ยามดึกดื่นอ้นและเอได้นอนเคียงข้างกันอยู่บนเตียงนอน ที่นอนกันเพียงสองคนก็เกือบเต็มพื้นที่ เป็นครั้งที่สองแล้วที่อ้นได้นอนร่วมเรียงเคียงหมอนกับชายหนุ่ม ในใจตอนนี้เขาระทึกสุดไม่รู้จะทำจะพูดอะไรต่อจากนี้ จนเอต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเพื่อทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นมา
“นายมีแฟนหรือยัง”เอนั้นก็ค่อนข้างแน่ใจว่าอ้นยังไม่มีแฟน แต่เขาก็อยากรู้จากปากของเอจะได้แน่ใจยิ่งขึ้น
“ยัง นายล่ะ”อ้นถามกลับ
“ยัง เหมือนนายนั่นแหล่ะ คนอย่างเราใครจะเอามาไปเป็นแฟน”
“ทำไมดูถูกตัวเองอย่างงั้น”อ้นหันมามองเอ
“ก็มันจริงนี่ ทั้งจน เรียนก็ไม่เก่ง แถมเกเรมีเรื่องตลอด ถ้าได้ใครได้เป็นแฟนคงปวดหัวแน่ๆ”
“ไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าได้ทำงานเดี๋ยวก็มีเงินเองนั่นแหละ ถึงตอนนั้นจะมีสักกี่คนก็ได้แล้วแต่ใจนายเลย”
“เห็นเราเป็นคนอย่างไง ถ้าจะมีก็ต้องมีคนเดียวซิ เรารักเดียวใจเดียวนะ”
“เหรอ”อ้นแอบยิ้ม
“นายล่ะ หน้าตาก็ดี ดูมีฐานะพอสมควร เรียนก็น่าจะเก่ง ทำไมยังไม่มีใครมาคอยดูแลสักคน”
“เราเป็นคนไม่มีเสน่ห จืด ชืด แบบนี้ใครเขาจะสนใจล่ะ”
“จะว่าไปเราสองคนก็เข้ากันได้นะ ตัวเรามีรสชาติเกินพอดี ส่วนนายก็มีชีวิตที่เรียบง่าย มันส่วนผสมที่หลงตัวนายว่าไหม”
“ไม่รู้สิ ไม่เคยมีแฟนเราไม่เข้าใจตรงนี้หรอก นายพูดเหมือนอย่างกับนายเคยมีแฟนนั่นแหละ”
“ไม่เคยหรอกคิดเอาเอง”
“มีแบบนี้ด้วยเหรอคิดเอาเอง”
“มีสิ เรื่องแบบนี้เป็นทุกคนนั่นแหละ คิดไปเองเอ่อเองว่าเขาชอบเรา อะไรประมาณนี้แหละ นายไม่เคยเหรอคิดว่ามีคนมาชอบนายอะไรแบบนี้”
“ไม่รู้ไม่อยากคิดปวดหัว”
“เราคิดนะ ว่าน่าจะมีคนชอบเราบ้าง ถ้ามีจริงก็จะดีมาก เราจะยอมทำทุกอย่างให้คนนั้นมีความสุขที่สุด”
“เหรอ ถ้ามีคนชอบนายจริงๆนายจะทำอย่าไรล่ะ”
“ก็จะมาอยู่กับเขาเลย ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เราว่ามีความสุขดีนะนายว่าไหม”เอหันมามองอ้นแล้วอมยิ้มนิดๆ
“ไม่รู้สิ ไม่เคยมีใครมารักแล้วมาอยู่ด้วย”
“แล้วที่เป็นอยู่นี่ล่ะ ที่นอนอยู่ข้างๆไม่ใช่มาอยู่ด้วยเหรอ”
“คนข้างๆไม่เชื่อ เพราะรู้จักกันแค่ไม่กี่วันเอง จะมารักชอบพอกันคงเป็นเรื่องยาก”
“ไม่จริงหรอก ถ้าคนเรารักกันแค่เห็นครั้งแรกก็รักแล้วไม่ใช่เหรอ นายว่าใช่ไหมครั้งแรกก็ถูกชะตามีให้พบเห็นเยอะแยะ เขาเรียกว่ารักแรกพบไง”
“มีจริงเหรอ”
“นายลองถามใจตัวเองสิ ถ้านายเคยเป็นก็มีจริงนั่นแหละ คนนั้นก็อาจคิดเช่นเดียวกับนายก็ได้ นายว่าไหม”
“ไม่รู้ ไม่อยากคิด นอนดีกว่า”
ด้วยความเขินอายอ้นจึงหันมานอนตะแครงทันที เพราะไม่อยากให้เอเห็นใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความอาย
เมื่อเอเห็นอ้นหันหลังให้ก็รู้โดยสัญชาติญาณทันที ว่าอ้นนั้นอายและเขินไม่อยากจะพูดอะไรต่อ เขาจึงอยากสานควาสัมพันธ์ขึ้นให้มากกว่านี้อีก เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองที่ต้องการใช้เงิน เอจึงหันร่างตะแครงโอบกอดอ้นอย่างหลวมๆ
“กอดทำไมร้อน”อ้นแสร้งพูด
“เราลืมเอาหมอนข้างมาด้วย เพราะถ้าไม่ได้กอดหมอนข้างเรานอนไม่หลับ นายเป็นหมอนข้างให้เราได้ไหมคืนนี้”
“เราไม่ใช่สิ่งของนะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก”
“รู้สึกอะไรเหรอบอกหน่อยได้ไหม”
“ไม่บอก ถ้าอยากกอดก็กอดไปไม่ว่าอะไรหรอก ไม่อยากคุยด้วยแล้วง่วงนอน”
“ถือว่าอนุญาตแล้วเรานะ ถ้างั้นเราจะกอดทั้งคืนจะได้หลับสบาย”
เอเงยหน้าขึ้นแล้วก้มลงหอมที่แก้มของอ้นสองสามฟอด
“ฮือ ชื่นใจ”
“นอนได้แล้ว เราง่วง”อ้นอมยิ้มแล้วหลับตาลง
ในส่วนของเอยังไมได้หลับเขานอนครุ่นคิด เรื่องราวต่อจากนี้เขาจะทำอย่างไรดีกับอ้น เพราะเขาก็ไม่ได้รักอ้นแต่อย่างใด ที่อยู่ด้วยและทำเหมือนรักก็แค่ผลประโยชน์บางอย่างที่อยากได้จากอ้นแค่นั้น
อ้นเริ่มรู้สึกตัวอีกครั้งก็ใกล้แจ้งซึ่งได้เวลาที่จะต้องไปเรียนหนังสือ เขากำลังจะลุกแต่ก็สะดุดกับของแข็งบางอย่างที่อยู่บั้นบ้ายของเขา อ้นจึงเอื่อมมือไปจับทันที
“จับแล้วห้ามปล่อยนะ”เสียงเอดังขึ้นเพราะเขายังอยู่ในท่านอนตะแครงกอดอ้นอยู่
“ทะลึ่ง”อ้นรีบปล่อยทันทีและรีบลุกขึ้นเข้าห้องน้ำ
ส่วนเอก็นอนอมยิ้มตามแผนการที่วางไว้
หลังเลิกเรียนอ้นรีบกลับหอ เพราะต้องไปตลาดหาซื้อกับข้าวอาหารการกิน เพราะอยู่กันสองคนต้องซื้อหลายอย่าง
เมื่ออ้นมาถึงห้องก็จัดแจง ทำความสะอาดห้องให้หมดจดไร้ฝุ่นไรละออง ขัดพื้นจนเงาวับ ข้าวของเครื่องใช้เก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีสิ่งไหนขวางหูขวางตา พร้อมฉีดน้ำหอมให้กระจายทั่วห้องจนหอมฟุ้ง ส่วนอาหารการกินก็จัดใส่สำหรับใช้ฝาชีปิดไว้
ทุกอย่างเสร็จสิ้นเข้าที่เข้าทาง ต้นจึงไปอาบน้ำจนเสร็จ แต่งตัว เปิดทีวี นั่งรอเอกลับมา ซึ่งเกินคาดที่อ้นคิดไว้ เอกลับมาไวกว่าพอสมควร เวลาคร่าวๆทุ่มเศษๆ
เพียงเอเข้ามาภายในห้อง กับต้องพบกับกลิ่นน้ำหอม ที่ฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ ยิ่งเขาได้กลิ่นยิ่งชื่นใจ เขามองไปรอบบริเวณห้องที่ดูสะอาดตา ข้าวของเครื่องใช้อยู่เป็นที่เป็นทาง เขามองหากระเป๋าใบใหญ่ของเขา ซึ่งก็อยู่บนหลังตู้เสื้อผ้าจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เอมองหาเสื้อผ้า ที่เขาคิดว่าน่าจะอยู่ในตู้ เอจึงไปเปิดดูก็เห็นเสื้อกางเกงของเขา อยู่ในไม้แขวนจัดเรียงไว้อย่างดี รีดจนเรียบดูสบายตา แม้แต่กางเกงในพับไว้ล่างสุด ในตู้ ข้างๆก็เป็นถุงเท้าที่อาทิตย์หนึ่งแท่บไม่ได้ซักวางไว้เป็นระเบียบ ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าเป็นใครเขาหรือของอ้น เพราะของเขาไม่มีอยู่ในตะกร้าเลย แต่เอก็สลัดความคิดนั้นทิ้งไป เอจึงมองดูสิ่งที่ต้นทำให้ดีกว่าดูเพลินตาดี จนเขาคิดว่ามีเมียในวัยเรียนมันดีอย่างนี้นี่เอง
"ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าว"เสียงของอ้นดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา เอจึงแกล้งไม่หันไปมอง แต่เขาก็พยายามหาผ้าเช็ดตัวของเขาแต่ก็ไม่เจอ จึงจำเป็นต้องหันไปถามอ้น
"เห็นผ้าเช็ดตัวเราไหม"เอถาม
"เอาทำผ้าขี้ริ้วแล้ว มันเก่ามาก"
"ทิ้งทำไม"เอเสียงสูง แต่ลืมไปว่า ทำแบบนี้ไม่ได้ จึงเปลื่ยนโหมดการแสดงใหม่
"อ้นเอาไปทิ้งทำไม เรากลัวไม่มีผ้าเช็ดตัวใช้ เลยพูดไม่เพราะไปหน่อยนะ"เอรีบเดินไปนั่งข้างๆต้นพร้อมโอบกอดเอว ใช้คางเกยไหล่อ้นไว้
"ทีหลังอย่าพูดแบบนี้กับอ้นอีกนะ อ้นเอาไปทิ้งเพราะมันเก่าขาดด้วย อ้นเลยซื้อให้ใหม่ พาดอยู่ที่ราวตากผ้าโน้น"อ้นมีสีหน้าที่บึ่งตึง เพราะโกรธเอที่พูดเสียงสูงขนาดนั้น
"อย่าโกรธเราเลยนะ"เอจึงต้องคิดหาทางง้ออ้นให้ได้ เพียงแค่กอดน่าจะไม่พอ มีทางเดียวที่เขาทำได้คือหอมแก้มอ้น เขาจึงหลับตาเงยหน้าขึ้นจูบอ้นทันที เพียงสัมผัสแก้มนุ่มๆของอ้น เอก็รู้สึกแปลกๆทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยกล้าที่จะทำ ทีแรกกะจะหอมแล้วรีบพอ แต่กับค้างอยู่ครู่หนึ่ง
อ้นนั้นเพียงริมฝีปากเอสัมผัสที่แก้ม เขากับใจระทึกเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งดีใจและประหลาดใจ ไม่คิดว่าเอจะมาหอมแก้มของเขาบ่อยมากในช่วงนี้ และเป็นผู้ชายคนแรกที่หอมแก้มอ้นด้วย
"พอได้แล้ว แก้มซ้ำกันพอดี"อ้นบอกให้พอแต่เอก็ไม่ขยับตัวหนี เพราะใจจริงอยากให้หอมนานกว่านี้และหลายๆครั้ง เพื่อย้ำให้อ้นได้คิดว่าชอบมากๆ พอเอได้ยินเสียงของอ้นที่ดังขั้น กับใบหน้าที่มีรอยเปื้อนยิ้ม เอก็เบาใจที่ต้นหายโกรธ
"งั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมากินข้าวด้วยกัน รอเรานะ อย่ากินคนเดียวหมดล่ะ"เอแกล้งแซวแล้วรีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่
เอนำผ้าเช็ดตัวพันกาย แล้วถอดกางเกงออกพร้อมกางเกงในมาถึงปลายเท้า หลังจากนั้นยกขาขึ้นโยนใส่ตะกร้าเสื้อผ้า ส่วนเสื้อก็ถอดออกโยนใส่ตะกร้าเสื้อผ้า แต่ลงไปแค่ครึ่งตัวที่เหลืออยู่นอกตะกร้า
เมื่อเอเข้าไปอาบน้ำเขาก็รู้สึกว้าวุ่นจิตใจยิ่งนัก เมื่อสักครู่เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไปได้อย่างไร เขาไม่ได้ชอบผู้ชายแต่ที่ทำเพราะหวังผลประโยชน์ เอพยายามคิดเข้าข้างตัวเองกลัวใจเตลิดไปไกล เขาจึงต้องรีบอาบน้ำก่อน เพื่อชำระกายและจิตใจให้คลายความวิตกกังวลใจ
อ้นนั่งมองเสื้อผ้าของเอที่พาดตะกร้าเสื้อผ้า เขาจำเป็นต้องไปเก็บใส่ให้ลงตะกร้าส่วนกางเกงนั้น ต้องดึงกางเกงในที่ยางยืดออกเพื่อนำไปทิ้งขยะ อ้นถึงกับถอนหายใจในความซกมกของเอ แต่เขาก็แปลกใจทำไมดันมีความรู้สึกดีๆให้ อยากอยู่ใกล้อยากสัมผัส อยากทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เอพอใจ
เมื่อต้นทำทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จ จึงไปนั่งรอเออาบน้ำเสร็จจะได้มากกินข้าว เพราะเขาเริ่มรู้สึกหิวจนแสบท้อง ซึ่งไม่นานนักที่เอก็ออกมาจากห้องน้ำ โดยพันผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ที่เขาซื้อให้
"กางเกงในเราอยู่ไหน"เอถาม
"อยู่ในตะกร้าข้างล่าง"
"มันไม่ใช่ของเราใหม่อยู่"
"เราซื้อใหม่มาให้นายนะ"
เอหันมามองอ้นด้วยความประหลาดใจ ทำไมอ้นถึงทุ่มกับเขาขนาดนี้ แต่ลึกๆเขาก็คิดว่าดีซะอีกจะได้หลอกไปเรื่อยๆจนเรียนจบ เพราะเหลือแค่ไม่กี่วัน และเขาก็รู้สึกว่าอ้นนั้นหลอกง่ายเหลือเกิน แค่กอดหอมนิดหน่อยก็ทุ่มให้เขาขนาดนี้ ถ้าเกิดวันข้างหน้าเขาจะขอมากว่านี้อ้นน่าจะยอม แต่เขาต้องมัดใจอ้นให้ได้ตอนนี้ ทางใจน่าจะผ่านด่านไม่อยาก แต่ทางกายเขายังไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร
เอนั้นใส่เพียงกางเกงบ๊อกเซอร์อย่างเดียว ส่วนเสื้อไม่ได้ใส่เพราะอากาศค่อนข้างร้อนพอสมควร
"มากินข้าวได้แล้ว"อ้นเรียก
อ้นนั้นเพียงเปิดฝาซีออก กลิ่นอาหารก็โซยมา เย็นนี้อ้นซื้ออาหารมาสามอย่าง ต้มยำกุ้ง ผัดกระเพรา ต้มจือมะละ เพียงได้กลิ่นเอจึงรีบมากินทันที เพราะเขาหิวมากและไม่ค่อยได้กินอาหารดีซักเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นต้มมาม่าในช่วงเย็น ตอนเช้าไม่กิน ตอนกลางวันกินในโรงอาหารแต่ก็ไม่อิ่ม หุ่นของเอาจึงลีนๆแต่ก็ไม่ถึงกับผอมจนเกินไป
"อร่อยมากทุกอย่าง"เอซดน้ำต้มยำกุ้ง เพราะถูกปากเอมาก
"จะอะไรขนาดนั้น"อ้นมองแล้วอมยิ้ม
"พูดจริง ทำไมอ้นใจดีกับเราขนาดนี้ พึ่งรู้จักกันไม่กี่วันเอง"เอพูดโดยไมทันคิดอะไร
ในส่วนของอ้นพูดไม่ออก เพราะที่เขาทำเพราะแอบชอบเอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แต่อ้นไม่สามารถพูดออกไปตรงๆได้
"ออกให้ก่อนสิ้นเดือนค่อยจ่ายคืน"อ้นฝืนพูดที่ไม่ตรงกับใจ
"เหรอ นึกว่าให้กินฟรี"เอแกล้งอิ่ม เพราะเขาก็ค่อนข้างแน่ใจว่าอ้นนั้นต้องมีใจให้เขาไม่มากก็น้อย แต่ที่พูดแบบนี้เพื่อกลบเกลื่อน
อ้นไม่พูดอะไรต่อ เพราะเห็นเออิ่มแล้ว เขาจึงได้เก็บถ้วยชามแก้วน้ำไปวางไว้ที่ล้างจาน หลังจากนั้นมาทำความสะอาดพื้น โดยที่เอไม่ช่วยอะไรเลย เมื่ออิ่มเข้าขึ้นไปนั่งบนเตียงพร้อมเปิดเฟคบุ๊คดูรููปสาวๆ นางแบบ ที่เขาชอบดูเป็นประจำก่อนนอน
ส่วนอ้นนั้นเป็นแม่บ้านแม่เรือน ล้างถ้ายชามที่เอกับเขากินกองไว้ แต่เขาก็เต็มใจทำเพื่อให้เอติดใจในความสบาย จะได้ไม่ทิ้งเขาหนีหายไปไหนอีก
เมื่ออ้นทำงานบ้านเสร็จ เขาจึงขึ้นมานอนบนเตียงบ้างด้วยใจที่ระทึก และได้หยิบมือถือมาดูและได้เห็นข้อความทางไลน์เด้งขึ้นมา
"ทำไรอยู่"
"เงียบ"
"ค้างงงง"
เป็นข้อความจากจีจี้ที่ส่งมาเขา เพื่อสอบถามเรื่องราวของหนุ่มเทคโน อ้นจึงส่งข้อความตอบกลับ
"กำลังจะนอน"
"กลับใคร"
"คนเดียว"
"ผู้ล่ะ"
"ยังไม่กลับมาเลย"
"ไม่เชื่อ"
"จะโกหกทำไม"
"วีดีโอคอลได้ไหม"
"ง่วง แค่นี้นะ บ่าย"
อ้นกดปิดไลน์ทันที และลดเสียงให้เงียบก่อนวางไว้บนหัวเตียง
ส่วนเอนั้นก็เปิดดูรูปสาวๆที่ขึ้นฟีคเต็มหน้าจอไปหมด อ้นพยายามเหล่ตามมอง เขาจึงเห็นรูปผู้หญิงเต็มไปหมด เลยเกิดความน้อยใจ โกรธนิดๆ ทำหน้าบึ่งตึง กระฟัดกระเฟียด แต่เอก็ไม่สนใจเขาเลย อ้นโมโหหนักขึ้นจึงล้มตัวลงนอนหันหลังให้ จนเอสังเกตเห็นเขาจึงปิดโทรศัพท์มือถือแล้ววางไว้ เขาก็คิดได้ในทันทีว่าอ้นคงจะเห็นเขาเปิดภาพาสาวๆ ซึ่งมันก็สร้างความเพลิดเพลินให้กับเขา จนลืมอ้นไปถนัดในทันที
"ทำไมนอนไวจัง"เอขยับร่างนอนลงเหมือนกัน
"ง่วง"อ้นพูดห้วนๆ
เอคิดว่าไม่ได้การแน่ขืนปล่อยไว้ ไม่งั้นพรุ่งนี้อาจโดนไล่เขาออกจากห้องนอนก็เป็นได้ เขาจึงเริ่มตะแครงตัวเขยิบร่างเข้ามาใกล้ๆอ้น หลังจากนั้นโอบกอดอ้นไว้แนบกาย ส่วนใบหน้าเงยขึ้นมองอ้นที่แกล้งหลับตาแต่ใจเต้นระทีก
เอนั้นตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว คืนนี้จะมอบความสุขให้อ้น เพื่อตอบแทนในสิ่งที่เขาทำให้ และอีกอย่างเมื่อครู่เขาได้ดูรูปหญิงสาวจนเกิดอารมณ์ใคร่ขึ้นมา
อ้นนั้นได้รับไออุ่นจากเอที่กอดเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ พร้อมได้รับสัมผัสจากริมฝีปากของเขาบริเวณแก้มน้อยๆ เป็นครั้งแรกของอ้นที่โดนผู้ชายล่วงล้ำขนาดนี้ เช่นเดียวกับเอที่เชยชมร่างกายชายหนุ่มที่เกินเพื่อน จึงทำให้เพลงรักในครั้งนี้ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไรนัก