เมื่อกลับเข้ามาในบ้าน พ่อเลี้ยงเมืองรามได้หยิบไวน์ขึ้นไปบนห้อง เขาบอกกับป้านุ่นว่าไม่ค่อยสบาย ต้องการพักผ่อนห้ามให้ใครรบกวน สร้างความแปลกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก
“แม่นุ่นพ่อเลี้ยงเป็นอะไร ไหนบอกว่าจะไปตามคุณหมอ ทำไมกลับมาคนเดียว” คุณนายแม้นเมืองเอ่ยถามออกไป พลางตักผัดผักรวมให้กับของขวัญ ซึ่งหนูน้อยชื่นชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะว่าผักที่ใช้ประกอบอาหาร พ่อเลี้ยงเมืองรามเป็นคนกำกับดูแล ห้ามคนงานใช้ยาฆ่าแมลง จึงมีความหวานกรอบอร่อยเต็มคำ
“พ่อเลี้ยงบอกว่าไม่ค่อยสบาย แต่ดิฉันเห็นถือขวดไวน์ขึ้นไปด้วย ส่วนคุณหมอคุยธุระกับแขกยังไม่เสร็จมั้งคะ เห็นรถยนต์ยังยอดอยู่เลย” ป้านุ่นรายงานคุณนายแม้นเมืองออกไปตามความเป็นจริง
“ไม่สบายเป็นอะไรมากหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าใช่นะ ถือขวดไวน์ขึ้นไปด้วยแบบนี้ ไข้ใจมากกว่า” หญิงสูงวัยเริ่มแน่ใจในตัวของพ่อเลี้ยงเมืองราม แน่นอนว่าลูกชายของนาง คงตกหลุมรักแพทย์หญิงใบบัวเข้าให้แล้วอย่างจัง จนไม่อาจทนเห็นผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอได้
“คุณย่าขา ของขวัญขอผัดผักเพิ่มได้ไหมคะ ขอแครอทเยอะๆ นะคะ” ใบหน้าและแววตาหนูน้อยที่ออดอ้อน ทำให้คุณนายแม้นเมืองยิ้มหน้าบาน ความฝันอยากมีหลาน ทั้งที่เคยเลือนราง เวลานี้กลับอบอวนไปด้วยกลิ่นอายของความสุข เมื่อหนูน้อยกลายเป็นหลานสาวคนโปรดสำหรับนางไปโดยปริยาย
“ได้สิจ๊ะ แม่นุ่นสั่งให้เด็กตักผัดผักมาเติมให้หลานสาวของฉันสิ ยกมาหมดเลยก็ได้ พ่อเลี้ยงคงไม่ทานหรอก ป่านนี้เมาเป๋แล้วมั้ง” ขณะที่พูดหญิงสูงวัยแอบยิ้มบางๆ เมื่อนึกถึงท่าทีของลูกชาย จากที่เขาเคยเย็นชาดูไร้หัวใจ ช่วงเวลานี้พ่อเลี้ยงเมืองรามกลับมุ่งมั่นที่จะเอาชนะใจแพทย์หญิงใบบัว สองคนย่าหลาน ยังคงรับประทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อย ก่อนที่แพทย์หญิงใบบัวจะเดินเข้ามา พลางแสดงสีหน้ารู้สึกผิด
“ขอโทษนะคะคุณแม่ที่เสียมารยาท พอดีว่าคุณธุระสำคัญกับคุณหมอโฬมนานไปหน่อย เขาเพิ่งกลับไปเมื่อสักครู่นี่เองค่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกแม่เข้าใจดี มาทานข้าวกันเถอะเดี๋ยวจะเย็นหมดเสียก่อน”
“ขอบคุณมากค่ะ เอ่อ... แล้วพ่อเลี้ยงละค่ะ”
“เห็นบอกว่าไม่ค่อยสบายเลยขอตัวขึ้นไปพักผ่อน ทานข้าวเสร็จคุณหมอช่วยไปตรวจดูอาการของพ่อเลี้ยงหน่อยสิลูก” หญิงสูงวัยแอบชำเลืองหางตามองไปที่แพทย์หญิงใบบัว ซึ่งทำให้นางพอจะทราบถึงอากัปกิริยาของเธอ เมื่อใบหน้าของหญิงสาวดูกังวลไม่น้อย แค่เพียงรู้ว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามไม่สบาย
“ได้ค่ะคุณแม่” หญิงสาวรีบตกปากรับคำหญิงสูงวัยออกไปอย่างไม่ลังเล ภายในใจของเธอเริ่มเป็นกังวลมากขึ้น กลัวว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มจะเป็นอะไรมากไปหรือเปล่า เขาถึงไม่ยอมลงมารับประทานมื้อเย็น
“คืนนี้ของขวัญจะนอนกับคุณย่าอีกใช่ไหมลูก”
“ใช่แล้วค่ะ ของขวัญอยากฟังนิทานที่คุณย่าเล่ามันสนุกดี คุณแม่ขา... ของขวัญนอนกับคุณย่าอีกนะคะ” หนูน้อยเงยหน้าจากอาหารในจาน ก่อนจะพูดจาออดอ้อนมารดาของเธอ
“ได้สิค่ะ แต่หนูห้ามดื้อกับคุณย่ารู้ไหม”
“รู้แล้วค่ะ” ดูเหมือนว่าของขวัญเริ่มจะติดคุณย่าแจ เพราะช่วงเวลาหลายวันมานี้ เธอมักจะมานอนกับคุณนายแม้นเมือง จนหญิงสูงวัยเริ่มชิน อยากจะนอนกับหนูน้อยในทุกค่ำคืน
“ถ้าไม่มีหนูของขวัญกับคุณหมอ ที่ไร่คงไม่มีชีวิตชีวาแบบนี้ ขอบใจมากนะที่เดินเข้ามาในชีวิตของคนแก่ ซึ่งทำให้บ้านไม่เงียบเหงาเหมือนดังแต่ก่อน” ถ้อยคำที่เรียงร้อยออกมาจากใจ ทำให้แพทย์หญิงใบบัวรู้สึกดี เธอช่างมีวาสนาที่มาเจอคนไข้อย่างคุณนายแม้นเมือง เพราะนางมีจิตใจดีโอบอ้อมอารีและไม่ถือตัว มิหนำซ้ำยังรักเธอกับของขวัญเหมือนลูกเหมือนหลานอีกด้วย
หลังจากรับประทานมื้อเย็นเสร็จ ของขวัญไปนอนกับคุณนายแม้นเมือง ส่วนแพทย์หญิงใบบัวเดินไปหยิบกระเป๋าแพทย์ที่เรือนหลังเล็ก ก่อนจะเดินกลับมาที่เรือนหลังใหญ่อีกครั้ง เธอช่างใจอยู่นาน
ในที่สุดก็ตัดสินใจเคาะประตูห้องนอนของพ่อเลี้ยงเมืองราม ซึ่งเขาไม่ได้ลงกลอนเอาไว้ พอเปิดประตูเข้าไป ทำให้หญิงสาวถึงกับก้าวขาไม่ออก เพราะทั้งเนื้อทั้งตัวของพ่อเลี้ยงเมืองราม มีแค่กางเกงขายาว ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า จนเผยให้เห็นซิกซ์แพ็กเป็นชั้น กล้ามแขนเป็นมัดๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่รักสุขภาพ
ถึงแม้จะโหมงานในไร่หนักแค่ไหน พ่อเลี้ยงหนุ่มก็ยังคงหาเวลาเข้าฟิตเนสเป็นประจำ ซึ่งคล้ายโรงยิมส่วนตัว มีทั้งสระว่ายน้ำและอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน จึงทำให้เขานั้นกลายเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะเวลาที่โชว์ร่างกายท่อนบนแบบนี้
“ขอโทษค่ะ พอดีว่า... ฉันได้รับคำสั่งจากแม่ของคุณ ท่านบอกให้ฉันมาตรวจอาการของคุณ แต่ท่าทางพ่อเลี้ยงคงสบายดีถึงได้นั่งจิบไวน์สบายใจแบบนี้” แพทย์หญิงใบบัวทำเป็นใจดีสู้เสือ ทั้งที่ภายในใจของเธอมันแทบเก็บอาการไม่อยู่ ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงขนาดนี้
“ว่างแล้วเหรอ” พ่อเลี้ยงเมืองรามตวัดหางตามองมาที่คนตัวเล็ก พลางยกแก้วไวน์ขึ้นจิบด้วยใบหน้าและแววตาที่ยากจะคาดเดาได้
“ฉันเพิ่งทานข้าวเสร็จก็รีบขึ้นมาดูอาการของคุณทันที ไม่คิดว่าคุณจะนั่งดื่มแล้วยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยอีก แบบนี้คงไม่ต้องตรวจแล้วมั้งคะ”
เธอไม่คิดว่าเขาจะชอบอยู่กับธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ เครื่องปรับอากาศคงมีไว้เพียงประดับห้อง เมื่อพ่อเลี้ยงเมืองรามเลื่อนกระจกใสบานใหญ่ออกกว้าง เพื่อให้สายลมโกรก เข้ามาต้องกายภายในห้องนอน
ซึ่งหญิงสาวเองก็อดที่จะชื่นชอบบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้เช่นกัน แต่ก็ไม่อยากแสดงอาการใดๆ ออกไป เพราะเธอยังไม่แน่ใจในความรู้สึกที่แท้จริง มันคือความรัก หรือเพียงเพราะว่าความใกล้ชิดที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเธอไม่เคยเปิดใจรับใครเข้ามา พอเจอกับพ่อเลี้ยงเมืองรามที่รุกหนัก จึงทำให้เขาและเธอนั้นเริ่มผูกพันทั้งที่เพิ่งเจอกันไม่นาน
“คุณไม่ห่วงผมเลยใช่ไหม ถึงได้แสดงท่าทีเย็นชาแบบนี้”
“ใครบอก ถ้าฉันไม่ห่วงคงไม่ถือกระเป๋าแพทย์ขึ้นมาในห้องของคุณ ทั้งที่รู้ว่ามันไม่เหมาะสม ใช่ช่วงกลางค่ำกลางคืนแบบนี้”
“แต่ที่ผมเห็นมันไม่ใช่อย่างที่คุณพูดเลยสักนิด ถ้าแม่ผมไม่เอ่ยปากขอร้อง คุณหมอคงไม่สนใจ ที่จะตรวจคนไข้อย่างผมสินะ” พ่อเลี้ยงหนุ่มยังคงน้อยใจแพทย์หญิงใบบัว เพราะภาพที่เธอกอดกับนายแพทย์หนุ่มยังคงติดตาคาใจ