ตอนที่ : 1 อาชีพเสริม
1
อาชีพเสริม
ความผิดพลาดของเรื่องนี้ มันเกิดจากการตัดสินใจเอาตัวเข้าแลกกับเงิน แต่ไม่คิดว่าการทำอาชีพเสริมครั้งแรกนั้น เธอต้องมาเจอกับเจ้านายของตัวเองเข้า ชลธารนั่งหน้าซีดอยู่ด้านข้างลูกค้าหนุ่มลูกครึ่ง
“ฟลินซ์ผมขอแลกผู้หญิงกับคุณได้ไหม” จู่ ๆ คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็เอ่ยเสียงเนิบ ๆ ขึ้น หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาเล็กน้อย
“ได้สิเอาไปเลย ไปครับคนสวย ไปหาเพื่อนผมคนโน้นนะ” ฟลินซ์หันมาบอกเธอ พร้อมทำหน้าคล้ายเสียดาย แต่ก็ทำใจป้ำให้คนขอ
ชลธารขาสั่นเล็กน้อยยามต้องย้ายจากที่นั่งเดิม สวนทางกับผู้หญิงอีกคนที่เพิ่งลุกมาจากด้านข้างของธีร์ หญิงสาวย่อตัวลงนั่งด้วยชุดแสนวาบหวิว ด้านบนเห็นเนินอกอวบอิ่ม ด้านล่างสั้นจนแทบจะปิดอะไรไม่มิด
ธีร์ไม่คิดว่าการมาสังสรรค์กับลูกค้ารายใหญ่ในวันนี้ จะมีของแถมเป็นพนักงานของตนเอง ในบริษัทนั้นหญิงสาวดูเป็นคนเรียบร้อย ทำงานพอใช้ไม่ได้มีความสามารถดีเด่นอะไร ใครจะคิดว่าหลังเลิกงาน จะหารายได้เสริมด้วยอาชีพสาวนั่งดื่มแบบนี้
“คุณชื่ออะไรนะผมจำไม่ได้” เขาถามคนด้านข้างทั้งที่ไม่ได้มองหน้าด้วยซ้ำ
“ชลธารค่ะ”
“ชื่อเล่นสิ”
“น้ำหวานค่ะ”
“น้ำหวานนี่เอง เอาเป็นว่าคุณไม่ต้องเกร็งผมหรอกนะ ทำงานของคุณตามปกตินั่นแหละ” ธีร์บอกพร้อมกับวาดท่อนแขน ผ่านด้านหลังของชลธาร กอดหัวไหล่หญิงสาวเอาไว้
คนถูกกอดใจเต้นตึกตักไม่เป็นจังหวะ ความรู้สึกทั้งอับอายทั้งขายหน้า จนแทบไม่อยากเงยหน้าขึ้นมองใครอีกแล้ว ไม่รับรู้ด้วยว่าผู้ชายสองคนนี้ กำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่ เธอทำเพียงนั่งเงียบ ๆ มองพื้นโต๊ะอย่างเลื่อนลอย
ทว่าคู่ตรงหน้ากลับทำให้เธอนั่งนิ่งต่อไปไม่ได้ ครึ่งชั่วโมงผ่านไปบทสนทนาเริ่มหยุด และพวกเขาก็เริ่มกอดจูบกัน ไฟในห้องถูกหรี่ให้สลัวลง หัวไหล่มนถูกธีร์ลูบแล้วคลึงไปมาเบา ๆ
‘น้ำหวานต้องเข้าใจนะว่าลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่เป็นคนมีระดับ เงินดี เพราะฉะนั้นเขาทำอะไรก็ห้ามขัดใจเด็ดขาด’
‘ห้ามขัดใจ’
‘ใช่ น้ำหวานคงไม่คิดว่า สาวนั่งดื่มคือแค่ดื่มหรอกนะ’
ใช่ เธอเข้าใจดี ว่าอาชีพนี้ทำอะไรได้บ้าง แต่ว่าพอถึงเวลานั้นแล้ว กลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ขณะที่คู่ฝั่งตรงข้ามเกินเลยไปไกลแล้ว แต่เจ้านายของเธอยังทำแค่ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ หัวใจของชลธารเต้นไม่เป็นจังหวะ อีกทั้งยังหายใจไม่ทั่วท้อง ควรต้องทำอย่างไรดี
“ผมว่าคุณยังไม่ทำงานของคุณเลยนะคุณน้ำหวาน” แต่แล้วเขาก็หันมากระซิบตรงใบหูของเธอเบา ๆ ดวงหน้าหวานซึ้งเห่อแดงร้อนผ่าวขึ้นมา ชลธารตัวแข็งทื่อ ห่อไหล่ ตัวลีบ จนธีร์นึกแปลกใจ ทำไมต้องทำตัวหดตัวห่อแบบนี้ด้วย
“ผมบอกแล้วไงว่าทำงานของคุณไป ผมไม่ถือหรอก ไม่คิดมากด้วย” ชายหนุ่มคิดว่าเพราะความเป็นเจ้าของบริษัท อาจทำให้หญิงสาวประหม่า
“เอ่อ คือว่าหวาน ขอโทษค่ะคุณธีร์” ไม่รู้จะเอ่ยคำไหนออกไปได้อีก จะให้เธอปีนไปนั่งบนตักเขา เหมือนคนฝั่งตรงข้าม มันก็ดูจะหนักหนาเกินไปสำหรับงานแรกของเธอ ได้แต่นั่งถอนหายใจเบา ๆ ออกมา
“เพราะผมเป็นเจ้านายคุณใช่ไหม เลยทำใจลำบาก แบบนี้ผมเปลี่ยนคนได้ใช่ไหม” ธีร์หันมามองหน้าคนด้านข้าง สายตาบอกว่าเขากำลังไม่พอใจ ในงานบริการแสนห่วยของหญิงสาวอยู่
“ไม่ค่ะหวานไม่อยากเปลี่ยน” อย่างน้อยเป็นเขา เธอยังพอทำใจยอมรับได้ ชลธารนึกไม่ออกหากเป็นคนอื่น เธอจะยังทำใจกล้าแบบนี้อยู่ไหม
“งั้นก็ทำงานของคุณสิน้ำหวาน” ธีร์วางฝ่ามือบนพวงแก้มนุ่มของหญิงสาว เขาแนบจูบรสเหล้าเข้าหาอย่างเนิบช้า ชลธารดูเงอะงะเหมือนคนไม่เป็นงาน นั่นทำให้เขานึกขัดใจ กระชากตัวหญิงสาวเข้ามาหา แล้วระดมจูบใส่อย่างหนักหน่วงและรุนแรง
“อื้อ” คนถูกจูบจนแทบหายใจไม่ออก ทำแค่ผลักหน้าอกเขาไว้เบา ๆ ไม่กล้าออกแรงผลักมากกว่านี้ ชลธารต้องเตือนตัวเองว่าเขาคือลูกค้า และนี่คืองานของเธอ
ฝ่ามือหนาของธีร์เลื่อนลงไปกอบกุม ความนุ่มหยุ่นของหญิงสาว ซึ่งเจ้าตัวก็ผวาตกใจรีบดึงมือเขาออก
“หวาน” ธีร์เรียกชื่อเล่นของหญิงสาว ตามที่เจ้าตัวแทนชื่อตัวเองกับเขาก่อนหน้านี้
“ที่อื่นได้ไหมคะ” ชลธารเห็นฝั่งตรงข้ามเริ่มถอดเสื้อผ้ากันแล้ว หญิงสาวกลับทำใจทำเรื่องนี้ ต่อหน้าพวกเขาไม่ได้ ธีร์ปรายตามองตามสายตาของคนพูด เขาเข้าใจในความต้องการของหญิงสาวได้ไม่ยาก
“ฟลินซ์ขอตัวก่อนนะ เชิญคุณตามสบาย”
“อือ ๆ” คนที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ กับความอวบอิ่มตรงหน้า ส่งเสียงอู้อี้ออกมาเป็นการรับรู้
ธีร์ดึงข้อมือของชลธาร ให้ลุกขึ้นเดินตามเขาออกจากห้องคลับสุดหรูไป ระหว่างทางนั้นชลธารแทบจะก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยขึ้นมามองผู้คนด้วยซ้ำ แต่เขากลับหยุดแบบกะทันหัน
“อ๊ะ” ใบหน้างามเลยกระแทกแผ่นหลังหนาของเขาอย่างจัง รีบยกมือขึ้นจับจมูกตัวเองด้วยความเจ็บ
“เดินไม่ดูทางเลยนะหวาน ไหนดูหน่อย” เขาดุพร้อมกับดึงมือของชลธารออกจากจมูก ลองจับเบา ๆ ดู ครั้นเห็นว่าไม่เป็นไรแล้ว จึงถามในสิ่งที่ตนอยากรู้ต่อ
“ว่าแต่คุณไปค้างข้างนอกกับแขกได้เหรอ ผมต้องขอใครก่อนไหม” ถามแล้วก็มองหาคนที่ดูแล้ว เหมือนจะเป็นคนดูแลเรื่องนี้
“ไม่ค่ะไม่ต้องขอ หวานตัดสินใจเองได้ค่ะ” เพราะเธอทำงานแบบอิสระ ไม่ได้มีข้อผูกมัดกับสถานที่ จ่ายก็แค่ค่านายหน้าในแต่ละครั้งเท่านั้นเอง
“อิสระไม่สังกัดค่ายสินะ ดี ง่ายดี” สามคำสุดท้ายทำชลธารหน้าชาไปหมด หญิงสาวเดินตามแรงฉุดข้อมือของเขา ไปจนถึงรถคันสุดหรู คันที่เธอเคยแต่มองดู ด้วยความอยากรู้ว่า ข้างในจะนั่งสบายไหมนะ
ธีร์เปิดประตูแล้วดันตัวเธอเข้าไปนั่ง ก่อนจะอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับ หญิงสาวได้รู้แล้วว่ารถคันนี้นั่งสบายอย่างที่คิดไว้จริง ๆ กว้างขวางโล่งโปร่ง กลิ่นหอมบนเสื้อผ้าที่แขวนอยู่เบาะหลัง เป็นกลิ่นของความสะอาดสะอ้าน ไม่ต่างไปจากกลิ่นตัวของเจ้าของรถคันนี้เลย
“ผมจะไม่พูดเรื่องงานของเรานะหวาน คุณแค่ทำงานของคุณ ทำหน้าที่ของคุณก็พอ ไม่ต้องคิดว่าผมคือใครคุณคือใคร เข้าใจไหม” เขากำชับก่อนหมุนพวงมาลัยออกจากลานจอดรถคลับหรูแห่งนี้ไป
“เข้าใจค่ะ” ชลธารตอบเขาแล้วหันไปมองท้องถนนด้านข้าง เป็นค่ำคืนที่เธอต้องตัดสินใจเลือกทำบางอย่าง ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเธอไปตลอดชีวิต หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอหนืด ๆ กอดตัวเองเอาไว้แน่น ๆ ทำไมรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาแบบนี้
“หนาวเหรอเอาเสื้อผมคลุมตัวไว้ก่อน ผมหรี่แอร์ลงสุดแล้วนะ” รถจอดติดไฟแดงพอดี ธีร์เอี้ยวตัวเอื้อมมือไปหยิบสูทของตนเอง มาคลุมให้หญิงสาว
“ก็ใส่ซะเหมือนไม่ใส่แบบนี้ จะไม่ให้หนาวได้ไง”
คำขอบคุณที่กำลังจะเอ่ยออกไป ถึงกับชะงักค้างอยู่ในลำคอ แล้วเลือกที่จะไม่เอ่ยมันออกมา มือทั้งสองข้างภายใต้เสื้อสูทของเขา กำเข้าหากันแน่น ถ้าไม่จำเป็นเธอคงไม่ใส่ชุดนี้เหมือนกัน
คอนโดมิเนียมสุดหรูของธีร์ ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ชายหนุ่มเดินนำทางชลธารเข้าไปแบบเร่งรีบ เหมือนกลัวว่าจะมีคนมาเห็นเข้า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าหน้าประตูทางเข้าอยู่ แต่พวกเขาต่างยิ้มให้หญิงสาว เหมือนรู้ว่าเธอมาที่นี่ทำไม
“ทีหลังห้ามแต่งตัวแบบนี้มาอีกนะ” ประตูลิฟต์ปิดลง ธีร์ก็หันมาบอกด้วยน้ำเสียงดุ ๆ
ชลธารทวนคำพูดเขาในใจ พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นตามมา ‘ทีหลังห้ามแต่งตัวแบบนี้มาอีกนะ’ มีครั้งต่อไปด้วยเหรอ คิดแล้วก็ปรายตามองเขาเล็กน้อย หากเป็นเขาทุกครั้งไปก็ดีสิ