บทที่ 3 : ตัวป่วน (3)

1432 คำ
ชนิกานต์เดินกระทืบเท้ากลับมายังที่พัก ด้วยอารมณ์หงุดหงิดจะถูกส่งตัวกลับ แต่พอมาถึงหน้าบ้านพักก็เกิดเปลี่ยนใจเดินออกมายังหลังบ้านเพราะเธออยากเดินไปสูดอากาศข้างนอกก่อนเผื่ออารมณ์ขุ่นเคืองจะสงบลงได้บ้าง “คุณหนูจะไปไหนครับ” ไชยาตะโกนถามตามหลังเมื่อจู่ๆคู่หูก็หมุนตัวเดินไปอีกทาง ไม่ยอมเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวและเก็บข้าวของเตรียมเดินทางตามที่ผู้กองหนุ่มได้สั่งเอาไว้ “ขอตัวไปเดินเล่นก่อน เดี๋ยวกลับมา” “แต่ผู้กองให้คุณหนูกลับมาอาบน้ำเก็บของนะครับ” “ช่างเข้าสิ คนใจร้ายแบบนั้นไม่ต้องเชื่อฟังทุกเรื่องหรอก” ชนิกานต์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด จากนั้นก็มุ่งตรงไปยังข้างหน้าโดยไม่สนใจคู่หูอีก กระทั่งเดินเข้ามาในป่าหลังบ้านพัก “สวยจัง” เสียงหวานพึมพำกับตัวเองโดยไม่รู้ตัว ชนิการน์เพิ่งจะมีโอกาสได้เห็นบริเวณหลังบ้านพักแบบเต็มตาก็ตอนนี้เอง ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าหลังบ้านพักที่เป็นป่าหนาทึบจะซ่อนลำธารอยู่ ป่าเขาและลำธารที่เคยเห็นในอินเตอร์เน็ตที่ว่าสวยแล้ว กลับสู้ของจริงไม่ได้เลยสักนิด เพราะของจริงให้ความรู้สึกสดชดชื่นกว่าเยอะ ชนิกานต์เดินต่อไปเรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลินลืมความหงุดหงิดใจไปเสียสนิท จนในที่สุดเธอก็มาหยุดยืนอยู่ที่ริมธารที่มีแอ่งน้ำใสๆชวนให้กระโดดลงไปแหวกว่าย “ว้าวววว!…” หญิงสาวหลุดอุทานออกมาเพราะตกตะลึงในความสวยงามตรงหน้า แอ่งน้ำขนาดใหญ่ราวกับสระว่ายน้ำท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้จะหาได้ที่ไหนอีก ไม่คิดไม่ฝันว่าเธอจะได้มาพบสวรรค์ท่ามกลางป่าเขาแบบนี้ “ถึงที่นี่จะไม่มีสระว่ายน้ำเหมือนที่บ้าน แต่แอ่งน้ำนี้ก็พอช่วยแก้ขัดได้” ชนิกานต์บอกกับตัวเองเบาๆด้วยความรู้สึกดีใจปนตื่นเต้นจนต้องหัวเราะออกมาราวกับเด็กน้อยเห็นของเล่นที่ถูกใจ ‘ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอลองเล่นน้ำก่อนกลับกรุงเทพก็แล้วกัน’ คิดแล้วก็ต้องรีบหันซ้ายหันขวาเมื่อไม่พบว่าใครอยู่บริเวณนี้ก็รีบปลดเสื้อผ้าออกมากองไว้บนก้อนหินขนาดใหญ่ หลงเหลือไว้เพียงบิกินี่ตัวจิ๋วบนตัวเท่านั้น ทางด้านอิทธิฤทธิ์ หลังจากที่ประเมินดูความเสียหายที่เกิดขึ้นพักใหญ่ ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ร่างสูงสง่าที่ยืนกอดอกในท่าเดิมอยู่นานก็หันมาออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงเรียบไม่ต่างจากท่าทางนิ่งขรึมเดายากนั้นสักเท่าไหร่ “จ่า ไปเขียนรายงานเรื่องไฟไหม้วันนี้ส่งไห้ทางส่วนกลางด้วย” “ครับผู้กอง” จ่าปี๊บรับคำอย่างแข็งขัน ก่อนจะเอ่ยรายงาน“เอ่อ…ผู้กองครับเรื่องยางรถในหน่วยตอนนี้สูบครบทุกคันแล้วนะครับ” “อืม” ผู้กองหนุ่มส่งเสียงรับทราบในลำคอ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับที่พัก เหตุการณ์วุ่นๆที่เกิดในหน่วยล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของตัวป่านทั้งสองคน หากเขาส่งตัวกลับกรุงเทพฯช้ากว่านี้เกรงว่าทั้งสองจะก่อความเสียหายให้กับหน่วยทหารแห่งนี้มากไปกว่านี้ “พร้อมเดินทางแล้วใช่ไหม”อิทธิฤทธิ์เอ่ยถามเด็กหนุ่มที่กำลังถือกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้อง “ครับผู้กอง แต่ตอนนี้คุณหนูยังไม่กลับมาเลยครับ” “แพทไปไหน”อิทธิฤทธิ์ถามพลางขมวดคิ้วยุ่ง “เมื่อกี้คุณหนูบอกว่าจะไปเดินเล่นครับ เห็นเข้าไปทางหลังบ้านพัก” ฟังจบอิทธิฤทธิ์ก็หมุนตัวออกจากบ้านพักทันที ชายหนุ่มก้าวยาวๆตรงไปทางที่หนุ่มน้อยบอก ขณะเดินไปก็อดที่จะบ่นพึมพำด้วยอารมณ์หงุดหงิดไม่ได้ “ก่อเรื่องไว้ขนาดนี้แล้วยังจะมีอารมณ์เดินเล่นอยู่อีก ยายตัวแสบ!” เมื่ออิทธิฤทธิ์เดินมาหยุดอยู่ริมธารก็ต้องกำหมัดแน่นควบคุมอารมณ์โมโหเอาไว้ ทั้งที่อยากลงไปลากร่างอรชรขาวเนียนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังว่ายน้ำอย่างเพลิดเพลินอารมณ์ขึ้นมาใจแทบขาด “ขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะแพท!” ผู้กองหนุ่มออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงห้วนเข้มกับร่างอรชรที่จับขอนไม้ขนาดใหญ่ตีเท้าเล่นกับน้ำอย่างสนุกสนาน ไม่สนคนตัวใหญ่ที่มองมาด้วยสายตาวาวโรจน์ราวกับไปกินอะไรผิดมา “พี่อิทว่าอะไรนะคะ แพทได้ยินไม่ถนัด” ชนิกานต์แกล้งถามทั้งที่ยังไม่หยุดตีเท้า ดูจากสีหน้าเขาตอนนี้เหมือนจะโกรธใครมาเป็นสิบชาติ แต่เธอไม่มีทางยอมให้เขาใช้อำนาจมาออกคำสั่งกับเธอเด็ดขาด! ยอมแค่เรื่องส่งตัวกลับกรุงเทพฯ ก็ถือว่ามากพอแล้ว “พี่บอกให้ขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” เสียงคำรามน่ากลัวของชายหนุ่มนั้นเหมือนต้องการข่มขวัญอีกฝ่ายให้ยอมทำตาม แต่หญิงสาวกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านใดใด ซ้ำยังยักคิ้วท้าทายอย่างไม่เกรงกลัวอีกด้วย “แพทจะขึ้นก็ต่อเมื่อเล่นน้ำจนพอใจแล้วเท่านั้น พี่อิทไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับแพท เพราะแพทไม่ใช่ลูกน้องของพี่” ชนิกานต์ไม่สนใจทำตามคำสั่ง เธอบอกกับชายหนุ่มพร้อมปล่อยมือลอยคอว่ายน้ำห่างออกจากริมธาร “บ้าชิบ!” อิทธิฤทธิ์สบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนจะหมุนตัวก้าวยาวๆ เดินกลับบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเพื่อนำผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาให้สาวน้อย แต่ก่อนกลับไปหาเธออีกครั้งก็ไม่ลืมที่จะกำชับกับเด็กหนุ่มให้เฝ้าทางเอาไว้ ไม่ให้นายทหารหรือใครเดินเข้าไปบริเวณนั้นเป็นอันขาด! “อย่าให้ใครไปที่ลำธารเด็ดขาด! เขาใจไหมไชยา” “ครับผู้กอง” ไชยารับคำโดยไม่ซักถามอะไรให้มากความ เพราะดูจากสีหน้าและท่าทางของเจ้านายหนุ่มตอนนี้ก็พอจะเดาออกมาว่าคุณหนูจอมป่วนไปก่อเรื่องไว้อีกแล้ว “ขอย้ำว่าอย่าให้ใครเข้าไปเด็ดขาด! รวมทั้งนายด้วย!” คำสั่งเฉียบขาดแต่แฝงไปด้วยความเรียบเย็นของผู้เป็นนาย ทำให้หนุ่มน้อยต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง ก่อนจะรีบพยักหน้ารัวเร็วรับคำอย่างแข็งขัน “ครับ! ผมเข้าใจแล้วครับ!” คลายหลังเจ้านายหนุ่มเดินออกไปยังไม่ถึงนาทีรถจี๊บคันใหญ่สีเขียวหลังคาผ้าใบก็มาจอดอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม เมื่อเห็นร่างสูงสง่าพอๆกับเจ้านายหนุ่มที่เพิ่งเดินจากไปในชุดเจ้าหน้าที่เสือไฟก้าวลงจากรถไชยาก็ยกมือไหว้ทักทาย “สวัสดีครับหัวหน้า” “อ้าว! ไชยาเก็บกระเป๋าจะกลับกรุงเทพฯ แล้วเหรอ” ถามเสร็จก็ไม่คิดจะฟังคำตอบจากหนุ่มน้อยเสียก่อน แต่กลับเดินเบียดร่างสูงโปร่งทำท่าจะก้าวเข้าไปหลับบ้านพักทันที ถ้าหากไชยาไม่รีบขยับก้าวไปขวางด้วยสีหน้าตื่นตกใจเสียก่อน “หัวหน้าจะไปไหนครับ” “ไปยิงกระต่าย ปวดจะตายอยู่แล้ว” “เอ่อ…ไปเข้าห้องน้ำที่บนบ้านดีกว่านะครับ” ไชยาแนะนำ เพราะเกรงว่าหากปล่อยอีกฝ่ายเข้าไปในป่าตอนนี้เจ้านายหนุ่มที่กำชับนักหนาต้องไม่พอใจแน่ ทว่าอีกฝ่ายไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น “ไม่เป็นไร ในป่าสะดวกกว่า หลีกหน่อยฉันไม่ไหวแล้ว” พูดจบมือใหญ่ก็ดันร่างสูงบางของเด็กหนุ่มออกไปให้พ้นทาง ก่อนจะก้าวยาวๆเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว “อ้าวเฮ้ย! หัวหน้า…เข้าไปไม่ได้นะครับ” “อย่าตามมาสิวะ ฉันจะไปฉี่” “ไม่ได้นะครับ ไปทางนี้ไม่ได้” “ทำไมจะไม่ได้ ป่าเป็นของนายคนเดียวหรือไง” ภูมินทร์หันมาถามเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงห้วนจัด ที่เดินตามมาติดๆ ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ปลดทุกข์สักที “ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ แต่ผู้กองสั่งไม่ให้ใครเข้าไปครับ” “ไม่เป็นไร ถ้ามันซ่อนความลับไว้หลังบ้าน ฉันจะเคลียร์กับมันเอง” บอกพร้อมกับหันมาผลักไหล่เด็กหนุ่มเต็มแรงจนอีกฝ่ายเสียหลักเซถอยหลังไปหลายก้าว เพราะรูปร่างต่างกันมาก จากนั้นภูมินทร์ก็ก้าวอาดๆมองหาที่ปลดทุกข์ด้วยความรวดเร็ว ด้านไชยาพอตั้งหลักได้ก็รีบวิ่งตามมาทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม