ตอนที่ 16 ถูกพิษ
เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อขบวนรถม้าถูกดักปล้นกลางทาง มีชายชุดดำกลุ่มใหญ่บุกเข้าพร้อมกับอาวุคือดาบเนื้อมันวาว อาชิงที่นั่งอยู่ข้างหน้าคู่กับสารถี ถูกฟันที่แขนจนได้รับบาดเจ็บ
โจวหย่งเล่อทะยานออกมาจากรถม้าพร้อมกับภรรยา ทั้งสองช่วยกันโต้ตอบกลุ่มโจรป่าเถื่อน ทว่าคนกลุ่มนี้ล้วนมีฝีมือ คาดว่าอาจเป็นมือสังหารที่ได้ถูกว่าจ้างมา
ถังเหมยหลินเบี่ยงกายหลบดาบอันแหลมคม อีกนิดเดียว จะถูกลำคอของนางเสียแล้ว โชคดีที่ฝีเท้าของนางนั้นรวดเร็ว วรยุทธ์มิได้เก่งกาจมากนัก แต่ก็พอเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดี
อาภรณ์งดงามของนางเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโลหิต เมื่อมือสังหารกำลังเสือกดาบเข้ามา ทว่าโจวหย่งเล่อกลับใช้อาวุธลับพุ่งพรวดอย่างรวดเร็วปักยังกลางอกของชายผู้นี้อย่างว่องไวรวดเร็ว ทำให้หญิงสาวตระหนกตกใจไม่น้อย
ร่างบอบบางถูกชายหนุ่มสวมกอดเอวคอดกิ่ว จากนั้นจึงพากันทะยานหลบหนีกลุ่มโจรชั่วช้า มายังด้านป่าไม้รกทึบ ส่วนอาชิงกับสารถีหนุ่มหลบหนีเช่นเดียวกัน คนพวกนี้นั้นมีมากกว่าหลายสิบคน
เช่นนั้นแล้วโจวหย่งเล่อไม่อาจเอาชีวิตของคนพวกนั้นได้ในระยะเวลาอันสั้น หากแต่ว่า...เขากลัวว่าภรรยาจะไม่ปลอดภัยและได้รับบาดเจ็บ จึงเร่งทะยานอุ้มนางแล้วพาไปหลบซ่อนตัวเสียก่อน
“ท่านบาดเจ็บนี่นา” นางเอ่ยอย่างเป็นห่วง เพราะเขาเอาตัวเองมาปกป้องนาง มิให้ได้รับอันตรายจากปลายดาบเล่มนั้น
“เจ็บแค่นี้เอง ไกลหัวใจข้า” เขาเจ็บแต่ก็แสร้งว่าไม่รู้สึกทรมาน ทั้ง ๆ ที่สีหน้าของเขาเริ่มซีดขาว เหงื่อเริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าแล้ว
“ยังจะมาโกหกข้าอีก อาวุธคนพวกนั้นมีพิษ และเป็นพิษแดนเหนือ” นางต่อว่าเขาเล็กน้อย เพราะปากแข็งเสียเหลือเกิน โชคดีนักพิษนี้ไม่กระจายเข้าสู่หัวใจ ก็เพราะว่าน้ำชาที่นางมักมอบให้เขานั้น มันมียาต้นพิษนับหมื่นที่นางได้ใส่ลงไปโดยที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
อันที่จริงโจวหย่งเล่อถูกหมายหัวเอาไว้ตั้งแต่ต้น นางจึงยินยอมที่จะแต่งงานกับเขาอย่างเต็มใจ หากไม่ได้อยู่ใกล้ชิดเขาแล้ว จะทำให้คนโฉดชั่ววางยาพิษสังหารเขาอย่างช้า ๆ จนทำให้เขาไม่รู้ว่าได้รับพิษบางอย่างมาจากที่ใดกันแน่
ทุกอย่างที่นางมักส่งมอบให้เขา ล้วนเป็นประโยชน์แทบทั้งสิ้น สายข่าวที่แจ้งเตือนแก่นาง ก็ล้วนเชื่อถือได้ เพราะยามนี้ตำแหน่งท่านราชครูถึงไม่เล็กไม่ใหญ่ ทว่ากลับมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตำแหน่งอื่น ๆ
และยังเป็นหลานชายของโม่ฮองเฮา หากคิดกำจัดฐานอำนาจของตระกูลโม่และตระกูลโจวย่อมต้องกำจัดบุตรชายทั้งสอง ท่านหัวหน้าองครักษ์หรือคุณชายรองที่ไม่ได้กลับจวนบ่อย ก็เพราะมีเรื่องสำคัญต้องสืบสวน
ส่วนนางก็คืออยู่ในจวน เป็นหูเป็นตาช่วยเหลือเขาอย่างลับ ๆ เพราะก่อนหน้าที่นางจะแต่งเข้ามา ก็ล้วนได้ตระหนักถึงข้อนี้ดี ชีวิตที่นางเลือกล้วนเสี่ยงอันตราย แต่นางยินดีเสี่ยงอันตรายไปกับเขา
“เจ้ารู้ได้อย่างไร” เขาแปลกใจนัก แท้ที่จริงแล้วนางเป็นใครกันแน่ ถึงได้มีวิชาต่อสู้ และยังรู้ว่าเขาได้รับพิษอีก
“ข้ารู้ก็แล้วกัน ไม่เป็นไรหรอก พิษท่านไม่กระจายเข้าสู่หัวใจ วางใจได้ท่านยังไม่ตายตอนนี้” นางกล่าวหน้าตาเฉยพร้อมกับฉีกกระโปรงให้เป็นผ้าผืนเล็ก ๆ ยาว ๆ เพื่อพันห้ามพิษและยับยั้งมิให้โลหิตนั้นไหลออกมาเยอะ
หากโลหิตไหลจนหมดตัว อาจทำให้เขาสิ้นใจต่อหน้าต่อตาของนาง เช่นนั้นความหวังดีและความเป็นห่วงก็เสียเปล่านะสิ นางย่อมไม่ยินยอมให้เขามาตายตรงนี้
ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ “ข้าดีใจที่มีเจ้า ดีใจที่เจ้าอยู่เคียงข้างกับข้า”
“พูดเหมือนคนใกล้ตายเสียอย่างนั้น วางใจเถิดท่านไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่า” นางกระเซ้าเย้าแหย่ให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง ด้านนอกก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังสวบสาบอยู่ไม่ห่างไกลนัก นางและเขาซ่อนตัวอยู่ในซอกของโขดหิน มีต้นไม้ปกคลุมหน้าแน่น หากจะพบก็คงจะยากเย็นไม่น้อย
ส่วนด้านหลังอาจเป็นน้ำตกก็ได้ เพราะได้ยินเสียงดังซู่ซ่าเบา ๆ รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัยกับนาง เพราะยังคงฝังใจกับคราวนั้นไม่หายที่พลัดตกน้ำไป หากไม่ได้เขามาช่วยนางเอาไว้ เกรงว่า...คงไปเยือนปรโลกนานแล้ว
“ข้ายังไม่อยากตาย ยังอยากมีลูกกับเจ้าหลาย ๆ คน” ว่าแล้วเขาก็ล้วงเข้าไปในสาบเสื้อ หยิบขวดหยกเล็ก ๆ ออกมา แล้วเปิดจุกผ้าจากนั้นเขาเทยาเม็ดเล็ก ๆ ที่ถูกปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เข้าปาก
ซึ่งยาขวดนี้ได้รับมาจากน้องชายฝาแฝด และก่อนที่เขาจะเดินทางมาเยี่ยมบ้านพ่อตา ก็ได้กำชับกับน้องชายเอาไว้ล่วงหน้า ให้ส่งคนติดตามดูแลความปลอดภัยห่าง ๆ
หากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใดก็ล้วนแจ้งแก่น้องชายเอาไว้ล่วงหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง คล้ายว่าไม่ดีนัก ทว่าเรื่องคอขาดบาดตาย ไม่มีผู้ใดเพิกเฉยแม้แต่น้อย
อีกทั้งเขามักระมัดระวังตนเองเสมอ เมื่อมีฮูหยินเข้ามาในจวนก็ยิ่งต้องเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น ดังนั้นจึงสั่งพ่อบ้านเฉิงให้จับตาดูถังเหมยหลินเอาไว้ หากนางได้รับอันตรายแม้เพียงเล็กน้อย สาวใช้ทั้งหลายย่อมต้องถูกลงโทษที่ละเลยเจ้านายคนใหม่
เหตุผลหลัก ๆ ก็คือขั้วอำนาจ ซึ่งท่านน้าโม่ฮองเฮาคือน้องสาวของมารดาของตน มีตำแหน่งเป็นถึงมารดาแห่งแผ่นดิน ทว่าพระโอรสองค์โตก็มิได้รับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ดังนั้นคลื่นลมในวังหลวงไม่สงบ เกิดเป็นศึกชิงตำแหน่งกันในยามนี้
เขาคือหนึ่งในผู้โชคร้าย ที่ถูกองค์ชายสามหมายหัวเอาไว้ตั้งแต่ต้น เพราะได้หมั้นหมายกับคุณหนูเล็กของจวนถัง ซึ่งองค์ชายสามนั้นชื่นชอบคุณหนูรอง ทว่าคุณหนูรองหรือท่านหญิงชมชอบท่านรองแม่ทัพแดนเหนือ
“ท่านมียาถอนพิษทำไมไม่บอกข้าเล่า” นางก็หลงเป็นห่วงจะแย่ รู้เช่นนี้ปล่อยเขาให้เลือดออกจนหมดตัวก็ดี
“ก็เจ้าไม่ถามนี่นา สามีของเจ้ามิใช่คนไร้สติปัญญา เดินทางไกลรอนแรมเกือบร้อยลี้ มีหรือที่จะไม่ตระเตรียมการเอาไว้ก่อนล่วงหน้า พวกเราหลบกันอยู่ในนี้เสียก่อน อีกเดี๋ยวก็สงบแล้ว” ก่อนที่เขาจะปิดเปลือกตาลงเพราะทนความเจ็บปวดบาดแผลไม่ไหว
จึงได้โอบกอดนางเข้ามาใกล้ ๆ ยิ่งอยู่ใกล้นางมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้ใจเขาเต้นระรัวทุกครั้ง “ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกเจ้าเอาไว้ก่อน กลัวมากหรือไม่” เขากล่าวเสียงนุ่ม มิได้คลายร่างบอบบางให้เป็นอิสระ เพียงแค่กอดนางเอาไว้ เพราะรู้สึกอบอุ่นหัวใจนักที่ได้ใกล้ชิดกับนางเช่นนี้
“ข้ากลัวสิ ใครไม่กลัวเล่า เกิดมาไม่เคยต่อยตีกับใคร” นางเสแสร้งหลอกลวงอย่างจงใจ อยู่กับท่านอาจารย์ก็มักนำนางไปต่อยตีกับเหล่าบุรุษยังหมู่บ้านตีนเขา นางปวดเนื้อปวดตัวไปหมด แขนขาเขียวช้ำ ใบหน้าก็เกือบเสียโฉมเพราะความประหลาดของท่านอาจารย์
“จะเชื่อคำพูดของเจ้าได้หรือฮูหยิน เจ้านะร้ายกาจไม่เบา วรยุทธ์ของเจ้าร่ำเรียนกับผู้ใดมากัน” ชายหนุ่มไม่มั่นใจนัก รู้สึกคุ้นเคยราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“ก็ท่านอาจารย์ข้าอยู่บนยอดเขาสิบลี้นะสิ บอกไปท่านก็ไม่รู้จักหรอกน่า” นางยังคงเอนศีรษะพิงที่ไหลกว้าง มองดูโลหิตของเขาหยุดไหลแล้ว ส่วนด้านนอกก็ได้ยินเสียงโลหะกระทบกระทั่งอย่างดุเดือด เสียงร้องโอดโอยก็ค่อยดังขึ้นแล้วก็หายเงียบไป
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ออกมาเร็วเข้า” เขาเบื่อหน่ายเสียเหลือเกิน ที่พี่ชายฝาแฝดทำตัวอ่อนแอ เพื่อเรียกร้องความสนใจ และเขาต้องเดินทางมาเก็บกวาดคนเหล่านี้หรือ มันใช่หน้าที่เขาหรือไม่ ส่วนตนเองกลับหลบมาพลอดรักกับฮูหยิน ปล่อยให้เขาเสียเหงื่ออยู่นานสองนาน
“รู้แล้วน่า ช่างรวดเร็วนัก น่านับถือท่านหัวหน้าองครักษ์ฝีมือยอดเยี่ยมเสียจริง” สีหน้าของแฝดพี่นั้นดูดีขึ้นมากแล้ว เมื่อได้พักผ่อนเกือบ ๆ ครึ่งก้านธูป น่าเสียดายที่การต่อสู้นี้จบลงอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้องมาประชดประชันข้าเลย แผลแค่นั้นเหตุใดต้องลงทุนฉีกกระโปรงด้วยเล่าพี่สะใภ้ บาดแผลแค่นี้ไม่ทำให้เขาตายง่ายหรอก” เขาเหลือบมองแขนของพี่ชายก่อนจะเอ่ยกระทบกระทั่งตามประสาพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียว
“ได้ทีท่านก็รีบฉกฉวยโอกาสออดอ้อนภรรยา” ท่านหัวหน้าองครักษ์แห่งวังหลวงเอ่ยประชดประชันพี่ชาย พร้อมกับชำเลืองมองด้วยหางตาอย่างคนที่กำลังอิจฉาตาร้อน เห็นพี่ชายกำลังส่งสายตาออดอ้อนพี่สะใภ้ ทั้ง ๆ ที่บาดแผลเพียงแค่เล็กน้อย ก็แสร้งทำเจ็บปวดแทบขาดใจ
“เจ้ารอง ข้ามีนางดูแล หากเจ้าอิจฉาก็รีบแต่งภรรยาเสียสิ หรือว่าจะเป็นคุณหนูหานที่คอยแอบมองเจ้าบ่อย ๆ ก็ไม่เลวนี่นา” ผู้เป็นพี่ชายหรือจะปล่อยผ่าน เขาจึงรีบสวนขึ้น
ใครไม่ทราบแต่เขาทราบดีว่ามีแม่สาวน้อยนางหนึ่ง ชื่นชอบน้องรองของเขามาตั้งนานแล้ว สตรีนางนั้นก็งดงาม และเหมาะสม เว้นเพียงแค่น้องชายผู้นี้มิเปิดใจให้ใครเข้ามาแทนที่คนรักที่จากไป
ผู้เป็นแฝดพี่อยากให้น้องชายมีความสุข อยากให้หลานชายมีมารดาคอยดูแลฟูมฟักเลี้ยงดู เพราะคุณหนูหานมิใช่สตรีจิตใจโหดร้าย กลับดูน่ารักสดใส สุภาพและอ่อนโยนเหมาะสมที่จะมาเป็นน้องสะใภ้ทีเดียวและเป็นมารดาของเสี่ยวเปา
“ข้าไม่มีทางแต่งงานกับหานมู่ตานอย่างแน่นอน” สตรีนางนั้นมิคู่ควรจะเป็นมารดาของบุตรชายเขา และไม่มีผู้ใดเหมาะสมอีกแล้ว “เรื่องของข้า ไม่รบกวนพี่ใหญ่สอดมือมาวุ่นวาย ขอบคุณที่หวังดีขอตัว”