8 : สำรวจมิติพิเศษ

1969 คำ
นางยิ้มอย่างพึงพอใจ ละสายตาจากบ่อน้ำพุมองไปยังทุ่งหญ้ากว้างไกล ก่อนจะวกสายตาไปที่กระท่อมหลังน้อย รีบก้าวเท้าตรงไปสำรวจในทันที ภายในกระท่อมมีเพียงเตียงนอนหนึ่งหลัง ชั้นวางตำราที่มีตำราวางเรียงรายอยู่นับสิบเล่ม แน่นอนว่าเป็นภาษาโบราณซึ่งนางอ่านไม่ออก ไม่รู้ว่ามันเขียนสิ่งใดเอาไว้ มีสี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ[1]วางอยู่บนโต๊ะ นางใช้พู่กันกับหมึกโบราณเป็นเสียที่ไหนกัน ไม่ใช่ว่าสิ่งนี้มันเปล่าประโยชน์สำหรับนางหรอกหรือ มีห้องครัวสำหรับทำอาหารด้วย มีเพียงอุปกรณ์พวกเตาหม้อกระทะเหล็ก แต่กลับไร้เงาของวัตถุดิบประกอบอาหาร ในกระท่อมหมดความน่าสนใจไปเพียงเท่านั้น แต่พอเปิดประตูด้านหลังกระท่อมออกไป พลันดวงตาของนางก็สว่างจ้าขึ้นด้วยทิวทัศน์แสนงดงาม มีธารน้ำไหลมาจากที่ไหนสักแห่ง นางลองชิมดูแล้วไม่ปรากฏว่ามีพลังพิเศษแต่อย่างใด แตกต่างจากน้ำพุใจกลางลาน ต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายอยู่รอบด้าน มีต้นผิงกั่ว[2] อยู่สามต้น ซึ่งผลของมันสีแดงสุกเต็มต้น รีบเอื้อมมือออกไปเด็ดมาชิมดูผลหนึ่ง เซี่ยซือซืออ้าปากกว้างกัดดังกร๊วบ ! ผิงกั่วผลนี้หวานอร่อยสดชื่นนัก รสชาติดีกว่าในโลกยุคปัจจุบันของนางเสียอีก ผลไม้ในมิติพิเศษนี้กินไปแล้วรู้สึกร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ทำอย่างไรจะนำผลผิงกั่วพวกนี้กลับไปให้น้อง ๆ ของนางกินได้แบบไม่มีคนสงสัย เฮ้อ เห็นทีนางไม่สามารถนำผลไม้พวกนี้ออกไปด้านนอกได้อย่างตั้งใจ ต้องหาโอกาสขึ้นไปบนเขาถึงจะบอกคนอื่นได้ ว่านางเก็บมันมาจากบนนั้น อาซานน้องเล็กพวกเจ้าอดทนไว้ก่อนนะ เอาไว้ทุกอย่างเรียบร้อยข้าจะให้พวกเจ้าได้ชิมผลผิงกั่วแสนอร่อยพวกนี้ ทันใดนั้นนางเหลือบเห็นผลไม้ชนิดหนึ่ง เป็นเครือสีแดงอยู่ด้านหลังต้นผิงกั่ว นี่เรียกว่าดงเฉ่าเหมย[3]ได้เลย นางรีบเด็ดผลสีแดงสุกปลั่งออกมาชิมดู อื้ม ! หวานอร่อย แทบทนรอไม่ไหวให้น้อง ๆ ของนางได้กินด้วย เซี่ยซือซือเด็ดผลเฉ่าเหมยมานั่งกินใต้ต้นผิงกั่วจนอิ่มแปล้ ยามนี้นางสำรวจพื้นที่มิติพิเศษจนหมดทุกซอกมุมแล้ว สรุปได้ว่ามีน้ำพุวิเศษรักษาอาการบาดเจ็บภายนอกได้ ส่วนภายในนางต้องทดลองกับคนป่วยจริงดูเสียก่อน เรื่องดื่มแล้วเพิ่มกำลังวังชานั้น นางไม่สามารถใช้ได้พร่ำเพรื่อ ไม่รู้ด้วยว่ามีผลข้างเคียงต่อร่างกายหรือไม่ พบเจอผลไม้สองชนิดในมิติแห่งนี้ เรียกว่ามีของกินแบบไม่ต้องกลัวหิวตาย มีที่นอนในกระท่อมอีกด้วย เป็นบ้านพักตากอากาศขนาดย่อมได้เลย นางมองไปที่ลำธารขนาดความกว้างราวหนึ่งผิ่ง[4] ต้นตอของน้ำมาจากน้ำตกชั้นบน แต่นางมองไม่เห็นสิ่งใด นอกจากเมฆหมอกบนท้องฟ้า ก้มหน้ามองเข้าไปในลำธารกลับเห็นสัตว์น้ำบางตัวว่ายน้ำไปมาอยู่ด้านล่าง พวกมันเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง นี่ไม่เรียกว่ามีของกินให้นางแล้วหรอกหรือ หากมีข้าวสารธัญพืชด้วยก็คงดี เพราะไม่มีเลยเป็นปัญหาด้านอาหารหลักของนางกับน้อง ๆ แต่คิดในแง่ดีอย่างน้อยวันข้างหน้า นางไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องอาหารการกินอีกต่อไป เพียงแต่นางต้องระมัดระวัง เรื่องการหยิบฉวยอาหารออกจากมิติพิเศษแห่งนี้ มิเช่นนั้นจะมีแต่ความสงสัยตามมา จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นในภายภาคหน้า มิติพิเศษแห่งมีประโยชน์ต่อตัวนางค่อนข้างมาก เว้นเสียแต่เรื่องเงิน ต้องหาเงินแล้วสินะ ! เสียงกุกกักดังขึ้นจากด้านนอก เซี่ยซือซือรีบหลับตาพาตัวเองออกมาจากมิติพิเศษ พอลืมตาขึ้นพบน้องชายของนางกำลังนั่งยอง ๆ จ้องนางอยู่ด้วยใบหน้างัวเงีย “ท่านพี่เหตุใดท่านไม่นอนบนเตียงเล่า” เจ้าตัวน้อยถามพลางขยี้ตาไปด้วย ปกติตื่นมาต้องได้นอนกอดพี่สาวคนโต ด้วยความเคยชินทำให้เซี่ยซือหยาง ใช้ขาสั้น ๆ ปีนลงเตียงนอนมาหาเซี่ยซือซือจนได้ “น้องเล็กตื่นแล้วหรือ” นางอุ้มเจ้าตัวน้อยเข้ามากอดเอาไว้ ปรายตาไปมองน้องสาวบนเตียง เห็นนางเองก็ตื่นขึ้นมาเหมือนกัน แต่จำเป็นต้องทำเป็นนอนนิ่งต่อ “นี่ก็เย็นมากแล้ว เจ้าหิวแล้วใช่ไหม” “ข้าค่อนข้างหิวนิดหน่อยท่านพี่” เซี่ยซือหยางกล่าวอย่างเอียงอาย ใช้มือน้อยลูบท้องแบน ๆ ของตนเองไปด้วย “ข้ามีมันฝรั่งอยู่ เจ้าเอาไปกินก่อนเถิด กินเสร็จแล้วค่อยไปอาบน้ำ ตัวเจ้ามีกลิ่นเหม็นเน่ามาก” ใจจริงนางอยากหายตัวเข้าไปในมิติพิเศษ แก้ผ้าลงอาบน้ำในลำธารด้วยซ้ำไป เกรงว่าน้อง ๆ ตื่นขึ้นมาไม่เห็นนางแล้วจะตกใจ “ท่านพี่ก็เหม็นเหมือนข้า” “เจ้าเด็กนี่กล้าว่าข้าหรือ” นางบีบจมูกน้อย ๆ น้องชายแล้วบิดไปมาเบา ๆ ลุกเดินไปหยิบมันฝรั่งบนโต๊ะมายื่นให้น้องเล็ก ส่วนน้องสาวนั้นรอเจ้าตัวน้อยกินอิ่มอาบน้ำเสร็จ จนถึงนอนหลับไปก่อนค่อยปลุกนางขึ้นมากิน “ท่านพี่น้ำในถังหมดแล้ว จะเอาน้ำที่ไหนมาอาบหรือขอรับ” “ข้าไปตักเอง เจ้ากินมันฝรั่งอยู่นี่ไปก่อน ข้าตักเต็มถังเมื่อใดจะมาเรียกให้ไปอาบ” นางหยิบหัวมันของตนเองให้น้องชายไปด้วย ระหว่างนั้นหยดน้ำพุวิเศษลงในกาน้ำต้มอีกหนึ่งหยด เพื่อให้น้องทั้งสองมีเรี่ยวแรงขึ้นมาหน่อย “อื้ม ข้าจะรอท่านพี่มาเรียกข้าไปอาบน้ำอยู่ตรงนี้แหละ” เด็กน้อยอ้าปากกัดมันฝรั่งเผาพร้อมยิ้มหวานให้คนเป็นพี่สาว น่ารักจริงเชียวน้องชายใครก็ไม่รู้ ในโลกปัจจุบันนางเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่นั้นหย่าร้างแยกกันไปมีครอบครัวใหม่คนละทิศทาง เรียกได้ว่าแทบใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังมาตั้งแต่มัธยมต้น กระทั่งจบมหาวิทยาลัยได้เข้าทำงาน และจบชีวิตบนโต๊ะทำงานด้วยวัยเพียงยี่สิบห้าปี ชีวิตในโลกนี้แม้ไม่ได้สุขสบาย แต่กลับได้รับความรักจากน้องทั้งสองอย่างท่วมท้น หัวใจของนางจะไม่หวั่นไหวในความรักนี้ได้อย่างไร เซี่ยซือซือยกฝ่ามือขยี้เส้นผมน้องชายด้วยความเอ็นดูก่อนเดินจากไป เซี่ยซือซือยืนมองถังน้ำเปล่าในห้องอาบน้ำ บ้านสกุลเซี่ยตั้งอยู่บริเวณท้ายของหมู่บ้าน ยามใช้น้ำต้องออกไปหาบที่แม่น้ำเข้ามา ตั้งแต่บ้านสามขาดบิดามารดาไป ทุกคนในบ้านผลักหน้าที่นี้ให้เป็นของเซี่ยซือซอกับน้องสาว ช่างหน้าไม่อายกันจริง ๆ เด็กตัวผอมบางอย่างพวกนาง ต้องแบกน้ำมาให้คนทั้งบ้านได้ใช้กัน คิดถึงเรื่องนี้แล้วแค้นใจยิ่งนัก นางมองซ้ายขวาเมื่อไม่เห็นใคร จึงหยิบถังไม้เข้าไปตักน้ำในมิติพิเศษออกมาใส่ถังไม้ในห้องอาบน้ำ ตักไปจนเต็มถังถึงได้กลับไปเรียกน้องชายมาอาบ นางอาบน้ำให้เจ้าตัวน้อยถึงสามรอบ กว่าคราบไคลสกปรกจะหมดไปจากตัวของเซี่ยซือหยาง กลายเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักน่าชังขึ้นมา คอยดูเถอะนางจะขุนให้น้องเล็กตัวจ้ำม่ำสมวัยให้จงได้ “เจ้าสวมชุดใหม่เถอะน้องเล็ก พรุ่งนี้ข้าจะได้เอาตัวนี้ไปซักตากให้” นางรื้อเสื้อผ้าชุดสำรองออกมา สภาพเก่าผ่านการปะชุนมาอย่างสาหัสสากรรจ์ แต่ยังแลดูสะอาดสะอ้านอยู่ พวกนางสามพี่น้องมีเสื้อผ้าไว้ผลัดเปลี่ยนกัน คนละสองสามชุดเท่านั้น นางเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องชายเสร็จ พระอาทิตย์ก็ตกดินพอดี คาดว่าวันนี้ท่านหมออวี่คงไม่ได้เอายามาให้แล้ว “น้องเล็กเจ้าอยู่ดูแลพี่รองของเจ้าไปก่อนนะ ข้าจะไปอาบน้ำก่อน อ้อ เจ้าห้ามเอานิ้วไปจิ้มพี่รองของเจ้าเด็ดขาดรู้ไหม” นางหันมากำชับน้องชาย เกรงว่าหากลงมือหนักเกินไป เซี่ยซานซานจะทนนอนนิ่งต่อไปไม่ไหว “ได้ท่านพี่” แต่เอ๋ ท่านพี่ของข้ารู้ได้อย่างไร ว่าข้าทำเรื่องนั้นกับพี่รอง ? เรื่องนี้เซี่ยซือหยางคงคิดไม่ออกไปตลอดชีวิตของเขา เซี่ยซือซือหยิบเสื้อผ้าไปชุดหนึ่ง นางเข้าไปในห้องอาบน้ำ ตักน้ำจากมิติพิเศษมาเทลงในถังไม้ เพื่อให้น้องสาวได้มาอาบ เมื่อเต็มถังแล้วจึงหายตัวเข้าไปในมิติพิเศษ ถอดเสื้อผ้าลงไปแช่น้ำในลำธาร ดวงจันทร์กลมโตสาดแสงลงมา ทำให้นางสามารถมองเห็นพื้นที่บริเวณรอบ ๆ ได้ อีกทั้งนางยังเข้าไปจุดตะเกียงภายในกระท่อม เพิ่มแสงสว่างรอบ ๆ ตัวบ้านอีกด้วย ในเมื่อเป็นมิติพิเศษของนาง เหตุใดนางต้องกลัวด้วย คิดได้เช่นนั้นก็แหวกว่ายไปมาในลำธารอย่างสบายใจ ไม่ได้ ๆ ข้าจะสบายใจว่ายน้ำเล่นอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้ เมื่อนึกถึงความเป็นพี่สาวคนโตของบ้าน ทำให้นางรีบอาบน้ำให้เสร็จ จัดการซักเสื้อผ้าที่ลำธารในมิติพิเศษไปเลย ก่อนนำกลับมาตากไว้ที่หลังบ้านของตนเอง ค่ำคืนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามที่นางวางแผนเอาไว้ เมื่อกล่อมน้องชายจนหลับสนิทไปแล้ว นางก็ปลุกน้องสาวให้ตื่นมากินมันเผา และพาไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เรียบร้อย “ท่านพี่ข้ารู้สึกเหมือนร่างกายของข้ามันแปลกไป” เซี่ยซานซานโอบแขนรอบตัวเองราวกับได้พบเจอสิ่งแปลกใหม่ “แปลกอย่างไรอาซาน” เซี่ยซือซือขมวดคิ้วแน่นรีบขยับเข้าไปจับเนื้อตัวน้องสาวดู “เจ้ารีบบอกอาการข้ามาเร็วเข้า” นางคิดว่านี่อาจเป็นผลเคียงข้าง จากการหยดน้ำพุวิเศษลงในกาน้ำต้มให้น้องสาวดื่ม “เหมือนข้าจะมีเรี่ยวแรงมากขึ้นเจ้าค่ะ” อ้อ นั่นเป็นผลดีจากการดื่มน้ำพุวิเศษ หาใช่เรื่องร้ายอย่างที่นางนึกกลัวไม่ นางหยดลงไปแค่หยดเดียว หน้าผากที่บวมนูนยังไม่ยุบหาย แต่ร่างกายภายในกลับมีเรี่ยวแรงขึ้น นับว่านางใช้น้ำพุวิเศษได้ถูกวิธีแล้ว “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เจ้ารีบนอนเถอะอาซาน” นางเอนตัวน้องสาวลงนอน แต่ก่อนที่เซี่ยซานซานจะปิดเปลือกตาลง นางก็เอ่ยขึ้นมาลอย ๆ “พรุ่งนี้ท่านป้าถานจะมารับตัวท่านพี่ไปแล้ว” “อืม” อายุเพียงเท่านี้ต้องมีสามีพิการเสียแล้ว ซือซือเจ้าช่างโชคร้ายยิ่งนัก คิดถึงเรื่องราวที่นางต้องเผชิญในวันพรุ่งนี้ ไม่ว่าจะคิดอย่างไรนางก็ไม่อาจเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อยู่ดี คงได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของมันเอง ไม่ช้าสองพี่น้องก็เข้าสู่ห้วงนิทราตามน้องเล็กไป [1] สี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือ คือ กระดาษ หมึก พู่กัน แท่นฝนหมึก [2] ผิงกั่ว คือ แอปเปิ้ล [3] เฉ่าเหมย คือ สตรอเบอรี่ [4] หนึ่งผิ่ง คือ 3.3 เมตร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม