ตอนที่ 5

1175 คำ
เขาก้าวตามหล่อนทุกฝีก้าว จนหล่อนต้องหยุดเดิน และหันมาต่อว่า “คุณก็รอฉันอยู่แถวนี้นั่นแหละ ห้องเพื่อนฉันอยู่ตรงนั้นเอง เห็นไหม 453 น่ะ” หล่อนบอกเลขห้องของกิติยาไปมั่วๆ และคาดหวังว่าเดวิดจะหลงกล แต่พ่อคุณเอ๋ย ฉลาดเป็นกรดเลยทีเดียว เพราะเขาไม่เชื่อ “ห้องเพื่อนของคุณ 459” “คุณรู้ได้ไง...?” พราวพลอยช็อกตาตั้ง เมื่อเดวิดพูดเลขห้องของกิติยาออกมาได้ตรงเป๊ะ เดวิดไม่ตอบ แต่เลือกที่จะเดินผ่านหน้าของหล่อนไปยังห้องของกิติยาด้วยท่าทางองอาจ หล่อนมองตามร่างสูงใหญ่ของเดวิด และเดินตามเขาไปด้วยความเหลือเชื่อ เมื่อมาหยุดที่หน้าห้องของกิติยา เขาก็เบี่ยงตัวมายืนข้างๆ ประตู เปิดโอกาสให้หล่อนเคาะประตูห้องด้วยตนเอง หล่อนมองเขาอย่างไม่พอใจและย่นจมูกใส่ ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูห้องของเพื่อน “กิ๊บ... เปิดประตูให้หน่อย” เพียงไม่นาน ประตูห้องของกิติยาก็เปิดออก แต่คนที่เปิดไม่ใช่กิติยาแต่เป็นวิริยะ “นายมาได้ยังไงเนี่ย” วิริยะยิ้มกว้าง ก่อนจะยื่นมือมาดึงแขนของพราวพลอยให้เข้าไปในห้องพักของกิติยา “ผมก็มารอพลอยนั่นแหละ เข้ามาสิครับ” ผู้ชายตรงหน้าฉวยโอกาสตอนที่หล่อนกำลังงงดึงแขนเข้าไปภายในห้อง และวิริยะก็กำลังจะปิดประตูห้อง แต่เดวิดแทรกตัวเข้ามาเสียก่อน “แกออกไปรอข้างนอก แฟนเข้าจะจู๋จี๋กัน” วิริยะหันไปไล่เดวิด พราวพลอยหน้าตาตื่น หันไปมองหน้าเดวิด ก็เห็นว่าเขามองมาอย่างดูแคลน หล่อนจึงรีบสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของวิริยะทันที “นายมาทำอะไรที่นี่ แล้วกิ๊บไปไหน” “เราก็มาง้อพลอยยังไงล่ะ” “ไปให้พ้นเลย อย่ามายุ่ง” พราวพลอยมองวิริยะอย่างชิงชัง และเดินหนี “พลอยอย่าทำแบบนี้สิครับ เราเคยรักกันนะพลอย” พราวพลอยแทบจะอาเจียนออกมา หล่อนหยุดเดิน และหันมาจ้องหน้าวิริยะด้วยสายตาขยะแขยง “ถ้ายังไม่ไสหัวไป ฉันจะให้บอดี้การ์ดของฉัน กระทืบนายให้ไส้แตก!” “อะไรกันพลอย ทำไมต้องทำกับเราแบบนี้ด้วยล่ะ เรารักพลอยมากนะ” แล้ววิริยะก็ฉวยโอกาสเข้ามากอดพราวพลอย โดยไม่สนใจว่าในห้องนี้มีเดวิดยืนอยู่อีกหนึ่งคน เดวิดมองภาพของชายหญิงตรงหน้าด้วยสายตาสมเพช ก่อนจะเดินไปหยุดหันหลังที่หน้าต่างกระจก ไม่ให้ความสนใจกับภาพพวกนั้นอีกเลย “ไปให้พ้นนะ!” พราวพลอยผลักวิริยะแรงๆ ก่อนจะฟาดหน้าด้วยฝ่ามือแรงๆ จนหน้าของวิริยะสะบัด “แล้วอย่ามายุ่งกับฉันอีก จำเอาไว้” วิริยะยกมือขึ้นกุมแก้มที่ถูกตบของตนเอง ก่อนจะแสร้งแสดงความน่าสงสารออกมา “นี่พลอยไม่รักเราแล้วจริงๆ เหรอ” “ฉันไม่เคยรักนาย ไสหัวไปเลย ไอ้ผู้ชายเฮงซวย” เมื่อเห็นวิริยะไม่ยอมขยับไปไหน หล่อนจึงหันไปสั่งเดวิด “คุณลากผู้ชายคนนี้ไปให้พ้นหน้าฉัน เดี๋ยวนี้เลย” เดวิดละสายตาจากภาพทิวทัศน์ตรงหน้า หมุนตัวกลับเข้ามาภายในห้อง “ครับ” “เฮ้ย อย่านะโว๊ย” วิริยะมองเดวิดที่ย่างสามขุมเข้ามาหาด้วยท่าทางตื่นกลัว “เชิญออกไปครับ” เดวิดพูดเสียงเย็นชา วิริยะกลัวมาก เพราะเดวิดตัวใหญ่ราวกับยักษ์ จึงหันมาพูดกับพราวพลอยอีกครั้งก่อนไป “เรารักพลอยนะ และจะรักตลอดไป ไม่ว่าพลอยจะมีใครต่อใครอีกสักกี่คนก็ตาม” “ไอ้บ้า!” พราวพลอยกัดฟันแน่นด้วยความเดือดดาล และก็อยากจะฟาดปากหมาๆ ของวิริยะอีกสักรอบนัก แต่ชายหนุ่มดันวิ่งออกไปเสียก่อน “ดูท่าทาง ผู้ชายคนนี้จะหลงใหลคุณมากนะครับ” “คุณไม่รู้อะไรอย่ามาพูดดีกว่า” หล่อนมองเดวิดอย่างโกรธ ก่อนจะเดินไปทรุดตัวนั่งและต่อสายหากิติยา “กิ๊บ แกหายไปไหนอ่ะ” “อ๋อ พอดีฉันออกมาทำธุระให้พ่อข้างนอกน่ะ ธุระด่วนด้วย ว่าแต่แกมาหาฉันเหรอพลอย” “ก็ใช่น่ะสิ แล้วนี่ทำไมนายวิริยะเข้ามาอยู่ในห้องแกได้อ่ะ” “อ๋อ พอดีตอนที่ฉันจะออกมาน่ะ ยะเขามาหาที่ห้องพอดี ฉันก็เลยฝากห้องเอาไว้กับยะ” “แกก็น่าจะบอกฉันก่อน นี่รู้ไหมว่าฉันเจอหน้ามันด้วย แทบจะอ้วกอยู่แล้วเนี่ย” “ก็ฉันไม่คิดว่าแกจะมานี่นา ขอโทษนะพลอย” พราวพลอยถอนใจออกมา และลุกขึ้นจากโซฟา “โอเคๆ ไม่เป็นไรหรอก งั้นวันนี้ฉันกลับก่อนนะ เอาไว้จะมาหาใหม่” “ฉันขอโทษจริงๆ นะแก ต่อไปฉันจะไม่ให้ยะมันเข้ามายุ่งที่ห้องอีกแล้ว นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนกันก็เลยยอมน่ะ” “ไม่เป็นไร เอาไว้เจอกันนะ แกทำธุระไปเถอะ” “โอเค บายนะพลอย” กิติยาวางสายไปแล้ว หล่อนจึงเดินออกมาจากห้องของเพื่อน โดยมีเดวิดตามมาเงียบๆ จนกระทั่งถึงรถที่จอดอยู่ หล่อนจึงหันไปบอกกับบอดี้การ์ดกล้ามโต “พาฉันกลับบ้าน” “คุณพลอยแน่ใจหรือครับว่าไม่อยากไปเที่ยวที่ไหนต่อ” “ไม่ไป อารมณ์ไม่ดี” หล่อนก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ โดยไม่คิดจะรอให้เดวิดเปิดให้ จากนั้นก็ดึงประตูรถปิดแรงๆ เดวิดไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาทางสีหน้าและแววตา เขาก้าวขึ้นมานั่งหลังพวงมาลัยรถ ก่อนจะพารถคันงามกลับขึ้นไปแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง “ถ้าวันนี้ผมขัดขวางความสุขของคุณ ผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ” “คุณพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ” หล่อนที่นั่งหน้าหงิกอยู่เอ่ยถามกลับทันที “ก็เรื่องคุณกับผู้ชายคนนั้น” “จะบ้าหรือไง ฉันกับหมอนั่นไม่ได้มีอะไรกันสักหน่อย หรือว่านายคิดว่าฉันนัดจะขึ้นไปทำอะไรกับผู้ชายคนนั้น” หล่อนแหวถามเสียงขุ่น และเมื่อเดวิดเงียบ หล่อนก็ยิ่งอารมณ์เสีย “ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายไปฟังความอะไรมาจากสรินนา แต่ฉันอยากจะบอกว่า ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นใส่ร้ายก็แล้วกัน” “ครับ” เขาตอบรับออกมาสั้นๆ และเย็นชา จนทำให้หล่อนอ่อนใจที่จะอธิบายอะไรอีก เดวิดจะคิดจะเชื่ออะไรก็ตามใจ เพราะสักวันหนึ่งความจริงก็จะต้องถูกเปิดเผยออกมา แล้ววันนั้นแหละทุกคนที่เคยเชื่อคำพูดตอแหลของสรินนาก็จะต้องรู้ว่า หล่อนคือผู้บริสุทธิ์
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม