ปฐมบท
บนเตียงนอนยับย่น กรุ่นกลิ่นคาวคลุ้งอบอวล มองด้วยดวงตาข้างเดียวก็รู้ว่าเพิ่งผ่านศึกอะไรมา
หญิงสาวใบหน้าดูดีในระดับใช้ได้ไม่ถึงกับสวยสะดุดตา รูปร่างผอมเพรียวแต่อวบอิ่มพอประมาณนอนพลิกตัวเบาๆ ก่อนกะพริบตาสะลึมสะลือ กลิ้งพวงแก้มแดงเรื่อกับหมอนนุ่ม เมื่อค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นนั่งก็ต้องงุนงงในสภาพเปลือยเปล่าของตนพร้อมอาการเจ็บแสบปวดหนึบและเปียกแฉะที่... ส่วนสงวน!
เธอเพิ่งเสียสาว!
ฟ้าพราว สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด พยายามนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนที่ผ่านมา ครู่หนึ่งจึงรับรู้ได้ถึงรสสัมผัสหวามที่ติดค้างเนื้อตัว รอยคิสมาร์กสีแดงกุหลบบริเวณเนินอก ท้องน้อย ต้นขาด้านใน และการมีอยู่ของใครอีกคนบนเตียงเดียวกัน
หญิงสาวเหลือบตาไปมองผู้ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังนอนหลับตัวเปลือยอยู่ข้างๆ ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกับเธอ
ใครเนี่ย?
สำรวจและพินิจชั่วอึดใจก็นึกขึ้นได้
แย่แล้วยัยฟ้า! เธอดื่มเหล้าเมากระทั่งหิ้วผู้ชายเข้าห้องมาทำเรื่องบัดสีแบบนี้ได้ไง!
ขณะตกใจ ผู้ชายที่นอนยาวเหยียดอยู่ข้างๆ ก็เริ่มสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ดวงตาคู่คมบนวงหน้าหล่อเหลาค่อยๆ หรี่ขึ้น
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
น้ำเสียงเซ็กซี่มาก
ฟ้าพราวเบิกตาส่ายหน้าทีหนึ่ง เธอกำลังคิดบ้าอะไร?
“นาย...นายเป็นใคร เข้ามาในห้องฉันได้ไง แล้วยังทำเรื่องบ้าๆ อะไรกับฉันเนี่ย?”
หญิงสาวถามเป็นชุด ดึงผ้าห่มมาพันตัวเองจนกลายเป็นดักแด้ตัวใหญ่ ปล่อยให้อีกคนเผยสัดส่วนแข็งแรงเพอร์เฟคกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่วนนั้นของเขาที่สงบแล้วก็ยังดูใหญ่โตล้อสายตา โอ้โห!
ฟ้าพราวตาโตแถบเหลือก รีบเบือนหน้าหนีอย่างเขินอาย ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำแหบพร่าดังขึ้นเบาๆ ในระยะเผาขน
เสียงนั้นทรงเสน่ห์จนใบหูของเธอแดงเถือก
“จำกันไม่ได้เหรอไง ผมวิณณ์ อยู่ห้องฝั่งตรงข้ามกับคุณ”
ฟ้าพราวหันขวับ มองคนหน้าหล่อจนเต็มสองตา
หลังจากพยายามนึกครู่หนึ่งถึงจำได้ “ที่แท้ก็นายนั่นเอง”
ผู้ชายหล่อลากแต่โคตรเจ้าชู้ที่ควงสาวเข้าห้องไม่ซ้ำหน้า เธอเห็นคาตาอยู่สองครั้ง แต่ละครั้งที่เห็นก็เป็นผู้หญิงคนละคน
แล้วไหงวันนี้เธอถึงลากเขาเข้าห้องตัวเองได้ล่ะ?
แถมยัง...
ฟ้าพราวก้มหน้ามองคราบคาวหลักฐานบนผ้าปูเตียงสีขาวด้วยหัวใจเต้นระส่ำ
บนนั้นมีคราบเปียกชื้นเป็นหย่อมๆ ผสานคราบเลือดสีแดงหลายจุด ยังมีคราบหย่อมหนึ่งขึ้นสีขาวขุ่นอยู่ คงเพิ่งเกิดไม่นาน
ขณะใจสั่นแทบหลุดทะลุอกเธอก็ได้ยินเสียงผู้ชายตัวโตพูดอีกว่า “พวกเราน่าจะทำสี่ห้ารอบได้มั้ง จำไม่ได้แล้ว แต่เลือดสาวของเธอออกแค่ครั้งแรกครั้งเดียว ผมอ่อนโยนกระทั่งรอบสุดท้ายตอนฟ้าสาง ไม่รุนแรงแน่นอนครับ”
สาวน้อยผู้เพิ่งเสียพรหมจรรย์จึงยกเท้าหมายจะถีบยอดอกแน่นๆ ของหนุ่มหล่อสักหนึ่งที แต่อีกฝ่ายกลับมือไว จับเท้าเธอไว้
“ปล่อยนะ!”
“ปล่อยได้ไง เธอจะถีบ”
ฝ่าเท้าเล็กกับฝ่ามือใหญ่ยื้อยุดกันครู่หนึ่ง จนผ้าห่มเปิด เห็นถึงโคนขาอ่อนขาวละเอียด ฟ้าพราวยิ่งหน้าแดง
“ปล่อยฉันนะ ไม่ถีบแล้ว”
นั่นแหละ ฝ่าเท้าถึงได้รับอิสระ ก่อนที่บางส่วนจะออกมาโลดแล่นอย่างมีอิสรเสรีนอกผ้าห่ม
“อายอะไร ผมเห็นจนหมดแล้ว ทั้งยังได้จูบได้ดูดได้เลีย”
เพียะ!
ฝ่ามือเต็มสันกรามทันที วิณณ์ถึงกับหน้าหัน
“หยุดพูดนะ!”
ฟ้าพราวโวยวาย เอาหมอนฟาดปากอีกฝ่ายไม่ยั้ง
“ไม่พูดแล้วครับ ไม่พูด พอก่อน โอ๊ย!”
แต่ผู้หญิงเพิ่งเสียสาวสติแตกไปแล้ว เธอทั้งทุบทั้งตี ก่อนจะลากคนตัวสูงออกไปนอกห้อง แล้วโยนเสื้อผ้าของเขาตามติด
วิณณ์ยืนอึ้งอยู่กับที่
หลังได้สติจึงก้มเก็บเสื้อผ้าแล้วรีบหมุนตัวล่อนจ้อนเข้าห้องของตัวเองที่อยู่แค่ตรงกันข้ามกับห้องของฟ้าพราว
ยังดีที่ไม่มีใครเดินผ่านมาเห็น