เดวิดโน้มหน้าผ่านประตูรถภายในห้องโดยสารเข้ามาเล็กน้อย เพื่อปลุกให้พราวพลอยรู้สึกตัวตื่น หลังจากเขาขับรถมาถึงสถานที่ที่หล่อนต้องการเรียบร้อยแล้ว
“ถึงแล้วครับ คุณพลอย”
คนตัวเล็กยังคงหลับปุ๋ย คอเล็กๆ พับไปอีกด้านที่ตรงกันข้ามกับที่เขาโน้มตัวมองอยู่
เดวิดตะลึงงันไปเล็กน้อย เมื่อสายตาปะทะเข้ากับแก้มเนียนขาวผ่องที่ใสมากจนมองเห็นเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังได้อย่างชัดเจน
ก่อนที่เขาจะมารับงานดูแลพราวพลอย กิตติศัพท์เรื่องความเอาแต่ใจของหญิงสาวถูกกล่าวขานให้ได้รับรู้มากมาย จนเขานึกขยาด แต่พอได้มาใกล้ชิดกับหล่อนจริงๆ กับพบว่าสิ่งที่ผู้คนเหล่านั้นพูดถึงพราวพลอยมันเกิดกว่าเหตุ
พราวพลอยไม่ได้เอาแต่ใจจนไร้เหตุผล แม้ว่าหล่อนจะปากร้าย และกล้าปะทะกับทุกอย่างที่ขวางหน้าก็ตาม
ชายหนุ่มเผลอระบายยิ้มออกมา เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าขยับตัวและบิดขี้เกียจไม่ต่างจากเด็กสาวขี้เซา
เขาไม่เคยรู้สึกถึงจังหวะของหัวใจที่เต้นแรงแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ
เดวิดรู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเอง มันน่าหวาดกลัวมาที่เขารู้สึกอ่อนโยนกับคุณหนูเอาแต่ใจ แถมพ่วงด้วยชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างพราวพลอย
ในที่สุดเขาก็ควบคุมตัวเองได้เหมือนเช่นทุกครั้ง เดวิดเอ่ยเรียกพราวพลอยเสียงดังขึ้น พร้อมกับตัดสินใจดึงตัวกลับไปยืดตรงที่ข้างรถ
คนตัวเล็กค่อยๆ ปรือตาลืมขึ้น มือเล็กยกขึ้นปิดปากหาวด้วยกิริยาเหมือนเด็กน้อย
หล่อนมองไปรอบๆ ตัวอยู่สักพักก็หันมาเอ่ยถามเดวิดที่ยืนนิ่งอยู่นอกรถเสียงฉงน
“ถึงแล้วเหรอ”
“ใช่ครับ”
พวงแก้มนวลมีสีเข้มขึ้น ก่อนที่หญิงสาวจะยิ้มอายๆ เมื่อพูดออกมา
“ฉันเผลอหลับไปนานไหม”
หล่อนก้าวลงมาจากรถ และเพราะนั่งหลับในท่าเดิมนานๆ ทำให้ขาชาดิก ร่างอรชรแทบจะล้มคมำไปข้างหน้า โชคดีที่มือของเดวิดว่องไว เขาคว้าร่างสาวเอาไว้ได้ทัน แต่นั่นก็ต้องแลกกับการที่สองร่างทั้งแนบชิดกัน
พราวพลอยรู้สึกวูบวาบไปทั้งหัวใจและร่างกาย ในขณะที่ช้อนตาขึ้นมองเดวิด
มีเพียงความเย็นชา ไร้ความรู้สึกเท่านั้นที่หล่อนสัมผัสได้จากเขาคนนี้
หล่อนรีบฝืนตัวออกห่าง ก่อนจะพยายามควบคุมตนเองให้ได้เร็วที่สุด
“ขอบใจ”
หล่อนกล่าวขอบคุณสั้นๆ เพื่อกลบเกลื่อนความขัดเขิน จากนั้นก็เดินนำหน้าเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยท่าทางคล่องแคล่วชำนาญ จนคนที่เดินตามหลังไปห่างๆ อย่างเดวิด คาดเดากับสิ่งที่เห็นได้ไม่ยาก
‘ไม่น่าเชื่อว่าคุณหนูเอาแต่ใจอย่างพราวพลอยจะมาที่แห่งนี้เป็นประจำ’
รอยยิ้มบางๆ แต้มบนใบหน้าหล่อจัดของเดวิด แต่ชายหนุ่มก็เลือกที่จะขจัดมันทิ้งไปในเวลาอันรวดเร็ว
พราวพลอยเดินเข้ามาภายในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หล่อนทักทายทุกคนอย่างเป็นกันเอง จนเดวิดอดทึ่งกับภาพทีเห็นไม่ได้
หากเขาไม่รู้มาก่อนว่าพราวพลอยคือคุณหนูผู้ร่ำรวย จอมหยิ่ง เขาคงคิดว่าหล่อนเป็นนางฟ้าใจดีที่มาช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสพวกนี้เป็นแน่แท้
ขณะที่เขายืนมองหล่อนคุยกับแม่ครู และพี่เลี้ยงเด็กภายในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่เพลินๆ พราวพลอยก็หันมามองและยิ้มให้
หัวใจของเดวิดสั่นสะท้านรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เสมือนหัวใจถูกกระชากออกไปจากขั้ว เขารู้สึกหวาดกลัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเหลือเกิน
พราวพลอยคือหายนะสำหรับเขา!
เดวิดค้นพบความจริงที่น่าหวาดกลัว แต่เขาก็ไม่อาจจะละทิ้งหน้าที่ดูแลหล่อนได้ ไม่อาจจะถอนตัวจากหล่อนไปได้ง่ายๆ
ไม่ช้า พราวพลอยก็เดินเข้ามาหาหล่อน ใบหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มมีความสุข จนคนมองอย่างเขาก็อดที่จะระบายยิ้มออกมาด้วยไม่ได้
“คุณรังเกียจเด็กไหมคะ”
“ผมหรือ”
“ใช่...”
หล่อนจ้องเขาด้วยแววตากลมโตสดใสน่ามอง ใช่... เขาละสายตาจากหล่อนไม่ได้เลยตอนนี้
เดวิดมองความงดงามเบื้องหน้าด้วยความขลาดกลัว เขาควรจะหนีไปจากที่นี่ซะ ก่อนที่หัวใจจะถูกขโมย
“ไม่ครับ”
กลีบปากอวบอิ่มที่มีเพียงลิปมันทาบางๆ เอาไว้คลี่เป็นรอยยิ้ม และมันก็หวานตามากเลยทีเดียว
“งั้นก็ดีเลย ไปทักทายเด็กๆ กันเถอะ พวกแกน่ารักนะคะ”
มือเล็กนุ่มนิ่มของพราวพลอยยื่นมาจับที่ท่อนแขนกำยำของเขา และออกแรงดึง
“ผมว่า... ผมกระด้างเกินไปที่จะไปคลุกคลีกับเด็กๆ ครับ”
เขาขืนตัวเอาไว้ แต่พราวพลอยส่ายหน้าไปมา และยังยืนยันคำเดิม
“คุณไม่ได้กระด้างหรอกค่ะ คุณแค่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีแต่การสู้รบ ฉันเชื่อว่าคุณจะต้องเข้ากับเด็กๆ ได้ดี ไปค่ะ แล้วคุณจะมีความสุข”
เขาไม่อาจจะต่อต้านการชักชวนของพราวพลอยได้ ก็เหมือนกับหัวใจของเขาในขณะนี้นั่นแหละ ที่ไม่อาจจะต้านทานเสน่ห์ของหญิงสาวได้อีกแล้ว
เขาเฝ้ามองหล่อน...
มองพราวพลอยหัวเราะกับเด็กๆ มองหล่อนยิ้มให้กับเด็กกำพร้าหลายต่อหลายคนด้วยความอ่อนโยน มือสีขาวสะอาดของหล่อนยกขึ้นสัมผัสกับเด็กพวกนั้นโดยไม่มีทีท่ารังเกียจ หล่อนกอด หล่อนหอม และชักชวนเด็กโชคร้ายพวกนั้นให้รู้จักกับความสุขที่มีอยู่ในโลกใบนี้ ผ่านมือเล็กๆ ของหล่อนเอง
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่พราวพลอยมอบให้กับเด็กกำพร้าน่าสงสารพวกนี้ เพราะหลังจากที่เขาปลีกตัวออกมา แม่ครูผู้เป็นคนดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่นี่ก็มาทักทายเขา และชวนพูดคุย
แม่ครูปรานี พรั่งพรูความดีที่พราวพลอยมีให้กับที่นี่ออกมามากมาย ทั้งเงินทอง ทั้งเวลา และทุกสิ่งทุกอย่างที่บ้านเด็กกำพร้าหลังนี้ต้องการ พราวพลอยพยายามหามาให้อย่างสุดความสามารถ เด็กๆ ทุกคนที่นี่ได้เรียนหนังสือ และมีข้าวกินครบสามมื้อก็เพราะความเมตตาของผู้หญิงที่คนภายนอกขนานนามว่าเอาแต่ใจอย่างพราวพลอย
“เดี๋ยววันศุกร์ พลอยจะแวะมาเยี่ยมเด็กๆ ใหม่นะคะ แล้วฝากแม่ครูบอกเด็กๆ ด้วยว่า พลอยจะเอาไอศครีมมาเลี้ยงค่ะ”
หลังจากจมอยู่กับที่นี่ครึ่งค่อนวัน พราวพลอยก็เอ่ยลาแม่ครูปรานี
“เป็นบุญของเด็กๆ ค่ะที่คุณพลอยเมตตา”
“แม่ครูอย่าพูดอย่างนี้สิคะ พลอยทำแล้วมีความสุข พลอยก็อยากจะทำค่ะ แล้วเด็กๆ แกก็น่ารักกันทุกคน พลอยรักพวกแกมากค่ะ”
เดวิดมองภาพที่ครูปรานีสวมกอดพราวพลอยด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ