“ดอนไม่เป็นอะไรแน่นะครับ” บอดี้การ์ดคนสนิทของมาร์เซียโน่ที่มีชื่อว่าเปาโลถามขึ้นอีกครั้งเมื่อดอนของเขาเดินมาที่รถ
“ไม่” คำตอบของมาร์เซียโน่ทำเปาโลพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ถึงจะเป็นห่วงดอนมากแค่ไหนแต่ถ้าดอนยืนยันว่าไม่เป็นอะไรเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
“ดอนจะไปที่ไหนก่อนครับระหว่างบริษัทกับคฤหาสน์” เปาโลถามขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้มาร์เซียโน่พึ่งบินกลับมาถึงอิตาลี จากการไปเจรจาเรื่องพื้นที่การปกครองประเทศหนึ่งในแถบเอเชีย
“กลับคฤหาสน์” คำตอบของมาร์เซียโน่ทำเปาโลได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะสั่งให้คนขับรถเคลื่อนตัวรถออกจากสนามบิน
แน่นอนว่ารถของมาร์เซียโน่ถูกเคลื่อนออกจากสนามบินเป็นคันที่สอง มีหนึ่งคันนำหน้าและอีกหนึ่งคันปิดด้านหลังเพราะขึ้นชื่อว่ามาร์เซียโน่แล้วล้วนแต่มีอันตรายอยู่รอบตัว
“อีกหนึ่งเดือนดอนได้รับเชิญเป็นคนเปิดงานต้อนรับนักศึกษาทุนแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัย… ดอนจะไปไหมครับ” เปาโลถามขึ้นเพราะตอนนี้มันเป็นกิจวัตรประจำวันที่เปาโลต้องแจ้งตารางงานทุกอย่างให้กับดอนของเขา
“มหาลัยในมิลาน” แน่นอนว่าถ้าหากเดินทางไปต่างเมืองอื่น มาร์เซียโน่ไม่สะดวกเท่าไหร่เพราะงานของเขาก็เยอะพอตัวแต่มหาวิทยาลัยที่เปาโลพูดถึงมันอยู่ในเขตเมืองมิลานที่เขาอยู่
“ครับอยู่ในเมืองเราและวันนั้นดอนก็ไม่มีงาน”
“งั้นไปปั้นหน้าเป็นคนดีเอาใจเหล่าอาจารย์หน่อยก็แล้วกัน” คำตอบของมาร์เซียโน่ทำเปาโลถึงกับกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่เพราะมีแค่คนในและคนสนิทอย่างเปาโลเท่านั้นถึงจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว มาร์เซียโน่ อนาสตาเซีย เป็นคนยังไง
“ผมลงตารางงานให้ดอนแล้วครับ วันนี้ดอนไม่มีอะไรที่ต้องทำแต่พรุ่งนี้ดอนมีประชุมที่บริษัทตอนสิบโมงครับ” เปาโลพูดขึ้นอีกครั้ง
“ไปพักเถอะ ฉันก็จะไปพักเหมือนกัน”
แน่นอนว่าตอนนี้ดอนหรือประมุขของบ้าน ผู้ที่มีอำนาจใหญ่ที่สุดในบ้านและมีอำนาจเกือบครึ่งของอิตาลีกำลังเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูของตัวเอง เหล่าสาวใช้ต่างแห่กรูกันออกมารับดอนของเขา ต่างเอาอกเอาใจเพราะหากมาร์เซียโน่เรียกใครขึ้นไปด้านบนกับเขา เธอคนนั้นก็จะได้รางวัลอย่างงาม
สาวใช้ของคฤหาสน์หรูของมาร์เซียโน่ ไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลคฤหาสน์หลังใหญ่โตหลังนี้เท่านั้นแต่ยังมีหน้าบำเรอผู้เป็นนายอย่างมาร์เซียโน่อีกด้วยเพราะฉะนั้นแล้ว เหล่าสาวใช้พวกนี้จะถูกคัดหน้าตาและหุ่นอย่างดีรวมถึงภูมิหลังต่างๆก่อนเข้ามาทำงานเพื่อป้องกันการเป็นคนของศัตรูและหนอนบ่อนไส้
“วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์ พวกเธอไปซะ” คำพูดของมาร์เซียโน่ถือเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน เมื่อพูดแบบนี้ออกมาเหล่าสาวใช้ต่างพากันเดินคอตกออกมา
เพราะพวกเธอล้วนชิงดีชิงเด่นกันเพื่อหวังเป็นนายหญิงของคฤหาสน์นี้แต่หารู้ไม่ว่าดอนของพวกเธอไม่ชายตาแลแม้แต่นิดเดียวนอกจากตอนอยากมีเซ็กซ์เท่านั้น
“เปาโลเอาเอกสารที่ฉันทำบนเครื่องเข้ามาให้ฉัน” มาร์เซียโน่ที่ต่อสายถึงบอดี้การ์ดคนสนิทพูดขึ้นทันทีเมื่อเขารับโทรศัพท์
“ดอนไม่พักหรอครับ เอกสารพวกนี้ผมทำต่อให้ได้” เปาโลเป็นบอดี้การ์ดคนสนิท คนที่มาร์เซียโน่ไว้ใจมากที่สุดเพราะก่อนจะเปาโลจะทำงานกับเขา คุณพ่อของเปาโลเคยเป็นมือขวาให้พ่อของมาร์เซียโน่เหมือนกับเปาโลที่เป็นมือขวาให้เขาในตอนนี้
“เอามาเถอะ ฉันว่าง” มาร์เซียโน่พูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้เขานอนไม่หลับเลยเอางานมาทำเพื่อฆ่าเวลาจะดีกว่า
“ผมจะรีบเอาไปให้ครับ” ภายในเวลาไม่นานเอกสารก็มาถึงห้องทำงานของมาร์เซียโน่โดยเปาโล
มาร์เซียโน่เป็นคนจริงจังกับงาน แน่นอนว่าเวลาทำงานเขาไม่ต้องการให้ใครมารบกวนเพราะมันจะเสียสมาธิแต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นจนเขาต้องละสายตาจากเอกสารทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า
“มาร์เพื่อนรักมึงกลับมาแล้วหรือยัง” เสียงของเดเนียเพื่อนสนิทมาร์เซียโน่ถามขึ้นเมื่อเขารับโทรศัพท์
“ไม่ไป” มาร์เซียโน่พูดขึ้นอย่างดักทางเพราะรู้ดีว่าเพื่อนของเขาอย่างเดเนียน่าจะต้องชวนเขาออกไปไหนในคืนนี้
“มึงบินไปทำงานตั้งหลายอาทิตย์อะมาร์ มาดื่มให้เพื่อนๆหายคิดถึงมันคงไม่ตายหรอก” เดเนียพูดขึ้นอีกครั้งเพราะคนที่ยากที่สุดในการชวนมาดื่มก็มาร์เซียโน่
“กูพึ่งกลับมามึงควรให้กูพัก” เพราะมาร์เซียโน่ไม่ต้องการที่จะออกไปไหน แค่ใช้เวลานั่งเครื่องเกือบสิบชั่วโมงก็จะแย่
“อย่าคิดว่ากูไม่รู้ว่าตอนนี้มึงกำลังเซ็นเอกสารอยู่ มาเถอะสักชั่วโมงสองชั่วโมง” เดเนียยังคงคะยั้นคะยอเพราะลูกตื้อเท่านั้นที่จะทำคนอย่างมาร์เซียโน่ยอมได้
“สามทุ่ม” มาร์เซียโน่พูดแค่นั้นก็วางสายไปทันที
ถ้าคนที่โทรมาไม่ใช่เพื่อนสนิทคงไม่รอดพ้นน้ำมือมาร์เซียโน่เพราะสิ่งที่มาร์เซียโน่เกลียดที่สุดคือคนรบกวนเวลาการทำงาน
“คิดยังไงมึงถึงไม่เปิดห้อง” รอยส์เพื่อนอีกคนถามขึ้นทันทีเพราะตอนนี้ตัวตั้งตัวตีอย่างเดเนียไม่ได้เปิดห้องวีไอพีแบบทุกครั้งแต่กลับเลือกที่นั่งโซนวีไอพี
“กูอยากเสพบรรยากาศ” เดเนียตอบกลับมาเพราะการนั่งโซนวีไอพีแบบนี้ เขาสามารถอายคอนแทคกับใครก็ได้แต่หากเป็นห้องวีไอพี ผู้คนด้านนอกจะไม่เห็นด้านใน
“เสพผู้หญิงมากกว่า” มาร์เซียโน่พูดขึ้นอย่างรู้ทันเพราะทั้งสามคนต่างรู้นิสัยของกันและกันดี เรียกว่าเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำธุรกิจด้วยกันในเครือเดียวกันรวมถึงฉากหลังสีเทาด้วย
“อย่ามารู้ดีเลยมาร์” มาร์ที่เพื่อนๆเรียกถึงย่อมาจากมาร์เซียโน่ซึ่งจะมีแค่ครอบครัวเพื่อนสนิทเท่านั้นที่สามารถเรียกชื่อนี้ได้
“ก็มันนิสัยมึง ตามกูออกมาดื่มแต่ตัวเองมาหาผู้หญิง” มาร์เซียโน่พูดขึ้นอีกครั้งเพราะตอนนี้เพื่อนตัวดีของเขาอย่างเดเนียมันดื่มที่ไหนกัน ดีแต่ส่งสายตาหาผู้หญิงผมบรอนด์ในคลับ
“ทีมึงยังมีไว้ในบ้าน อย่ามาพูดอะไรที่มันเข้าตัวหน่อยเลย” แน่นอนว่ามาร์เซียโน่ไหวไหล่อย่างห้ามไม่ได้เพราะมันคือเรื่องจริง
ถึงตอนนี้มาร์เซียโน่จะออกมาสังสรรค์กับเพื่อนๆแต่เพื่อนๆเขาทุกคนทั้งเดเนียและรอยส์ต่างเป็นผู้มีอิทธิพลไม่ต่างกัน ทำงานในวงการมาเฟียด้วยกัน การออกมาแบบนี้จึงมีบอดี้การ์ดตามประกบอยู่ตลอด
ถึงคนที่มองมาจะดูแล้วว่ามันน่าอึดอัดแต่สำหรับความปลอดภัยของตัวเอง พวกเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงจะอยู่ในเขตพื้นที่ของตัวเองแต่ใช่ว่าศัตรูจะไม่กล้าทำอะไร
“มึงจะหิ้วสาวหรือยังไอ้เดเนีย” มาร์เซียโน่ถามขึ้นเพราะตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาถึงสองชั่วโมงแล้ว
“ถามแบบนี้มึงจะกลับใช่ไหม” รอยส์ถามขึ้นเพราะเขารู้ดีว่าเพื่อนแต่ละคนเป็นยังไง
“เออดิ จะให้กูอยู่ดูมันหิ้วสาวหรือยังไง” มาร์เซียโน่ตอบกลับไปเพราะสำหรับมาร์เซียโน่แล้ว เขาไม่เคยหิ้วผู้หญิงตามคลับหรือบาร์พวกนี้เลยเพราะมันค่อนข้างเสี่ยงแต่หากเบื่อสาวใช้ที่อยู่ในบ้าน มาร์เซียโน่ก็จะไล่ออกหรือไม่ก็ให้เปาโลหาผู้หญิงมาให้ก็เท่านั้น
“อยากกลับก็กลับไปเดี๋ยวพรุ่งนี้บ่ายๆ กูจะเข้าไปคุยเรื่องที่มึงไปคุยงานมาเผื่อว่าเราจะได้ครอบครองประเทศอื่นบ้าง” เดเนียพูดขึ้นเพราะตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนกำลังขยายอำนาจไปในประเทศอื่นๆ ถึงตำแหน่งดอนจะเป็นของมาร์เซียโน่แต่เดเนียกับรอยส์ก็เป็นคนสำคัญของแก๊งไม่ต่างกัน
แน่นอนว่าหลังจากนั้นมาร์เซียโน่ก็ตรงกลับคฤหาสน์หรูของตัวเองทันที แน่นอนว่าคฤหาสน์หรูหลังนั้นไม่ได้มีแค่เหล่าสาวใช้แต่ยังมีบอดี้การ์ดนับร้อยอาศัยอยู่ มันค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมืองมิลานทำให้ผู้คนภายนอกไม่รับรู้ถึงเบื้องหลัง รู้แค่ว่ามาร์เซียโน่เป็นเพียงนักธุรกิจไฟแรงคนหนึ่งที่กำลังขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
ปัง ! ปัง ! ปัง !
เสียงปืนสามนัดถึงขึ้นทำเอารถของมาร์เซียโน่เสียการควบคุม ถึงตอนนี้รถที่มาร์เซียโน่นั่งอยู่มันจะกันกระสุนแต่การที่มีรถคันอื่นมาปาดหน้ามันทำให้รถของเขาเสียการควบคุมอย่างห้ามไม่ได้
“เตรียมปืนให้พร้อม ยิงให้ตายอย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว” มาร์เซียโน่พูดขึ้นทันที
ตอนนี้มาร์เซียโน่พยายามส่องสายตามองไปด้านนอกเพราะกลัวว่าคนบริสุทธิ์ที่อยู่แถวนี้อาจจะโดนลูกหลงได้แต่เมื่อไม่เห็นใครก็เบาใจและสั่งจับตายทุกคน
“ดอนครับผมว่าเราต้องลง” เปาโลพูดขึ้นทันทีเพราะจากสถานการณ์แย่แล้วยังไงก็ต้องลงไปจัดการกับพวกมัน
“ใส่เสื้อเกาะซะ” มาร์เซียโน่โยนเสื้อเกาะให้กับเปาโลพร้อมกับอีกคนที่กำลังขับรถก่อนจะสวมให้กับตัวเองเพราะสถานการณ์ตอนนี้มันเลือกไม่ได้ ยังไงเขาก็ต้องเซฟตัวเองและทุกคนที่มาด้วย
แน่นอนว่าถึงบอดี้การ์ดจะตามมาร์เซียโน่มาแต่คราวนี้เขาพลาดเองเพราะบอดี้การ์ดที่พามามีแค่เปาโลกับอีกคนที่ทำหน้าที่ขับรถเท่านั้น ซึ่งดูจากจำนวนของฝ่ายตรงข้ามแล้วห่างกันมาก
“อย่าลืมที่สั่ง จับตายให้หมด” แน่นอนว่ามาร์เซียโน่ไม่ไว้ชีวิตคนพวกนี้และถึงตายไปมาร์เซียโน่ก็สืบสาวหาความได้ว่ามาจากใคร
แน่นอนว่าตอนนี้สถานการณ์เข้าสู่ปกติแต่ที่ไม่ปกติคือผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังทำตัวลับๆล่อๆ คล้ายจะหนีเมื่อเห็นมาร์เซียโน่ อาการและท่าทางแบบนี้มาร์เซียโน่ดูออก
มาร์เซียโน่รู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้คงไม่พ้นหนึ่งคนในแก๊งของพวกมันที่ลอบทำร้ายเขา ไหนๆก็เหลือคนเดียวแล้วเอากลับไปทรมานเล่นที่คฤหาสน์ก็คงจะดี
“เปาโลไปจับตัวมันมา” แน่นอนว่าทันทีที่มาร์เซียโน่สั่ง เปาโลก็จัดการวิ่งตามและจับผู้หญิงคนนี้มาตามคำสั่ง
“ปะ…ปล่อยนะ”
“เอาตัวมันกลับไปเค้นความจริงที่คฤหาสน์”
❤️
อ้าว !