วันนี้ในยามเช้าเอมาเรียนแต่เช้า เพราะถูกบังคับเคี่ยวเข็นจากอ้น จนเขาต้องจำมาเรียนแต่แต่เช้าตามอ้น ถ้าขืนไม่มาเออาจจะได้เดินมาเรียน
"มาเรียนแต่เช้าเลยนะเพื่อน"ตั้มอดแซวอยู่หน้าวิทยาลัยไม่ได้ และทันเห็นเอลงจากท้ายรถของอ้น
"จะสอบอยู่แล้วก็ต้องมาเช้าหน่อย"เอพูดแก้เขิน
"หรือว่าเป็นหนุ่มพาณิชย์หรือเปล่าที่ทำให้มาเช้า เอ่อ แล้วมาด้วยกันได้อย่างไร"ตั้มเพื่อนหนุ่มสงสัย
"ก็เพื่อนแถวบ้าน เจอกันเมื่อวานก็เลยขอไปค้างคืนสักคืน ดูที่หน้าผากซิ โดนฟันแบบเสียดๆ จำเป็นต้องหาที่อยู่ใหม่ หาไม่ทันเลยขอไปอยู่มันหน่อย"อ้นโกหกหน้าตาย
"ใครทำมึงวะ บอกมา"ตั้มโมโหยอมไม่ได้ ที่เพื่อนโดนทำร้ายถึงจะไม่มากก็เหอะ
"ช่างมันเถอะ"เอไม่อยากจะมีเรื่องต่ออีก เพราะสัญญาไว้กับอ้น ไม่ใช่เพราะความรักแต่ต้องการความช่วยเหลือจากต้น เพราะเขามีเงินใช้ไม่ถึงสิ้นเดือน รวมทั้งค่าเทอมที่พ่อกับแม่เขาก็ยังไม่ได้ส่งมาให้ เขาจึงค้างจ่ายไว้ถ้าสิ้นเทอมไม่จ่ายก็คงไม่จบการศึกษา เพราะเอนั้นได้วางแผนไว้แล้วว่าจะไปอยู่กับอ้นให้ได้ เพราะอ้นเท่านั้นที่จะช่วยเรื่องต่างๆของเขาได้
"ช่างมันได้อย่างไง ตั้งแต่มึงเจอหนุ่มพาณิชย์นี่อ่อนแอเกินไปหรือเปล่า"ตั้มยังไม่เลิกสงสัย
"มึงพูดอะไร ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ผู้ชายกูจะมีอะไรได้อย่างไงวะ"เอพูดจริงจัง
"มึงเป็นอะไรของมึง กูล้อเล่นใครเขาจะคิดล่ะ หน้าอย่างมึงนี่นะจะชอบผู้ชาย"ตั้มไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น แค่สงสัยเฉยๆ แต่เอกับร้อนตัวกลัวเพื่อนเข้าใจผิด
"เอ่อ แล้วไป"เอถอนหายใจ
"มึงจะไม่เอาเรื่องมันจริงเหรอวะ"ตั้มยังไม่จบเรื่องเอาคืนอีก เขารู้สึกแค้นมาก
"จะสอบแล้วนะมึง ถ้าเกิดมีเรื่องไม่จบแน่ โดนทำทัณฑ์บนไว้อยู่นะโว้ย อย่าลืมซิ"นี่คือเหตุผลที่เอกลัว
"จริงว่ะ กูลืมไปเลย ถ้ามีเรื่องคราวนี้โดนไล่ออกแน่ พ่อกูตีกบาลหัวแตกตายเลย ขอบใจว่ะที่เตือนสติ ไปเรียนกันเถอะเพื่อนรัก"ตั้มกอดคอเอแล้วพากันเดินเข้าไปในวิทยาลัย
“สงสัยไว้นี้ฝนจะตกไอ้เอมาแต่เช้า”เจนเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ค่อยถูกชะตากัน พูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นเอเดินมากับตั้มยังห้องเรียน
“กูจะมาเช้าหรือสายหรือไม่มามันก็เรื่องของกู มึงมายุ่งอะไรกับกูวะไอ้เจน”
“พูดแค่นี้ก็โกรธ ขี้ใจน้อยไปได้”
“ไอ้เจนมึงเป็นอะไรชอบหาเรื่องไอ้เอตั้งแต่วันแรก จนใกล้จะจบการศึกษาแล้วมึงก็ยังไม่เลิกอีก”
“ก็ไม่มีอะไรเพื่อนกันนี่ พูดเล่นนิดหน่อยจะเป็นอะไรไปล่ะ”เจนพูดขึ้น
“นานๆครั้งก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่ทุกวันทุกเวลาที่มีโอกาส มึงมีอะไรกับกูนักหนา หรือว่ากูไปเหยียบอะไรมึง”
“กูไม่พูดก็ได้ ไปเถอะไอ้ตูน”เจนชวนตูนเพื่อนชี้อีกคนเดินเข้าไปในห้องเรียนทันที
ส่วนอ้นกับตั้มเดินตามเข้าไปที่หลังด้วยอารมณ์ที่กรุ่นนิดๆ
เมื่ออ้นมาถึงในวิทยาลัยก็มองหาจีจี้ เพื่อนสาวที่มาเช้าตลอดกาล อ้นไม่เคยมาทันจีจี้แม้แต่ครั้งเดียว
"ว่าไงจ๊ะคนเสน่หแรง"จีจี้เงยหน้าแซวเพื่อนหนุ่มทันทีที่มาถึง
"เสน่หแรงอะไร"อ้นมองค้อนแล้วนั่งลง
"มากับหนุ่มเทคโนนี่ ถ้าไม่เรียกว่าเสน่หแรงแล้วเรียกว่าอะไรล่ะ"
"คิดมากนะ เพื่อนแถวบ้านมาเจอกันเขานอนด้วยคืนหนึ่ง"ต้นพูดตามความจริงไม่อยากปิดบังเพื่อนสาว แต่บอกไม่หมดกลัวโดนด่า
"อยู่ติดกันแค่นี้นะ พึ่งเจอกันเชื่อเนอะ"
"ทำไมไม่เชื่อ เรื่องจริงจะโกหกเธอทำไม"ต้นเริ่มวิตก กลัวเพื่อนคิดไปไกล
"จร้า จะเชื่อสักครั้ง"จีจี้ไม่เชื่อแน่นอน เพราะอ้นเป็นคนอ่อนต่อโลก เธอกลัวหนุ่มเทคนิคหลอกอ้น ถ้าเป็นเรื่องพลีกายเธอยินดีไม่ขัดขวาง เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ แต่ที่เธอกลัวก็เรื่องโดนหลอกเอาเงิน เพราะอ้นเป็นคนใจอ่อนมองโลกสวยงาม
"ไปห้องเรียนดีกว่า เดี๋ยวอาจารย์มา"อ้นตัดบทรีบลุกขึ้นทันที
จีจี้จึงต้องลุกขึ้นอ้นเข้าไปในห้องเรียน แต่ใจก็ยังอดเป็นห่วงอ้นไม่ได้ ถึงกระนั้นในช่วงเวลานี้เธอทำอะไรไม่ได้ นอกจากดูอยู่ห่างๆแบบห่วงๆไว้ชั่วคราว ถ้าเกิดปัญหาอะไรเธอถึงคิดจะเข้าไปช่วยอ้น
“อุ๊ย วันนี้มีหนุ่มซ้อนท้ายรถมาด้วย”ซันเพื่อนร่วมห้องที่ไม่สนิทมากนัก เข้ามาทักทันทีที่อ้นเข้าไปในห้องเรียน
“เธอ เด็กเทคโนเชียวนะ แต่ฉันเห็นหน้าไม่ชัดแต่ดูแล้วหล่อชัวร์”ซีเพื่อนร่วมห้องที่ไม่ค่อยสนิทอีกคนเดินเข้ามาหาอ้น พร้อมพูดแซวอย่างออกรสออกชาติ
“พวกเธอนี่ก็อะไรกัน ตาหูนี่ยังกับกล้องวงจรปิด”
“แน่นอนอยู่แล้ว วันหลังจะไปเที่ยวหาที่ห้องนะ”ซันพูดขึ้น
“ตามใจ”อ้นพูดจบก็นิ่งทันที และหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านตัดความรำคาญทั้งสองหนุ่ม
ซันและซีเมื่อเห็นอ้นไม่อยากพูดอะไรต่อ พวกเขาก็เลยเงียบตามลงไปด้วย ไม่พูดเรื่องหนุ่มเทคโนต่ออีกเลย ส่วนจีจี้ก็เครียดพอสมควรกับเพื่อนรักที่มีอาการผิดปกติ เหมือนกับคนที่กำลังมีความรักอย่างไงอย่างงั้น
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนอ้นก็รีบกลับห้องทันที เพราะลึกๆเขาหวังไว้ว่าเอจะมาหาเขาตามคำที่พูดไว้เมื่อเช้า อ้นก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะเจอกันแค่วันเดียว ทำไมจิตใจของเขาถึงอดคิดถึงเอไม่ได้ ในขณะที่อ้นกำลังคิดอะไรเพลินๆเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู อ้นจึงออกไปเปิดประตูเพราะเขาคิดน่าจะเป็นเอแน่นอนที่จะมาหาเขา ซึ่งอ้นก็คาดไว้ไม่ผิดแม้แต่น้อย
“เกิดอะไรขึ้น”อ้นเห็นใบหน้าของเอที่เปื้อนไปด้วยเลือด
“โดนตีมา”
“นั่นกระเป๋าอะไร”อ้นถามด้วยความสงสัย
“กระเป๋า กู เอ้ย กระเป๋าเราเอง”
“เข้ามาก่อนซิ หน้าตามีลือดเต็มไปหมดแล้วดูไม่ได้เลย”
เอเดินตามอ้นมานั่งบนเตียงนอน ส่วนเอนั้นก็หากระดาษทิชชูเพื่อมาเช็ดเลือดที่ออกมาเต็มใบหน้า
“ไปโดนอะไรมาล่ะ”
“โดนตีนะซิ พอดีเราเดินคนเดียวตอนกลับห้อง มันมาดักที่ห้องแล้วตีเรา”
“นายนี่เนาะ”อ้นถอนหายใจ
ต้นเช็ดใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบเลือดออกจนเกือบหมด ส่วนที่แห้งๆยังมีบ้างประปราย
“รออยู่นี่นะ เดี๋ยวจะไปซื้อยาล้างแผล”
“ไม่ต้องก็ได้เช็ดให้แห้งก็พอแล้ว เรื่องแค่นี้เราเจอมากกว่านี้อีกเมื่อก่อนน่ะ”
“ไม่ได้หรอก รอนี่แหละ เราจะไปซื้อข้าวด้วย”
เมื่อพูดจบเอก็ลงไปชั้นล่างทันที ซึ่งมีมินิมาร์ทตลอดคืนเพื่อขายสินค้าให้แก่คนเช่าห้อง ส่วนเอนั่งรออ้น ด้วยความเจ็บปวดนิดๆบริเวณใบหน้า เอนั่งรออ้นสักพักหนึ่งอ้นก็เข้ามาในห้องพร้อมอุปกรณ์ทำแผล
อ้นจัดแจงใช้สำลีชุบน้ำแฮลกฮอลล์ มาเช็ดบริเวณรอบแผล และรอยแดงที่แข็งเป็นตัวจึงไม่สามารถเช็ดออกด้วยกระดาษแห้งได้ หลังจากนั้นอ้นน้ำสำลีชุบน้ำเกลือ บรรจงเช็ดแผลอย่างนิ่มนวลแท่บจะไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย
“มือเบาจังเลย”เอยิ้มให้อ้น
“ไม่ต้องมาปากหวาน อยู่เฉยๆเดี๋ยวก็เจ็บหรอกพูดมาก”
“เจ็บแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก แค่อ้นเช็ดรอยแผลให้เราแค่นี้ก็เป็นปลื้มมากที่สุด”
ในระหว่างที่อ้นทำความสะอาดแผลของเออยู่นั้น เอก็จับมือของอ้นไว้อย่างหลวม
“พอได้แล้ว”
“เหรอ ถ้างั้นก็ปล่อยมือได้แล้ว”
“ลืมไป”เอยิ้มแห้งๆ
“กระเป๋านั่นเอามาทำอะไร”อ้นยังไม่หายสงสัย เมื่อพลันไปเห็นกระเป๋าของเอที่วางอยู่ข้างเตียง
“เราไม่มีที่อยู่ โดนไล่ออกไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า และอีกอย่างพวกนั้น มันรู้ที่อยู่ของเราแล้วด้วย เราก็กลัวพวกมันจะกลับมาทำร้ายเราอีก”
“ที่นี่มันจะบุกถึงห้องไหมเนี่ย”
“ไม่ออก ที่นี่มีป้อมยาม ปลอดภัย พวกมันไม่กล้าเข้ามาทำร้ายเราหรอก”
“แล้วนายจะเอาอย่างไงต่อหลังจากนี้ล่ะ”
“ก็อยากจะมาขออยู่กับนายจนกว่าจะสอบเสร็จ เพราะเหลือแค่ไม่กี่วันเท่านั้นก็สอบกันแล้วนี่ คงไม่เป็นไรนะถ้าเราจะอยู่กับนายสักระยะสั้นๆ”
“ฮือ”อ้นนิ่งไปสักระยะหนึ่ง เพราะใจหนึ่งก็อยากให้อยู่ แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้อยู่ เพราะพึ่งรู้จักกันวันนี้แค่วันที่สองเอง จะให้มาอยู่ห้อง อ้นก็มีความกลัวเหมือนกัน แต่ก็หักห้ามใจความต้องการไม่ได้
“ก็ได้”
“ขอบใจมากนะอ้น”เอลักขโมยหอมแก้มอ้นทันที
“นายทำอะไร”อ้นตีไปที่ขาของเอ
“ก็หอมแก้มขอบคุณไง”
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก ใครเขาจะให้อยู่ฟรีต้องช่วยกันออกค่าใช้ซิ”
“แต่เราไม่มีเงินเลยนะ”
“ไม่มีเงินเลยเหรอ”
“ก็ใช่นะซิ ถ้าอย่างนั้นเอาตัวเราไปแทนได้ไหม เราให้หมดทั้งตัวและใจเลย”
“ใครเขาอยากได้ล่ะ ตัวเหม็นๆ”
“เดี๋ยวก็ไปอาบน้ำก็ไม่เหม็นแล้ว”
“ถ้างั้นก็ไปอาบน้ำซิ เหม็นจะตายอยู่แล้ว แต่อย่าให้โดนหน้านะเดี๋ยวแผลจะหายช้า”
“เป็นห่วงเหรอ”เอยิ้ม
“ไม่ได้ห่วงหรอก แค่กลัวป่วยไปแล้วจะมาสร้างความลำบากให้เราอีก ขี้เกียจดูแลคนป่วยคนไข้”
“ครับผม”เมื่อเอพูดจบก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที
ในส่วนของอ้นเมื่อเอเข้าห้องน้ำไปแล้ว เขาก็นั่งครุ่นคิดเรื่องที่เอมาพักอาศัยอยู่ด้วยในครั้งนี้ อ้นไม่รู้ว่าเขาคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่ที่ให้อ้นมาอยู่ด้วย แต่ในเมื่อในส่วนลึกของจิตใจของเขาเรียกร้องว่าให้อยู่ เขาจึงไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะอ้นแอบมีใจเอนิดหน่อยเสียแล้ว