“ปะ…ปล่อยนะ” เทียร์ร้องขึ้นทันทีเมื่อโดนจับตัวโดยบอดี้การ์ดของผู้ชายที่ชื่อมาร์เซียโน่ ผู้ชายที่เธอได้อ่านข้อมูลของเขาที่ประเทศไทยและผู้ชายที่เธอเดินชนกับเขาที่สนามบินในวันนี้
“เอาตัวมันกลับไปเค้นความจริงที่คฤหาสน์” มาร์เซียโน่พูดขึ้นก่อนที่เปาโลจะจัดการจับตัวของเทียร์ยัดไว้หลังรถโดยไม่สนว่าจะเป็นผู้หญิงหรืออะไรก็ตาม
“นายมั่นใจหรอครับว่าเธอเป็นคนของพวกมัน” เปาโลถามขึ้นทันทีเพราะเขาจำผู้หญิงคนนี้ได้ดี เธอคือคนเดียวกันกับที่สนามบินที่เดินชนมาร์เซียโน่
“ทำตัวลับๆล่อๆ มีโทรศัพท์อยู่ในมือหากไม่ใช่กำลังเก็บภาพตอนที่ฉันถูกทำร้าย นายคิดว่าเธอคนนี้กำลังทำอะไรล่ะเปาโล” มาร์เซียโน่ถามขึ้นอีกครั้งเพราะหากเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่รู้เรื่องราวคงหาที่หลบที่แอบเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
“ดอนจำเธอได้ไหม เธอคนนี้เดินชนดอนที่สนามบิน” แน่นอนว่ามาร์เซียโน่ไม่ได้ใส่ใจกับเหตุการณ์ที่สนามบินมากนัก เรียกว่าลืมไปแล้วก็ได้แต่เมื่อเปาโลทักขึ้นใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กสาวที่สนามบินก็ผุดเข้ามาในหัว
“ก็คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ บางทีผู้หญิงคนนี้อาจจะตามฉันมาตั้งแต่สนามบิน” มาร์เซียโน่พูดขึ้นเพราะคนเราคงไม่บังเอิญเจอกันสองครั้งต่อวันหรอก
“แต่การแต่งตัวของเธอดูไม่ใช่” เปาโลพูดขึ้นเพราะเขาไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนของศัตรู อาจจะแค่บังเอิญเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้
“อย่าไว้ใจอะไรง่ายๆเปาโล” แน่นอนว่ามาร์เซียโน่ไม่ไว้ใจอะไรและที่จับตัวเธอคนนี้มาก็เพื่อเค้นเอาคำตอบจริงๆ หากเธอคนนี้เป็นคนของศัตรูแบบที่เขาคิด รับรองเลยว่าศพไม่สวยแน่ๆ
“ครับดอน”
“เอาตัวมันไปไว้ที่โกดัง” มาร์เซียโน่สั่งขึ้นเมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์และโกดังที่พูดถึงก็คือสถานที่จับคนของศัตรูมาทรมานและเค้นหาความจริง
“ครับดอน” แน่นอนว่าเปาโลทำตามคำสั่งเพราะเขาขัดอะไรผู้เป็นนายไม่ได้
หากดอนสั่งอะไรเขาก็ต้องทำ ถึงตอนนี้ความคิดในใจจะตรงข้ามกับความคิดของดอนก็เถอะ
“ดอนจะให้ผมเค้นเธอหรือดอนจะเค้นเธอเองครับ” เปาโลถามขึ้นอีกครั้ง
“ฉันเค้นเองเอาตัวมันไปมัดไว้แล้วฉันจะตามไป” แน่นอนว่าตอนนี้ระหว่างที่เปาโลกำลังเอาตัวของเทียร์ไปที่โกดัง เสียงร้องของเทียร์ก็ดังขึ้นตลอดจนมาร์เซียโน่นึกรำคาญเพราะไม่เคยได้ยินเสียงใครร้องแล้วเจ็บแก้วหูมาก่อน
“บอกมันให้หุบปากถ้าไม่อยากโดนตบด้วยด้ามปืน” มาร์เซียโน่พูดขึ้นเสียงดังทำเอาเทียร์ที่โดนจับอยู่ถึงกับกลืนน้ำลาย
เทียร์เองก็รักตัวกลัวตายเหมือนกันและที่เธอโดนจับมาแบบนี้มันทำให้เธอกลัวมากๆ เธอพึ่งจะมาถึงอิตาลีวันแรกกำลังเดินออกมาหาของกินเพราะที่หอพักไม่มีอะไรเลยแต่ทำไมเธอถึงเจอเหตุการณ์แบบนี้
เธอเพียงแค่เห็นพวกเขายิงกันและเธอก็หาที่แอบ ถึงจะแอบดูไปบ้างแต่เธอก็พยายามเอาตัวรอด พยายามหาที่หลบเพื่อป้องกันชีวิตเพราะเธอพึ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรก
“ฉันจะไม่อ้อมค้อม เธอต้องตอบทุกอย่างมาตามความจริง” มาร์เซียโน่ที่อยู่ในชุดสบายๆพูดขึ้นเพราะตอนนี้เขาพร้อมที่จะเค้นความจริงจากผู้หญิงคนนี้แล้ว
หากพูดคุยด้วยน้ำเสียงดีๆแล้วไม่ได้ผล ก็ต้องเพิ่มความรุนแรงขึ้นจนเธอคนนี้ยอมคายความจริงออกมา
“ใครส่งเธอมา” มาร์เซียโน่ถามขึ้นเพราะใบหน้าของผู้หญิงคนนี้ไม่มีพิษไม่มีภัยอะไร ออกจะหน้าตาน่ารักตามฉบับสาวเอเชียแต่ขึ้นชื่อว่าวงการมาเฟียก็ไม่ควรเชื่ออะไรง่ายๆเพราะไอ้ภาพสวยๆมันหลอกตามานักต่อนักแล้ว
“ฉันแค่เดินผ่านแล้วเห็นพวกคุณยิงกัน” เทียร์ตอบกลับไปตามความจริง ใบหน้าสวยมีน้ำตาไหลออกมาตลอดเพราะเธอกลัวมาก
คำพูดต่างๆของพี่ชายและทุกคนในครอบครัวเริ่มย้อนหลับเข้ามาในหัวที่บอกว่าอิตาลีมันเถื่อนเห็นทีคงจะจริง
“บอกความจริงว่าแก๊งไหนส่งเธอมา” มาร์เซียโน่ตวาดดังสั่นเมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ทำเอาเหล่าบอดี้การ์ดและลูกน้องคนอื่นๆที่อยู่ในโกดังสะดุ้งตัวโยนและไม่เว้นแต่เทียร์
“ก็บอกว่าแค่เดินผ่านไง เดินผ่านจนเห็นพวกคุณยิงกัน” เทียร์พูดขึ้นอีกครั้ง ทุกอย่างที่เธอพูดมันเป็นความจริง เธอแค่เดินผ่านเพื่อต้องการมาซื้อของกินแต่แล้วเหตุการณ์บ้าๆนี่ก็เกิดขึ้น
“ถ้าเธอแค่เดินผ่านแล้วทำไมต้องทำตัวลับๆล่อๆ” มาร์เซียโน่พยายามเก็บอารมณ์เพราะเมื่อเขาขึ้นเสียง ผู้หญิงคนนี้ก็เอาแต่ร้องไห้
แน่นอนว่าผู้หญิงในวงการมาเฟียมันมีแต่สำหรับมาร์เซียโน่เขายังไม่เคยเจอ เขาเลยไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับผู้หญิงคนนี้ในระดับไหนดี
“ฮึกๆ…ฉันแค่หาที่แอบ พวกคุณกำลังยิงฉันจะให้ฉันยืนเฉยๆได้ยังไง” เทียร์พูดขึ้นทั้งน้ำตา ทุกคำพูดที่เธอพูดออกไปมันคือเรื่องจริงที่เธอไม่ได้โกหก
“ฉันพึ่งมาถึงอิตาลีวันแรก ฉันเดินชนคุณที่สนามบินโดยบังเอิญแล้วทำไมคุณถึงจับฉันมาแบบนี้” เทียร์พูดขึ้นอีกครั้งเพื่อให้มาร์เซียโน่รู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนร้าย เธอเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการมาหาความรู้จากประเทศนี้เท่านั้น
“เธออาจจะตามฉันมาตั้งแต่สนามบิน”
“ฉันไม่มีรถ ไม่มีอะไรทั้งนั้น ฉันไม่มีปัญญาจะตามคุณหรอก”
“ดอนครับผมว่าที่เธอพูดก็มีเหตุผล” เปาโลพูดขึ้นทันทีเพราะยิ่งฟังก็ยิ่งเห็นใจ อีกทั้งเขายังรู้มาว่าวันนี้มีกลุ่มนักเรียนทุนแลกเปลี่บนมาถึงอิตาลีและดอนของเขาได้รับเชิญให้เป็นผู้มอบทุน
“เปาโลใครสอนให้ใจอ่อนกัน คนมันจะโกหกก็พูดได้ทั้งนั้น” มาร์เซียโน่พูดขึ้นด้วยท่าทางไม่พอใจเพราะตอนนี้เขาต้องการรู้ความจริง
“ถ้าเธอยังไม่พูดความจริงฉันจะจัดการเธอแล้วจริงๆ” มาร์เซียโน่พูดขึ้นพร้อมกับเอาปืนออกมาจากเอวด้านหลัง
เทียร์ที่เห็นปืนก็ใจเสียเข้าไปใหญ่ ใบหน้าสวยร้องไห้อย่างกลัวตายเพราะอิตาลีที่เธอใฝ่ฝันมันไม่ใช่แบบนี้
“ฉันบอกความจริงกับคุณไปหมดแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ” เทียร์พูดขึ้นพร้อมกับพยายามส่ายหน้าอย่างไม่รู้เรื่อง หากตอนนี้สองแขนไม่ถูกมัดเธอคงยกขึ้นมากราบไหว้คนตรงหน้าให้ไว้ชีวิตเธอ
“ฉันถามว่าฉันส่งเธอมา” มาร์เซียโน่ถามขึ้นอีกครั้งก่อนที่กระบอกปืนสีดำมันวาวจะถูกยกขึ้นจ่อที่หัวของเทียร์ แน่นอนว่าเทียร์ที่เห็นแบบนั้นก็เกิดอาการช็อคก่อนจะสลบไป
“ดอนครับเธอสลบไปแล้ว” เปาโลพูดขึ้นด้วยความตกใจเพราะตอนนี้เทียร์สลบนั่งคอตกจากเกาอี้ หากเธอไม่โดนไม่มัดไว้เธอคงล่วงตกเก้าอี้ไปแล้ว
“แก้มัดเธอแล้วอุ้มเธอตามฉันมา” แน่นอนว่าถึงเปาโลจะงุนงงกับคำสั่งของมาร์เซียโน่แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้นอกจากตอบรับและทำตามคำสั่ง
“ดอนจะเอาเธอเข้าคฤหาสน์หรอครับ” เพราะมาร์เซียโน่ไม่เคยเอาศัตรูคนไหนเข้ามาในคฤหาสน์ หากถูกจับเข้ามาในโกดังก็ไม่พ้นการถูกฆ่าและเป็นศพกลับออกไปเท่านั้นหรือบางคนก็ไม่มีแม้แต่ศพ
“เอาเธอไปไว้ในห้องตรงข้ามฉันแล้วล็อคห้องให้ดี ห้ามเธออกมา ส่วนนายเปาโลจัดการกับเธอคนนี้เสร็จเข้ามาหาฉันที่ห้องทำงาน”
“เสร็จแล้วหรือไง” มาร์เซียโน่ถามขึ้นทันทีเมื่อเปาโลเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขา
“ครับ ผมจัดการตามที่ดอนสั่งเรียบร้อยแล้ว” เปาโลตอบกลับไปพร้อมยื่นกุญแจให้กับมาร์เซียโน่เพราะตอนนี้เขาจัดการทุกอย่างอย่างดี ปิดประตูล็อคจากข้างนอก เธอคนนั้นไม่มีทางออกมาได้และก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปนอกจากคนที่ถือกุญแจ
“นายคิดว่าเธอไม่ใช่คนของพวกมัน” มาร์เซียโน่ไม่ยืดยื้อเขาถามขึ้นเพราะจากการกระทำของบอดี้การ์ดคนสนิทอย่างเปาโลมันทำให้เขาคิดแบบนั้น
“ครับ ผมคิดว่าเธอไม่ใช่” เปาโลตอบกลับมาเพราะลางสังหรณ์ของเปาโลไม่เคยพลาด
“เพราะอะไรนายถึงคิดแบบนั้นเปาโล” มาร์เซียโน่ยังไม่เชื่อหรือวางใจอะไรกับผู้หญิงคนนี้ เธออาจจะตีสองหน้าแสร้งทำเป็นไม่รู้และลอบฆ่าเขาทีหลังก็เป็นได้
“อย่างแรกเธอเห็นปืนแล้วช็อค หากคนที่อยู่ในวงการนี้คงไม่มีอาการแบบนี้” แน่นอนว่าตอนนี้มาร์เซียโน่คิดตามเพราะเธอคนนี้มีอาการช็อคจนน่าตกใจ
“อย่างที่สองเราเจอเธอครั้งแรกที่สนามบินและวันนี้มีกลุ่มนักเรียนทุนแลกเปลี่ยนมาถึงที่นี่ครับ เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ดอนต้องไปมอบทุน” เปาโลพูดขึ้นอีกครั้ง
“ถ้าเธอเป็นนักเรียนทุนแลกเปลี่ยน อย่างน้อยต้องมีเอกสารต่างๆติดตัว” มาร์เซียโน่พูดขึ้นทันทีแต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ไม่มีเอกสารอะไรติดตัวเลย
“ตอนนี้ไม่มีอะไรติดตัวเธอนอกจากเงิน”
“โทรศัพท์เธอล่ะ ตอนนั้นฉันเห็นเธอถือโทร” มาร์เซียโน่ถามขึ้ยทันที
“อาจจะตกหล่นที่เกิดเหตุ ผมจะสั่งคนไปดู” แน่นอนว่ามาร์เซียโน่พยักหน้ารับเป็นอันเข้าใจ
“ผมขอถามอะไรดอนได้ไหม”
“ว่ามา”
“ทำไมดอนถึงพาเธอขึ้นมาบนคฤหาสน์ ทั้งๆที่คนที่ตกเป็นผู้ตกสงสัยจะถูกมัดไว้ที่โกดัง” คำถามของเปาโลทำมาร์เซียโน่ตอบไม่ถูกเพราะมาร์เซียโน่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้
“ดอนตอบไม่ได้หรอครับ”
“จะเหตุผลอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับนาย อย่าลืมหาข้อมูลของผู้หญิงคนนี้เพราะถ้ามันเป็นคนของศัตรู ฉันจะฆ่ามันให้ตายอย่างทรมาน”
❤️
แรงทำไมพ่อ