกเช้า”
“ก็เพราะหนูลิลลี่ดูแลพ่อเป็นอย่างดีนั้นแหละ ไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่ฟื้นตัวเร็วแบบนี้หรอก”
อีกแล้ว... ลัลลลินอีกแล้ว อะไรๆ ในหัวของบิดาก็มีแต่ผู้หญิงคนนี้ ดีแลนกำมือแน่น ตวัดตาหันกลับไปมองผู้หญิงตัวต้นเหตุด้วยสายตามืดลึกดุดัน จนคนที่เผลอเงยหน้าขึ้นมาประสานสายตาด้วยถึงกับสะท้านไปทั้งตัว และรีบก้มหน้าลงมองปลายเท้าอีกครั้ง
ดีแลนแค่นยิ้มหยัน หันกลับมาสนทนากับบิดาด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก แต่ในกระแสเสียงนั้นก็ยังคงอัดแน่นไปด้วยความชิงชังอย่างชัดเจน
“ลิลลี่คงมียาดีใช่ไหมครับ อย่างนี้ผมชักอยากจะลองป่วยดูบ้างแล้ว”
จอร์จหัวเราะร่วน พลางหันไปมองลัลลลินด้วยสายตาเอ็นดู
“ความอ่อนหวานและรอยยิ้มสดใสของหนูลิลลี่ไง คือยาวิเศษ พ่อรู้สึกสดชื่นทุกวันที่เห็นรอยยิ้มของหนูลิลลี่”
“ท่าทาง... คุณพ่อจะปลาบปลื้มลิลลี่มากเลยนะครับ ผมชักกลัวเสียแล้วสิว่า จะมีคุณแม่เลี้ยงเป็นนางพยาบาล”
คำพูดของดีแลนติดตลกในความคิดของจอร์จ ดังนั้นชายชราจึงหัวเราะขบขัน แต่ในความคิดของลัลลลินกลับไม่ใช่แบบนั้น เขากำลังดูถูก ดูแคลน และแสดงความเกลียดชังที่มีต่อหล่อนออกมาอย่างไม่คิดจะปิดบังอีก
ความเจ็บปวดที่พยายามซ่อนเร้นเอาไว้มันรุนแรงขึ้นทุกขณะ หล่อนมันโง่เอง บ้าเอง และก็น่าสมเพชที่ดันไปตกหลุมรักผู้ชายที่ชิงชังหล่อน ในสายตาของเขา หล่อนไม่เคยมีความดี ในสายตาของดีแลน หล่อนชั่วยิ่งกว่านางกากี
น้ำตาพาลจะหลั่งริน จำต้องรีบกะพริบตาเพื่อไล่มันให้กลับเข้าไปในอก จากนั้นก็รีบเอ่ยขอตัวกับจอร์จด้วยน้ำเสียงที่ปั้นแต่งให้สั่นน้อยที่สุดอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ... ลิลลี่ขอตัวก่อนนะคะ คุณจอร์จ”
“เธอจะไปไหน ลิลลี่”
ดีแลนหันขวับมามองหล่อนด้วยสายตาที่ไร้ความเป็นมิตร ท่าทางของเขาเหมือนดูประหลาดใจกับคำพูดของหล่อนมาก
หล่อนทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับเขา และกำลังจะตอบ แต่จอร์จก็พูดแทนหล่อนเสียก่อน นั่นทำให้หล่อนรู้สึกโล่งใจเป็นที่สุด
“วันนี้พ่อให้หนูลิลลี่พัก 1วันน่ะ”
“ไม่ได้นะครับคุณพ่อ ลิลลี่เป็นพยาบาลประจำตัวคุณพ่อ เธอต้องอยู่กับคุณพ่อตลอดเวลา”
ชายหนุ่มค้านเสียงแข็งกระด้าง อารมณ์หงุดหงิดเกิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ บ้าชะมัด! ทำไมเขาจะต้องสนใจไยดียายพยาบาลหน้าสวยอย่างลิลลี่ด้วย ทำไมจะต้องไปใส่ใจว่าเจ้าหล่อนจะอยู่หรือไม่อยู่ นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือไง
“แต่วันนี้พ่อต้องการความเป็นส่วนตัว และพ่อก็อนุญาตหนูลิลลี่ไปแล้วด้วย จริงไหมหนูลิลลี่”
แม้จะไม่อยากพูดหรือแสดงท่าทางอะไรในยามนี้นัก แต่ก็จำต้องยิ้มแห้งๆ และตอบกลับคำถามของจอร์จอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ค่ะ คุณจอร์จ”
จอร์จยิ้มใจดีให้กับหล่อน และโบกมือเป็นเชิงอนุญาตให้หล่อนออกไปจากห้อง ซึ่งหล่อนก็ทำตามอย่างรวดเร็ว
ดีแลนกัดฟันแน่น มองตามร่างอรชรที่เดินจากไปด้วยความไม่พอใจเป็นที่สุด จากนั้นก็หันมาพูดกับบิดา
“แล้วใครจะดูแลเรื่องอาหารและยามื้อกลางวันให้กับคุณพ่อล่ะครับ”
ใช่ ที่เขาไม่พอใจแบบนี้เหตุผลหนึ่งก็เป็นเพราะเป็นห่วงบิดา แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ดูหนักหนานักในหัวใจกลับไม่ได้เกี่ยวกับจอร์จเลยแม้แต่นิดเดียว มันกลับไปเกี่ยวพันกับแม่ลัลลลินนั่นต่างหาก หัวใจของเขาร้อนเป็นไฟเสมอยามที่แม่พยาบาลสาวคนนี้ห่างไกลสายตา
“มาเรียจะคอยดูแลพ่อ แต่ว่า... ถ้าดีแลนอยากจะเสนอตัวก็ได้นะ พ่อยินดี”
“ผมไม่สะดวกครับคุณพ่อ ผมมีงานต้องรีบไปเคลียร์”
คิ้วของจอร์จเลิกสูง และอมยิ้ม
“ถ้างานยุ่ง แล้วมาหาพ่อทำไมแต่เช้าล่ะ ดีแลน หรือว่ามีจุดประสงค์อื่นกันแน่”
สายตารู้ทันของบิดาทำให้ดีแลนรู้สึกอึดอัดไม่น้อย เขารีบกลบเกลื่อนความน่าละอาย และแย้งด้วยเหตุผลที่ปั้นแต่งขึ้นมา
“ผมคิดถึงคุณพ่อนี่ครับ ผมพยายามจะมาหาคุณพ่อในทุกๆ วัน ถ้าผมสามารถทำได้”
“ขอบใจมากดีแลน พ่อรู้ว่าลูกรักพ่อมาก แต่พ่อก็ไม่อยากให้ลูกต้องเสียเวลาขับรถไกลแสนไกลมาหาพ่อที่นี่ในทุกๆ เช้า จากนั้นก็ต้องขับย้อนกลับไปที่ Carton Hospital อีก”
“ผมทำได้ครับ เพื่อคุณพ่อ”
“แน่ใจนะว่าเพื่อพ่อ”
เป็นครั้งแรกที่โหนกแก้มสูงคลาสสิกของดีแลนมีสีระเรื่อ แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียวมันก็จางหายไป เหลือไว้แต่ความเยือกเย็น
“เพื่อคุณพ่อคนเดียวเท่านั้นครับ”
จอร์จพยักหน้ารับ พลางเหลือบตามองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังห้องพัก
“ไหนว่ามีธุระด่วนไง รีบไปสิ เดี๋ยวไม่ทันนะดีแลน”
หนุ่มหล่อผู้มีใบหน้าราวกับเทพเจ้าปั้นแต่งยกข้อมือขึ้นมามองนาฬิกาเรือนหรู จากนั้นก็รีบขอตัวจากบิดาทันที
“ขอบคุณครับคุณพ่อ เอาไว้ผมจะมาเยี่ยมคุณพ่ออีกเย็นนี้นะครับ”
“ตามสบายเถอะ พ่อยินดีต้อนรับลูกเสมอ”
ดีแลนยิ้มให้กับบิดา พร้อมกับก้มศีรษะด้วยความเคารพให้เล็กน้อย ก่อนจะหมุนตัวและก้าวยาวๆ ออกไปจากห้อง จอร์จมองตามร่างสูงสง่าของดีแลนไปด้วยสายตาระยิบระยับเพราะรู้ทันทุกความคิดของบุตรชายเป็นอย่างดี