แพทย์หญิงใบบัว

1337 คำ
ภายในบ้านที่ตกแต่งเอาไว้อย่างเรียบง่าย แต่ก็ดูสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย แพทย์หญิงใบบัวตื่นขึ้นมาแต่เช้า เพื่อวิ่งออกกำลังกาย ก่อนที่เธอจะเข้าครัวทำมื้อเช้าเองในทุกๆ วัน จนเริ่มชินกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ เมื่อหญิงสาวต้องดูแลหนูน้อยของขวัญเพียงลำพัง แต่ทว่าเธอก็ไม่เคยหวั่น เพราะการมีลูกสาวนั้นมันคือความสุขด้วยซ้ำ ของขวัญไม่ใช่ภาระของเธอ แต่หนูน้อยคือกำลังใจที่ทำให้เธออยากตื่นขึ้นมามีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ในทุกๆ วัน “คุณแม่ขา...” เสียงหวานของหนูน้อยวัยหกขวบกว่าดังขึ้น พร้อมกับวิ่งเข้ามาในครัว ขณะที่พี่เลี้ยงตามของขวัญแทบไม่ทัน แน่นอนเวลาตื่นนอน หนูน้อยมักจะวิ่งมาหาแม่ในครัวเป็นประจำ “คุณหนูของขวัญอย่างวิ่งค่ะ เดี๋ยวล้ม” เสียงของริตาพี่เลี้ยงของเธอดังขึ้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หนูน้อยหยุดวิ่ง “ตื่นแต่เช้าเลย รู้ใช่ไหมคะคนสวย วันนี้เราจะไปไหนกัน” จังหวะที่หนูน้อยวิ่งมาถึง ทำให้แพทย์หญิงใบบัวผละจากหม้อข้าวต้ม แล้วก้มลงไปถามด้วยถ้อยคำที่แสนหวาน “เราจะย้ายไปจากที่นี่ ย้ายไปอยู่ที่ไร่ของพ่อเลี้ยงเมืองรามใช่ไหมคะ” หนูน้อยพูดจาฉะฉานเงยหน้าขึ้นไปถามผู้เป็นมารดา “ใช่แล้วค่ะ” “เราจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของคุณพ่อ แล้วจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกใช่ไหมคะ” หนูน้อยเอ่ยถามออกไปด้วยใบหน้าและแววตาที่ดูใสซื่อ “ของขวัญ!” หญิงสาวถึงกับอุทานเรียกชื่อลูกสาวออกมาเสียงดัง เมื่อหนูน้อยนั้นกำลังคิดว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามคือบิดาของเธอ “ฟังแม่นะลูก” แพทย์หญิงใบบุญนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าของขวัญ ก่อนจะคว้ามือเล็กนุ่มมากุมเอาไว้ พลางลูบเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นไปสบตาหนูน้อย “พ่อเลี้ยงเมืองรามไม่ใช่พ่อของหนู การที่หนูไม่มีพ่อแต่มีแม่คนนี้ไม่ดีเหรอคะ ถ้าหนูมีพ่อแต่ไม่มีแม่ หนูจะเลือกแบบไหน” ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวพยายามทำความเข้าใจกับความรู้สึกของลูกสาว แต่ทว่ายิ่งของขวัญโตขึ้น หนูน้อยก็มีทีท่าพร่ำหาผู้เป็นบิดามากขึ้น “หนูเลือกที่จะมีแม่ใบบัวค่ะ แต่ถ้ามีพ่อด้วยก็คงดี” ถ้อยคำที่ลูกสาวพูดออกมาทำให้แพทย์หญิงจุกในอกไม่น้อยไปกว่าของขวัญ เธอทำได้เพียงแค่โอบหนูน้อยเข้ามากอด เพื่อปลอบโยนให้หายเศร้า แต่ทว่าอ้อมกอดของเธอคงทดแทนอ้อมกอดของบิดาที่หนูน้อยเฝ้ารอไม่ได้ “เราจะไปกันหรือยังคะ” “เราแค่สองคนหนูกับแม่ ส่วนพี่ริตาไม่ได้ไปด้วยนะ” “หนูอยากให้พี่ริตาไปด้วย ได้ไหมคะคุณแม่” หนูน้อยทำหน้าเศร้าน้ำตาคลอเบ้าด้วยความรู้สึกใจหาย “พี่ริตาต้องเดินทางไปทำงานกับแฟนของเขาที่กรุงเทพ ทุกคนต่างมีหน้าที่และเส้นทางการใช้ชีวิตของตัวเอง สักวันของขวัญเองก็อาจจะต้องเลือกระหว่างแม่กับ...” หญิงสาวพูดออกมาแค่นั้น ความรู้สึกจุกในอกก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอคิดว่าสักวันหนูน้อยที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ ต้องเดินจากไปกับใครคนนั้น คนที่เธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะทักท้วงความเป็นมารดาของลูกสาว เพราะแม่อย่างเธอทำได้แค่มอบความรักความเอาใจใส่ คอยอบรมเลี้ยงดูของขวัญให้เติบใหญ่ เป็นคนดีของสังคม มีภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิต ก่อนที่หนูน้อยจะออกไปเผชิญกับโลกกว้าง “คุณแม่ขา... ของขวัญไม่ให้พี่ริต้าไปด้วยก็ได้ แต่คุณแม้ต้องหยุดร้องก่อนนะคะ ของขวัญรักคุณแม่นะคะ” หนูน้อยเอามือเล็กปาดน้ำตาออกจากแก้มของมารดา พลางพูดจาเอาอกเอาใจ “แม่ก็รักลูกจ้า” ภาพของสองแม่ลูกกอดกันอยู่ในห้องครัว ทำให้ริต้าอดยิ้มออกมาไม่ได้ แม้ว่าเธอจะเศร้าใจที่ต้องจากไปไกล แต่เมื่อแฟนยื่นคำขาดจึงทำให้เธอต้องยอมจำนนตามเขาไปทำงานที่กรุงเทพฯ “พี่เก็บกระเป๋าให้คุณหนูของขวัญเรียบร้อยแล้วนะคะ” “ขอบคุณมากค่ะพี่ริต้า เราทานมื้อเช้าเสร็จค่อยออกจากบ้านนะคะ เดี๋ยวใบบัวจะขับรถไปส่งพี่ริต้าที่สนามบินก่อน แล้วค่อยเลยไปที่ไร่ของคุณเมืองราม” “ความจริงคุณหมอไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ พี่ไปเองได้ ตั๋วเครื่องบินก็ซื้อให้ บอกตามตรงพี่เกรงใจ” ริต้าพูดออกมาจากใจ ซึ่งเธอเองก็ใจหายไม่น้อย ที่ต้องเดินทางไปอยู่กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ ทั้งที่หญิงสาวไม่ชอบชีวิตของคนเมืองที่แสนจะวุ่นวาย “พี่ก็ไม่ต่างจากคนในครอบครัวของบัวนะคะ ห้าหกปีที่เราอยู่ด้วยกันมา บัวคิดว่าพี่ได้ทำอะไรให้บัวมากกว่าเงินเดือนที่บัวจ่ายให้พี่ด้วยซ้ำ” แพทย์หญิงใบบัวมักจะเรียกแทนตัวเองว่าบัวกับคนที่เธอสนิทด้วย แน่นอนว่าริต้าเป็นเหมือนญาติมิตรที่มีไมตรีกันมายาวนาน เพราะริต้าคือคนที่คอยดูแลของขวัญมาตั้งแต่หนูน้อยแบเบาะ จวบจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งของขวัญเข้าเรียนในชั้นอนุบาลแล้ว “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ ถ้าพี่ไปอยู่ที่โน่นคงคิดถึงคุณหนูของขวัญกับคุณหมอมากแน่ๆ เลยค่ะ” ริต้าเริ่มน้ำตาคลอ เมื่อคิดถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านมา สำหรับเธอแล้วคงหานายจ้างที่ไหนดีเท่าแพทย์หญิงใบบัวไม่ได้แล้ว “คิดถึงก็กลับมา บัวยินดีต้อนรับพี่เสมอนะคะ บัวคงไม่กล้าจ้างใครให้มาดูแลของขวัญ เพราะบัวเชื่อว่าคนที่รักของขวัญเหมือนลูกเหมือนหลานคงมีแต่พี่ริต้านี่ละค่ะ” “ไปอยู่ที่ไร่ของพ่อเลี้ยงเมืองราม คงดีกว่าที่นี่ ก็ดีเหมือนกันนะคะ คุณหนูของขวัญจะได้ไม่เหงา แล้วยังมีพื้นที่วิ่งเล่นอีกด้วย” ริต้าพยายามหาข้อดีของการย้ายไปจากที่นี่ เพื่อให้แพทย์หญิงใบบัวรู้สึกดี ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากไปก็ตามที แต่เมื่อมันคือการขอร้องของนายแพทย์ปราโมทย์ เธอจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทุกคนได้ขนของขึ้นรถ เพื่อแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีทางเดินเป็นของตัวเอง เวลาผ่านไปได้สักพักในใจของแพทย์หญิงใบบัวรู้สึกเป็นกังวล เพราะเธอไม่รู้ว่าเจ้าของไร่ เขาจะปฏิบัติกับเธอและลูกยังไง ทุกคนที่นั่นจะต้อนรับเธอไหม หญิงสาวเคยได้ยินมาว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามค่อนข้างเคร่งขรึม ไม่ชอบให้ใครล้ำเส้น โดยเฉพาะผู้หญิงเขาเกลียดสาวๆ เข้าไส้ ทั้งที่ทุกคนต่างปรารถนาอยากได้เขามาควงคู่ ผู้ชายแบบนี้ถ้าไม่ถูกผู้หญิงทิ้งมาก่อน ก็คงเป็นเกย์ละมั้ง นั่นคือสิ่งที่แวบเข้ามาในหัวของแพทย์หญิงใบบัว ขณะที่เธอขับรถตรงไปที่ไร่ของพ่อเลี้ยงเมืองราม หลังจากที่ไปส่งริต้าที่สนามบิน บางทีโชคชะตาอาจนำพาให้เธอเดินทางมาที่ไร่นี้ก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงที่ดูสมบูรณ์แบบอย่างเธอ จะยังคงโสดสนิท ในขณะที่ผู้ชายอย่างพ่อเลี้ยงเมืองรามเอง ก็ไม่คิดที่จะรักใคร ดูเหมือนว่าฟ้ากำลังเป็นใจให้พวกเขาสองคนได้โคจรมาพบกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม