เล่ห์รักพันธะร้าย | 6

1907 คำ
“ที่ให้ไปหาได้เรื่องอะไรบ้าง” มาร์เซียโน่ถามขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ก็เช้าวันใหม่แล้ว เขารู้ดีว่าบอดี้การ์ดคนสนิทขึ้นชื่อว่ามือขวาของตัวเองคงไม่ทำงานล่าช้า “ไม่เจออะไรตกอยู่บริเวณนั้นครับแม้กระทั่งโทรศัพท์” เปาโลตอบกลับไปตามความจริงเพราะสถานที่เกิดเหตุไม่มีอะไรตกอยู่เลย “เป็นไปได้ว่าพวกมันอาจจะมาเก็บหลักฐานเพื่อไม่ให้สาวตัวถึงมัน” มาร์เซียโน่พูดขึ้นอีกครั้งเพราะของแบบนี้ต้องเก็บหลักฐานอยู่แล้วแต่สำหรับมาร์เซียโน่ขอแค่ศพเดียวเขาก็รู้ที่มาแล้วว่าใครส่งคนมาทำร้ายเขา “หรือบางทีอาจจะมีคนมาขโมยไป ยังไงผมจะรีบหาข้อมูลของเธอให้เร็วที่สุด” เปาโลพูดขึ้นเพราะร้อยทั้งร้อยก็มั่นใจว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนร้ายและน่าจะเป็นคนไทยเพราะตอนที่อยู่สนามบินเด็กคนนี้ยกมือไหว้ขอโทษมาร์เซียโน่ “แล้วเธอฟื้นหรือยัง” เพราะตอนนี้ไม่มีเสียงอะไรดังมากจากห้องนอนเลย หากตื่นแล้วก็คงอาละวาดบ้างเพราะตัวเองถูกจับตัวมา “ผมคิดว่าน่าจะยังครับแต่ทำไมดอนไม่ดูกล้องล่ะครับในเมื่อดอนติดกล้องไว้ทุกห้องในคฤหาสน์” เปาโลพูดขึ้นทันทีเพราะทุกห้องชั้นบนของบ้านมาร์เซียโน่ติดกล้องไว้หมดยกเว้นห้องน้ำเพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ “ถ้าเธอตื่นมาบอกฉันด้วยเพราะฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ” เปาโลก้มหัวรับคำสั่งด่อนจะเดินออกมา ตอนนี้มาร์เซียโน่กำลังเปิดภาพจอคอมพิวเตอร์ราคาแพงเพื่อดูกล้องวงจรปิดในห้องของเด็กผู้หญิงคนนั้นแน่นอนว่าเธอยังนอนแน่นิ่งไม่ขยับ ถ้าเธอคนนี้เป็นนักเรียนทุนเดินทางมาจากประเทศไทยจริงๆก็คงไม่แปลกที่จะนอนแบบนี้เพราะคงแจ็ทแลคแต่ถึงแบบนั้นมาร์เซียโน่ก็ไม่กล้ามั่นใจอะไรเพราะถึงเธอคนนี้จะมาจากประเทศไทยจริงๆแต่อาจจะแฝงตัวมาก็ได้ “อื้อ” เสียงดังออกมาจากลำโพงของคอมพิวเตอร์ราคาแพงทำให้มาร์เซียโน่รู้ได้ทันทีว่าคนที่นอนอยู่กำลังจะตื่นแล้วและเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็รีบดีดตัวขึ้นหันซ้ายหันขวาสำรวจสถานที่ ร่างเล็กของเด็กผู้หญิงคนนี้เดินตรงมายังประตูห้องตามสัญชาตญาณก่อนจะเปิดลูกบิดเมื่อเปิดไม่ออกก็เอาแต่ทุบประตูและส่งเสียง นั่นทำให้มาร์เซียโน่เดินตรงไปยังห้องนั้นทันที “ปล่อยฉันนะไอ้พวกบ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้” เสียงของเทียร์ตะโกนขึ้นมาพร้อมกับทุบประตูห้องรัวๆ ตอนนี้เทียร์กำลังย้อนนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ภาพที่เธอกำลังโดนปืนจ่อหัวยังอยู่ในความทรงจำ เธอกลัวมากกลัวว่าตัวเองจะตายกับเรื่องแบบนี้ ทุกเรื่องทุกคำเตือนของคนในครอบครัวเด้งเข้ามาในหัวแต่เทียร์ไม่ได้มีความคิดที่จะเข้ามายุ่งในเรื่องนี้เพราะทุกอย่างมันเกิดจากการเข้าใจผิด ไอ้มาร์เซียโน่นักธุรกิจบ้าบออะไรนั่นมันเข้าใจเธอผิดคิดว่าเธอเป็นคนมายิงมัน ! “ไม่มีใครอยู่หรือไง เปิดประตูให้ฉันเดียวนี้” เทียร์ตะโกนขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้เธออยากออกไปจากที่นี่ ตอนนี้เธอควรจะโทรไปบอกที่บ้านแล้วว่าเธอถึงแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้ทุกคนจะเป็นห่วงหรือเปล่าและถ้าหากโบว์มาเคาะประตูห้องจะคิดยังไงถ้าเธอไม่เปิดประตูให้ “เงียบปากซะ” มาร์เซียโน่ที่ยืนอยู่หน้าประตูพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้เขารำคาญเสียงของเทียร์ที่เอาแต่ตะโกน “เปิดประตูแล้วปล่อยฉัน พวกนายจับฉันมาทำไม ฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น” มาร์เซียโน่ที่กำลังไขประตูก็ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ “ฉันบอกให้เงียบปาก” มาร์เซียโน่พูดขึ้นด้วยท่าทางหัวเสียเมื่อเปิดประตูเข้ามา แน่นอนว่าเทียร์ที่เห็นมาร์เซียโน่ก็ถอยหลังหนีเพราะภาพเมื่อคืนมันย้อนกลับมา “คุณจับฉันมาทำไม ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่องอะไร” เทียร์พูดขึ้นเพราะทุกอย่างมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย “แล้วมีหลักฐานอะไรที่ฉันเข้าใจผิด ตรงนั้นมีเธอคนเดียวจะให้ฉันคิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง” มาร์เซียโน่ถามขึ้นเพราะตรงนั้นไม่มีใครเลยนอกจากผู้หญิงคนนี้ ถ้าไม่ได้มาตามดูหรือตามสอดแนมจะมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง “ฉันมีใบรับรองการเป็นนักเรียนทุน มีพาสปอร์ต มีใบอนุญาตต่างๆที่ยืนยันว่าฉันเป็นนักเรียน มาที่นี่เพื่อเรียนจริงๆ” เทียร์พูดขึ้นทันทีเพราะเอกสารทุกอย่างอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ เมื่อคืนเธอออกมาพร้อมกับโทรศัพท์เครื่องเดียว “ถ้าคุณไม่เชื่อก็พาฉันกลับที่พักสิ ฉันจะเอาเอกสารทุกอย่างให้คุณดู” เทียร์พูดขึ้นอีกครั้งเพราะเธอพร้อมแสดงเอกสารต่างๆให้ดูว่าเธอบริสุทธิ์ใจจริงๆ “เธออาจจะปลอมแปลงเอกสารพวกนี้มาตั้งแต่ไทย” มาร์เซียโน่ที่เป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆก็สรรหาเหตุผลต่างๆมาตลอดเพราะการเป็นมาเฟียอยู่ในวงการเหล่านี้ไม่ได้สอนให้เขาไว้ใจใคร ถึงเขาจะดูคนออกแต่กลับเด็กผู้หญิงคนนี้มาร์เซียโน่ดูไม่ออกเลย “ทำไมคุณเอาแต่คิดลบแล้วแบบนี้ที่ฉันพูดไปไม่ได้เข้าหูคุณเลยหรอ” เพราะตอนนี้เทียร์เอือม ไม่ว่าเทียร์จะพูดอะไรคุณมาร์เซียโน่คนนี้ไม่เคยเชื่ออะไรเลย “ระวังคำพูดบ้าง ฉันสามารถฆ่าเธอได้ตลอดนะ” แน่นอนว่าเทียร์นิ่งไปทันทีเพราะเธอกลัวตาย เธอไม่ได้อยากเอาชีวิตมาทิ้งไว้แบบนี้กับอะไรแบบนี้ “ก็ฉันพูดอะไรคุณไม่เคยเชื่อ นักธุรกิจอะไรปกปืนจะฆ่าคนอื่น ไม่เกรงกลัวกฏหมายเลยหรือไง” ด้วยความปากไวเทียร์ก็พูดอีกครั้งจนมาร์เซียโน่เดินตรงเข้ามาเรื่อยๆ เทียร์เองก็ถอยหลังหนีเรื่อยๆจนแผ่นหลังชนกับกำแพงห้อง “กฏหมายทำอะไรฉันไม่ได้หรอกเพราะนักธุรกิจอย่างฉันมันแทบจะครองประเทศนี้อยู่แล้ว” คำพูดของมาร์เซียโน่ทำเทียร์รู้ได้ทันทีว่ามาร์เซียโน่ไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ใช่คนที่มีอิทธิพลเท่านั้นแต่ยังมีมากกว่านี้ที่เธอไม่รู้ “ถ้าคุณอยู่เหนือกฏหมาย มีอิทธิพลมากมายทำไมไม่หาหลักฐานว่าฉันไม่ได้เป็นแบบที่คุณกล่าวหา” “ไม่ใช่ว่าไม่หาแต่ทุกอย่างต้องใช้เวลา” “งั้นก็อย่ามากล่าวหากัน” เทียร์พูดขึ้นทันที คนมีอิทธิพลระดับนี้เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะหาหลักฐานช้าขนาดนี้ ถ้าเก่งจริง ครองอิตาลีจริงๆเรื่องแบบนี้คงเป็นเรื่องเล็กๆ “ดอนครับผมมีเรื่องจะคุยครับ” เสียงของเปาโลดังขึ้นมาทันที “อยู่ในห้องอย่าออกไปไหน” มาร์เซียโน่พูดขึ้นไว้เพียงแค่นี้ก็ออกจากห้องของเทียร์ เขาไม่ได้ล็อกประตูจากด้านนอกเพราะคิดว่าการคุยกับเปาโลคงไม่นาน “มีอะไร” หลังจากกลับที่ห้องทำงานมาร์เซียโน่ก็ถามขึ้น “ข้อมูลของเด็กผู้หญิงคนนั้นครับ” เปาโลส่งเอกสารที่แสดงข้อมูลทุกอย่างของเทียร์ให้กับผู้เป็นนาย แน่นอนว่าการได้มาของข้อมูลนี้อาจจะช้าไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ช้ามากมายขนาดนั้นเพราะเธอคนนี้เป็นคนต่างประเทศ หากเป็นคนอิตาลีโดยแท้ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงมาร์เซียโน่ต้องได้แน่นอน “สรุปมาเพราะแค่งานของฉันก็น่าปวดหัวพอแล้ว” มาร์เซียโน่พูดขึ้นเพราะตอนนี้เขาไม่อยากอ่านเอกสารอะไรเพียงแค่เอกสารธุรกิจต่างๆมันก็ทำเขาตาลายตาล้าไปหมด “เธอชื่อเทียร์ครับ มาจากประเทศไทย จังหวดเชียงใหม่ อายุสิบเก้าปี เป็นนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนตามที่ผมคาดเดาไว้ ได้ทุนแลกเปลี่ยนเรียนที่นี่สี่ปีและเมื่อคืนจากการดูภาพจากกล้องวงจรปิด เธอเดินออกมาจากอพาร์ตเมนต์แถวนั้นซึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัยและคาดว่าคงออกมาซื้อของกิน” “แค่นี้” มาร์เซียโน่ถามขึ้นอีกครั้ง “ส่วนตัวแค่นี้แต่ถ้าครอบครัวมีต่อครับ” “พูดมา” แน่นอนว่ามาร์เซียโน่อยากรู้ทั้งหมดเพราะต้องการจะรู้ไปเลยว่าแท้จริงแล้วเป็นคนของศัตรูหรือเปล่า “เธอมาจากตระกูลเศรษฐีของจังหวัดเชียงใหม่ ที่บ้านทำไร่ทำสวนและเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงส่งออกผลไม้และผลิตไวน์ครับซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในภาคเหนือติดอันดับของประเทศ มีพี่น้องสามคนเป็นลูกสาวคนเล็ก จากประวัติครอบครัวค่อนข้างมีอิทธิพลในจังหวัดเชียงใหม่แต่ไม่ได้มีมากถึงขั้นข้ามจังหวัดหรือนอกประเทศ” “การเรียนก่อนจะมาแลกเปลี่ยนที่นี่ เป็นนักเรียนชั้นปีที่สองจากคณะบริหารธุรกิจ มีความชื่นชอบประเทศอิตาลีเลยสอบชิงทุนมาครับ” “มาจากตระกูลเศรษฐีแต่ทำไมถึงสอบชิงทุน” มาร์เซียโน่ถามขึ้นทันทีเพราะทั้งหมดมันดูย้อนแย้ง “ผมไม่สามารถตอบได้ครับ อาจจะอยากพิสูจน์ความสามารถของตัวเองหรือไม่อยากรบกวนเงินของทางบ้าน” เพราะที่เปาโลคิดมันก็มีแค่นี้ “ฉันอยากได้ข้อมูลที่แน่นัด” มาร์เซียโน่พูดขึ้นอีกครั้ง ถึงข้อมูลตรงนี้มันจะมากพอและยืนยันได้ว่าเด็กผู้หญิงที่ชื่อเทียร์มาในนามนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนจริงๆ แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเบื้องลึกเบื้องหลังคืออะไร ในเมื่อประวัติบอกมาว่ามาจากตระกูลเศรษฐี ค่อนข้างอิทธิพลในพื้นที่แล้วทำไมจะไม่สามารถปลอมแปลงเอกสารได้ “อันนี้แน่ชัดที่สุดแล้วครับ คนของเรายืนยันว่าทุกอย่างเป็นข้อมูลจริงแต่ถ้าหากดอนไม่มั่นใจ ผมจะสืบให้ลึกกว่านี้โดยเข้าถึงหน่วยงานต่างๆในประเทศและหาข้อมูลเด็กคนนี้” เปาโลพูดขึ้นทันทีเพราะถึงมันจะยากแต่ใช่ว่าคนของมาร์เซียโน่จะทำไมไม่ได้ อาจจะใช้เวลานานหน่อยแต่ได้คำตอบแน่นอน “ดี” เพราะมาร์เซียโน่ไม่อยากพลาด อยากได้ข้อมูลจริงๆ เขากลัวว่าเธอจะเป็นของศัตรูเพราะถ้าหากเป็นแบบนั้นเท่ากับว่าเขาต้องจัดการให้สิ้นซาก “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวครับดอน” เปาโลพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้เขาได้งานใหม่อีกแล้ว ต้องจัดการสั่งงานลูกน้องและควบคุมการหาข้อมูลด้วยตัวเองเพราะหากพลาดจนทางการไทยรู้เข้าก็อาจจะเป็นปัญหาระหว่างประเทศ “จับตามองเด็กคนนั้นไว้ให้ดี” “แต่นายครับ เธอถือพาสปอร์ตประเทศไทย” “หน่วยสอดแนมมือดีก็ล้วนมากจากไทยทั้งนั้น” ❤️ หนูเป็นแค่นักเรียนแลกเปลี่ยน !
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม