“โอ้โห! น้ำเย็นชวนสั่นสะท้านเลย นี่แน่ใจนะว่าน้ำจากน้ำตก นึกว่ามาจากเทือกเขาหิมาลัย”
ธูปถูกจุดขึ้น กลิ่นธูปมีกลิ่นหอมคละคลุ้งจนทำให้รู้สึกตัวอยู่เสมอว่ากำลังอยู่ในสถานที่แข่งขัน กรรมการซึ่งก็คืออันหนานยืนอยู่บนฝั่ง พร้อมกับเต้นระบำไปพร้อมเสียงเพลง
“สนุกสนานจริงนะ สนุกสนานกันจริง นั่งยังไม่ทันถึงสามนาทีหลังก็ชาแล้ว”
เสียงดนตรีเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ เหล่าปลาในแม่น้ำก็กระโจนขึ้นมาเต้นสลับท่าทางเหมือนในโฆษณาในมือถือเวลาคั่นโฆษณาอะไรสักอย่าง แต่เพราะกระแสน้ำที่มันเย็นจัดทำให้เสียงฟันกระทบกันดังขึ้นไม่ขาดสาย
“กั๊ก... กั๊ก... กั๊ก... โว้ย! ฟันฉันหยุดเสียทีเถอะ”
ร่างบอบบางภายใต้กระแสน้ำ คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้ร่างกายทนทานความเหน็บหนาว
เมื่อคิดจะใช้สกิลแต่ก็ยังมีความหวาดกลัวว่าจะถูกหักคะแนนซ้ำซ้อน
“ต้องทนให้ได้ ต้องทนให้ได้”
ไม่นานนักเสียงร้องเตือนคล้ายสัญญาณเตือนจากโรงงานนิวเคลียร์จะระเบิด
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ ด่านแรก นาวาชำระบาป ]
พลันมีหิมะโปรยเป็นละอองลงมา อากาศที่เคยเย็นอยู่แล้วเปลี่ยนเป็นเย็นจัด
อยู่ ๆ สายน้ำที่เคยไหอย่างเป็นปกติ เริ่มจับตัวกันเป็นน้ำแข็ง จนเหล่าปลาที่กำลังเต้นไปเต้นมาต้องเพิ่มความเร็ว กลายเป็นปลาตัวน้อยนุ่งผ้าเตี่ยว พร้อมโพกหัวเต้นเพลงดิสโก้แก้หนาว
“โว้ย... พวกแก หน้าอย่างพวกแกยังกล้านุ่งผ้าเตี่ยวเต้นเพลงดิสโก้กันด้วยรึไง”
ปลาเหล่านั้นเต้นไปพร้อมสะบัดพัดไปพลาง
ผินอินแทบจะร้องไห้กับความรั่วของแพทใหม่ที่อัปเดท แต่เมื่อเริ่มทนไม่ไหวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องเรียกสกิลออกมาใช้
“ปุ่มเอฟ”
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ จากนี้ไปไม่จำเป็นต้องเรียกปุ่มเอฟ ท่านผู้เข้าแข่งขันสามารถเรียกใช้สกิลได้ด้วยตัวเองทันทีค่ะ ]
“สะดวกปานนั้นเชียว แบบนี้ก็ดีเลย สกิลที่สาม อาภรณ์พระโพธิ์สัตว์”
[ อาภรณ์พระโพธิ์สัตว์เปิดใช้งาน ]
แสงสว่างเกิดขึ้นรอบกาย รอบกายของผินอินเกิดเป็นแสงเรืองรองพร้อมอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นราวกับมีแสงตะวันโอบล้อมรอบกาย
สายน้ำไหลไปเรื่อย แม้อากาศรอบกายจะยิ่งหนาวขึ้น แต่พวกปลาที่เต้นก็ยิ่งเต้นเร็วเข้าจังหวะพร้อมอันหนาน
ผินอินเหลือบมามองก็ได้แต่สังเวชตนเอง ที่ต้องมานั่งทนมองพวกปลาเต้นอวดบั้นท้าย
[ โยก โยก โยก โชว์เกล็ดพร้อมสะโพก โยก โยก โยก เป็นปลาก็มีสะโพก ]
“มันเพลงบ้าอะไรของพวกแกเนี้ย ฉันละงงนัก!”
ผินอินนั่งสมาธิไปได้อีกสักพัก เสียงร้องเตือนจากบนน้ำตกก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“คราวนี้อะไรอีกล่ะ?”
[ ท่านผู้เข้าแข่งขันโปรดทราบ จากนี้น้ำแข็งกำลังจะถล่ม ]
“เฮ้ย! เล่นกันถึงตายเชียวนะ”
น้ำแข็งในลำธารเริ่มจับตัวกันเป็นก้อนไหลร่วงลงมาจากระดับหน้าผา ผินอินกรีดร้องด้วยความกลัว อาภรณ์พระโพธิ์สัตว์ก็เริ่มหมดเวลาการใช้สกิล
“เปิดใช้สกิล หวนคืนหมื่นกระทู้”
บังเกิดเป็นสายน้ำที่ร่วงหล่นลงมาย้อนร่างกลับกลายเป็นโลหะแหลมจำนวนมากมายคล้ายกระบี่
เมื่อเตรียมสภาพพร้อมแล้วดีดกายขึ้น สวนขึ้นไปทิ่มแทงกับเหล่าก้อนน้ำแข็งที่ร่วงลงมา ทำให้เกิดความเสียหายต่อก้อนน้ำแข็งที่กำลังร่วงลงมาอย่างไม่ขาดสาย
“โอ้ย! โอ้ย! น้ำแข็งที่มันแตกกระจายลงมาก็ยังโดนเราอยู่ดี เจ็บชะมัดเลย”
เมื่อทุกอย่างสงบลง ทุกอย่างคล้ายจะกลับคือสู่ความสงบ เสียงของเจ้าพวกปลาตัวแสบก็เริ่มเงียบลง
ผินอินเหลียวกลับไปมองยังพบว่าปลาพวกนั้นไปยืนกอดกันอยู่ที่ริมแคร่
“พวกมันกลัวอะไรกันน่ะ”
เสียงพื้นสั่นสะเทือนราวกับมียักษ์เดินกระทืบเท้า เมื่อแหงนหน้าขึ้นไปมองบนน้ำตก กลับพบปลายักษ์มีแขนสองข้างเป็นนักกล้ามที่ชอบเล่นบอดี้เวท วิดพื้นอยู่บนเหนือน้ำตก
“โอ้โห! จะเอาให้ตายกันไปข้างเลยใช่ไหม แล้วแถมห้ามขยับหนีไปไหนด้วย เอาล่ะเว้ย!”
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ เตรียมนับถอยหลัง เตรียมตัวกระโดด ]
“กระโดดไปไหนเล่า ขืนลุกขึ้นก็ตายสิ ใช่ไหม”
[ เตรียมตัวรับแรงกระแทก ]
เจ้าปลายักษ์หน้าตาโหดอย่างกับแจ๊คเดอะริปเปอร์ ผสมเตียวหุย เริ่มลุกขึ้นยืนกวัดแกว่งแขนเบ่งกล้ามโชว์ ตั้งท่าจะกระโจนลงมา
“กระโจนลงมาแล้ว ทำไงดี ทำไงดี”
[ เหลือสกิลอีกหนึ่งเปิดใช้อัตโนมัติ ]
“กระทืบถล่มพสุธา”
สกิลเปิดใช้งานครบทั้งสาม หักลบหกแต้มคะแนนสะสม จากเดิมมีเก้าสิบเก้าคะแนน ลดเหลือเก้าสิบเอ็ดคะแนน
รูปร่างของเท้าโผล่ขึ้นกลางอากาศ ตกลงมารวดเร็วราวกับขีปนาวุธ ระดมกำลังถล่มลงมาใส่ร่างของเจ้าปลายักษ์หน้าตาพิลึก
“นั้นล่ะ นั้นล่ะ ลงมาอีก ตกลงมาอีก!”
แต่ใช่ว่าทุกเท้าที่ตกลงมาจะโดนเข้าที่ตัวของเจ้าปลายักษ์ มันยังมีความอึดมากพออ้าปากกว้างรอตกลงมาเขมือบใส่ผินอิน
ปากกว้างของมันเต็มไปด้วยฟันแหลมคม
ผินอินเห็นวาระสุดท้ายของตนเองจึงกรีดร้องออกมา
“กรี๊ด... ตายแน่ ๆ ตายแน่ ๆ อะจ๊าก...”
[ มาสเตอร์ มาสเตอร์ เวลาหนึ่งก้านธูปหมดลง ]
ผินอินได้ยินเช่นนั้นรีบกระโจนออกจากจุดที่นั่งอยู่ ทำให้เจ้าปลายัก์กระโจนลงมาถึงจุดแล้วงาบโดนเฉพาะโขดหินที่เดิมเป็นที่นั่งของผินอิน เสียงดังสนั่นหวั่นไหวพื้นสะเทือน น้ำในลำธารแตกกระจายจนเปียกไปถึงอินหนาน
“เกือบตาย เกือบตายแล้วจริง ๆ เฮ้อ...”
เมื่อลุกขึ้นยืนเสียงเพลงรอบกายดังโอบล้อม เหล่าปลาบ้าเลือดที่ยืนเต้นโชว์เพลงสะบัดสะโพกก็ยังคงเต้นกันอย่างสนุกสนาน
ผินอินทิ้งร่างลงนั่งทั้งที่ร่างกายเปียกปอน เสียงก้องกระหึ่มพร้อมฉากการผ่านด่านเปลี่ยนไป
[ Stage Clear! ]
ทุกอย่างกลับสู่สภาพเดิมกระทั่งสกอร์คะแนนดีดขึ้นไปอยู่ที่ระดับเก้าสิบคะแนน เมื่อบวกลบคะแนนแล้ว คงเป็นเพราะเธอเรียกใช้สกิลในระยะเวลาอันสั้น
“เฮ้อ... โล่งอกไปที แบบนี้ก็ถือว่าเราเอาตัวรอดไปได้อีกสเตจสินะ แต่ตอนนี้หนาวจังเลย”
“ผินอิน เจ้าเป็นยังไงบ้าง?”
“นั่นเขา ท่านรัชทายาท ท่านมาได้ยังไงกัน”
อันหนานรีบนำตัวผินอินออกมาจากลานแคร่ไม้ไผ่ เมื่อรัชทายาทมาถึงจึงถอดเสื้อคลุมสวมให้ ถุงหอมสกิลคนรู้ใจส่องแสงนั่นแปลว่าสกิลช่วยเหลือกำลังทำงาน
“อ้อแบบนี้นี่เอง ที่แท้เป็นสกิลซัพพอร์ตของถุงหอมคนรู้ใจ ค่อยยังชั่วไม่หนาวตายแล้วเรา”
“ข้าอยู่ตรงนี้ทั้งคนจะยอมปล่อยให้เจ้าหนาวตายได้อย่างไรกันฮึ?”
ผินอินกะพริบตาด้วยความสงสัย พร้อมคำถามในใจ
‘อันนี้อยู่ในซัพพอร์ตสกิลคนรู้ใจด้วยหรือเปล่า ทำไมมันหวานนัก’
หัวใจของหญิงสาวที่ไม่เคยได้สบตากับผู้ชายที่คิดอะไร ๆ นอกเหนือจากเพื่อนใกล้ชิดแบบนี้
‘อ้าย... ข้าเขินยิ่งนัก’ พวงแก้มสองข้างของนางเป็นสีแดงระเรื่อแล้ว