ตอนที่ : 5 หน้าที่เมียเก็บ

1589 คำ
3 หน้าที่เมียเก็บ            แต่แล้วความหวังอันสุขสมของธีร์ เป็นอันต้องพังครืนลง เมื่อชลธารโทรมาปฏิเสธการนัดของเขาในช่วงเย็น            “ไปไม่ได้จริง ๆ ค่ะคุณธีร์ ตอนนี้หวานอยู่โรงพยาบาลแม่หวานไม่สบายค่ะ”            “หวานนี่คุณจะเบี้ยวผมเหรอ”            “หวานไม่ได้จะเบี้ยวคุณค่ะ แต่หวานมีความจำเป็นจริง ๆ นะคะคุณธีร์ อย่าโมโหหวานเลยนะ หวานรับปากว่าอีกสองวัน หวานจะไปอยู่กับคุณที่คอนโดแน่นอนค่ะ”            “หวาน” ธีร์เรียกหญิงสาวเสียงเข้ม            “คะคุณธีร์”            “อย่าทำผมโกรธ อย่าคิดหลอกผม ไม่งั้นมันจบไม่สวยรู้ไหม” เขาไม่ได้ขู่แต่ทำจริงแน่นอน            “โธ่คุณธีร์ หวานไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกค่ะ คุณมีข้อมูลหวานหมดแล้วทุกอย่าง หวานไม่กล้าหรอกค่ะ แต่แม่หวานไม่สบายมากจริง ๆ หวานขอโทษจริง ๆ ค่ะ อย่าโกรธหวานเลยนะคะ” ชลธารทำเสียงอ้อนเสียงหวานใส่ คนได้ยินจะหายโกรธก็ไม่ใช่            “ไม่ได้หลอกผมนะ”            “ไม่ได้หลอกจริง ๆ ค่ะ”            “งั้นถ่ายรูปคุณตอนนี้ ส่งมาให้ผมภายในหนึ่งนาที” เขาสั่งแล้วตัดสายไป ไม่ถึงหนึ่งนาทีชลธารก็ส่งรูปถ่ายของตัวเอง ตรงหน้าเตียงคนป่วยมาให้ เขาถึงยอมเชื่อและปล่อยหญิงสาวไปก่อน            ชายหนุ่มยังนึกหงุดหงิดในใจ ที่เมียเก็บตัวเองทำหน้าที่ได้ไม่ดีอย่างที่คาดไว้ จึงกดหมายเลขโทรศัพท์หาคนมาระบายอารมณ์ด้วยแทน            “ว่าไงธีร์”            “คืนนี้มากินเหล้ากันไหม”            “อ้าว ไหนว่าไม่ว่างแล้วไง”            “ตอนนี้ว่างแล้วโว้ย”            “ทำไม แม่เมียเก็บไปไหนแล้วล่ะ” ปราณชลเยาะเย้ยเต็มที่            “เออ นี่กำลังโมโหอยู่ จ่ายเช็คไปสามแสนเผ่นแน่บไปเลย บอกมีธุระอ้างแม่ไม่สบาย ฉันจะถูกชิ่งไหมวะเนี่ย” ธีร์พูดเหมือนไม่มั่นใจในตัวของชลธาร หรือเขาจะต้องมาเสียรู้ผู้หญิงตอนอายุสามสิบห้านี่ แม้จะมีรูปถ่ายในโรงพยาบาลมาก็จริง แต่ว่าหญิงสาวอาจจะถ่ายเอาไว้ในมือถือ อยู่ก่อนหน้านานแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้            “ไม่หรอก เขาไม่ชิ่งแกหรอก คงมีธุระจริง ๆ”            “เออ ๆ ไว้เจอกันนะ แกจะไปร้านไหนก็ส่งไลน์มาบอกแล้วกัน ว่างโว้ย” คนว่างจนอารมณ์เสียกดตัดสาย แล้วทิ้งศีรษะลงบนโซฟา อุตส่าห์มั่นใจว่าต้องได้แอ้มสาวอย่างสบายใจ เพราะจ่ายไปแล้วต้องตักตวงให้สมราคา แต่ดูที่หญิงสาวทำกับเขาสิ ปล่อยให้เขารอเก้อ แล้วค่อยโทรมาบอกว่าติดธุระมันน่านักนะ          ‘มาให้ความหวังกันทำไมหวาน ทำไมไม่บอกติดธุระตั้งแต่เมื่อตอนเที่ยง คอยดูนะพ่อจะจัดให้หนักเลย’          ก่อนไปเขาขอดูประวัติ คนที่ทำให้เขาอารมณ์เสียอยู่ตอนนี้สักหน่อย ธีร์เดินไปเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่โต๊ะทำงานในห้องนั่งเล่นของตนเอง เพื่อดูข้อมูลฝ่ายบุคคลของบริษัท            นางสาวชลธาร งามพันธุ์ อายุ 25 ปี เลือดกรุปโอ ประวัติการศึกษา...            เขาอ่านจบแล้วไม่เห็นสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด หญิงสาวใช้ที่อยู่ปัจจุบัน ในการสมัครงานครั้งแรก เขาเอะใจกับป้ายประกาศขายด่วนหน้าบ้าน หรือเพราะเรื่องนี้ทำให้หญิงสาวต้องมาทำอาชีพเสริม เขาเลื่อนดูตรงที่อยู่ซ้ำอีกรอบ            ลักษณะที่พักอาศัย แบบเช่า          ถ้าเป็นบ้านเช่าก็ไม่น่าจะมีสิทธิ์ประกาศขายเอง แปลว่าเจ้าของบ้านต้องการขายเอง ส่วนชลธารน่าจะมีปัญหาเรื่องนี้ ส่วนเรื่องมารดาป่วยนั้นเขาไม่อยากยุ่ง ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน หรือถ้าใช่ก็ยังไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่ดี            ชายหนุ่มปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง พร้อมกับครุ่นคิดในเรื่องนี้ไปด้วย เขาต้องรอบคอบไว้ก่อน เพราะผู้หญิงคนนี้คือพนักงานในบริษัทของเขาเอง ผิดพลาดอะไรขึ้นมา ตัวเขานั่นแหละที่จะลำบาก โทษฐานฟาดไม่เลือกคน ต้องมั่นใจว่าเอาอยู่ ไม่ใช่งูพิษมาแว้งกัดในภายหลัง            เป็นสองวันที่ทรมานมากสำหรับธีร์ เพราะเขาตั้งเป้าเอาไว้ค่อนข้างสูง แต่กลับไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ นึกว่าจะได้เห็นหน้าหญิงสาวที่ทำงาน กลับกลายเป็นว่า เจ้าตัวลากิจสองวันติดเสียอย่างนั้น ซ้ำยังปิดเครื่องไม่รับสายเขาอีก มันน่าโมโหนัก วันนี้เขาโทรติดจึงระเบิดอารมณ์ใส่ไปหลายลูก            “อย่าทำแบบนี้อีกนะหวาน คุณควรรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร คุณไม่มีสิทธิ์มาปิดเครื่องหนีผมแบบนี้”            “หวานไม่ได้ปิดเครื่องหนีคุณธีร์นะคะ แต่หวานติดธุระจริง ๆ ค่ะ”            “ธุระบ้าบอคอแตกอะไร ถึงกับเปิดมือถือไม่ได้ ฮ้า ! แล้วทำไมต้องกระซิบกระซาบด้วย กลัวใครจะมาได้ยินเหรอหวาน นี่มันจะเกินไปแล้วนะหวาน !” เขาเสียงดังใส่อย่างอารมณ์เสีย            “เอ่อ คือว่าหวาน” อีกฝ่ายทำเสียงหนักใจ ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ ออกมาแทน            “ตอบยากนักรึไง อย่าริอ่านมาโกหกผม ผมไม่ชอบคนเลี้ยงไม่เชื่องนะหวาน ยิ่งพวกตลบตะแลงตอแหลเก่งผมยิ่งเกลียดเข้าไส้” เขาทั้งดุทั้งด่า หมดกันภาพลักษณ์เจ้าของบริษัท ผู้แสนสุขุมของทุกคน กว่าจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง ปลายสายก็นิ่งเงียบไปเสียแล้ว            “วันนี้ผมต้องเห็นคุณที่ห้องของผม” เขาข่มความโกรธเอาไว้แบบสุดขีด แล้วเอ่ยประโยคนี้ออกมา “หวานสะดวกไปพรุ่งนี้นะคะคุณธีร์” คนพูดยกมือขึ้นป้องปาก ด้วยเกรงเสียงจะดังรบกวนคนป่วยบนเตียง            “วันนี้หวาน ผมต้องการเดี๋ยวนี้คืนนี้” เขาย้ำเสียงเข้ม ไม่มีการผ่อนปรนอีกต่อไปแล้ว            “งั้นหวานไปแต่ตัวนะคะ เสื้อผ้าค่อยมาเก็บทีหลัง”            “ได้ คุณรีบมาเลยนะ ผมให้ที่อยู่ไว้แล้ว อีกเรื่องที่คุณต้องรู้เอาไว้ ผมไม่ชอบรอใครนาน ๆ หรือถ้าทำอะไรไม่ถูกใจผม เงินที่จ่ายไปผมเอาคืนแน่ !”            “ค่ะคุณธีร์” ชลธารวางสายจากเขาแล้วถอนหายใจแรง ๆ ออกมา หันมามองมารดาซึ่งกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงคนไข้ เลยไปมองนางพยาบาลที่คอยดูแลคนป่วย            “ถ้ามีธุระก็ไปทำเถอะค่ะ ฉันดูแลแม่คุณได้ไว้ใจฉันได้ค่ะ” นางพยาบาลที่ชลธารจ้างมาดูแลมารดา บอกด้วยความเต็มใจ            “ขอบคุณคุณพลอยมากนะคะที่ดูแลแม่ให้หวาน”            “คุณหวานมีความจำเป็นต้องทำงานนี่คะ ฉันเข้าใจค่ะ มีธุระก็ไปทำเถอะค่ะ”            “ฝากแม่ด้วยนะคะ”            “ค่ะ” นางชมจันทร์ได้รับการผ่าตัดอย่างทันท่วงที แต่คนเป็นลูกสาวยังไม่อยากเคลื่อนย้ายคนป่วยในตอนนี้ เพราะหมอเองก็บอกให้รอดูอาการไปก่อน ตอนนี้หมดปัญหาค่าผ่าตัด แต่ยังมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายรายวันตามมา ก่อนหน้านี้ชลธารหมดหนทาง ถึงได้ไประบายให้เพื่อนร่วมงานฟัง ใครจะคิดว่าอีกฝ่ายจะแนะนำให้เธอ ไปทำอาชีพเสริมหลังเลิกงาน            ‘ร้านที่ทำรับแต่ลูกค้าวีไอพี ถ้าเขาถูกใจเราอาจให้ทิปเราเยอะ บางทีกระเป๋าแบรนด์เนมใบหนึ่ง จ่ายค่าผ่าตัดให้แม่หวานได้เลยนะ’            ชลธารตอบรับคำชวนในทันที และโชคก็เข้าข้างตรงที่เจอกับธีร์ เธอถึงมีเงินก้อนโตมาจ่ายค่าผ่าตัดมารดา และเมื่องานหลักก็ยังต้องทำ งานเสริมก็ต้องรับผิดชอบ หญิงสาวจำเป็นต้องจ้างพยาบาลมาดูแลมารดาแทน ระหว่างที่ยังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล            ชลธารนั่งแท็กซี่มาลงหน้าคอนโดมิเนียมของธีร์ ตามแผนที่ที่เขาส่งให้ทางข้อความไลน์ ครั้งแรกเธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จึงไม่ทันจดจำเส้นทาง รู้แค่ว่าคอนโดมิเนียมของเขา ตั้งอยู่บนถนนเส้นใจกลางกรุงเทพฯ หญิงสาวโทรศัพท์ขึ้นไปหาเขา เพื่อให้เขาลงมารับด้านล่าง ชายหนุ่มเดินฉีกยิ้มกว้างมาอย่างอารมณ์ดี แต่เธอกลับรู้สึกหนักหน่วงในใจ จะปั้นยิ้มก็ไม่เต็มที่ กระทั่งเขายังสังเกตเห็น            “มีอะไรกันแน่ คุณทำหน้าแบบนี้ผมไม่โอเคนะหวาน” เขาทักหน้าบึ้งใส่ ระหว่างอยู่ในลิฟต์โดยสาร ด้วยกันตามลำพัง            “ขอโทษค่ะคุณธีร์ หวานแค่มีเรื่องไม่สบายใจค่ะ”            “เรื่องไม่สบายใจอะไรก็ช่างหัวมันสิ แต่นี่คืองานของคุณนะหวาน คุณรับเงินไปแล้วก็ต้องเต็มใจทำ ผมไม่ได้บังคับนะ”            “ค่ะหวานรู้”            “หรืออยากเปลี่ยนใจ งั้นก็เอาเงินมาคืนผมสิ ทุกบาททุกสตางค์”            “โธ่คุณธีร์ อย่าโกรธหวานสิคะ” ชลธารทำเสียงงอนง้อเขาเบา ๆ แอบตกใจที่เธอกล้าออดอ้อนเขาแบบนี้ แต่เขาสิส่งสายตาเหี้ยม ๆ กลับมาให้ สงสัยเธอจะอ้อนไม่ถูกใจเขาซะแล้ว            ธีร์เดินนำหน้าออกจากลิฟต์ไป ท่าทางเหมือนคนกำลังโมโห แน่ละ แม่เมียเก็บคนสวยของเขา ทำหน้าเบื่อโลกหลังเห็นหน้าเขาได้ยังไง ทำเอาเสียความมั่นใจไปเลยทีเดียว            “ไปอาบน้ำ” เขาสั่งทันทีที่ประตูปิดลง            “ตอนนี้เหรอคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม