Prologue แอบรักน้องสาว
คอนโดที่ตกแต่งอย่างเรียบหรู แต่ข้าวของภายในห้องกลับวางสะเปะสะปะไร้ระเบียบ อาหารกล่อง แก้วน้ำ และกองขยะมากมาย ฉายชัดในแววตาคมของเขา ร่างสูงโปร่งนอนเหยียดยาว มือก่ายหน้าผากคิดหนัก
‘เขากำลังทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้’
ฝืนหลับตาลงกี่หน ก็ได้ยินแต่เสียงใสที่ดังเล็ดลอดออกมาจากด้านในห้องนอน บรรยากาศของค่ำคืนอันเงียบสงบยิ่งทำให้เขาได้ยินเสียงแผ่วเบานั้นชัดขึ้นอีก
‘เสียงครางเรียกชื่อผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่เขา’
มือที่ก่ายปิดหน้าผากกำแน่นจนเส้นเลือดขึ้น ดวงตาสีดำสนิททอดมองเพดาน ทั้งหม่นหมองและเหม่อลอย ลึกลงไปในแววตาคู่นั้นมีแต่คำว่า เจ็บ!
เจ็บปวดกับการกระทำของคนสองคนที่อยู่หลังประตูบานนั้น บานที่เขาไม่มีวันเปิดมันเข้าไปได้
“อืม…อลัน” เสียงครางมีความสุขของเธอตอกลึกลงไปถึงขั้วกระดูก
“ฉะ ฉันเป็นของนาย เป็นของนายคนเดียว” เจ็บร้าวราวกับกำลังขาดอากาศหายใจ ไม่อาจบังคับหูสองข้างให้ปล่อยผ่าน
เสียงนั้นเป็นของผู้หญิงที่เขารัก
“อื้อ...อะ อลัน”
เสียงพร่ำที่ไม่ใช่ของเขา
ร่างกายไม่ใช่
หัวใจไม่ใช่
ทุกอย่างในตัวของเธอไม่เคยมีสักเสี้ยวหนึ่งเลยที่เป็นของของเขา การแอบรักมันเจ็บปวด!
แต่การแอบรักคนมีเจ้าของมันทรมานมากยิ่งกว่า! มองเห็น สัมผัสได้ แต่ไม่อาจครอบครองหัวใจได้เลย
“ฉิบ!”
มือหนาเลื่อนลงปิดตาสองข้างที่แดงก่ำของตัวเอง ปิดบังมันเอาไว้ ไม่อยากเสียน้ำตากับความหวังลมๆแล้งๆ กล้ำกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เขาพลิกตัวหันหน้าเข้าหาโซฟา ยกมือสองข้างปิดหูตัวเองไว้แน่นขึ้น
‘ไม่!’
พอแล้วตะวัน อย่าทำร้ายจิตใจของเขาไปมากกว่านี้เลย
อย่าครางชื่อมัน!!
Prologue
สาวน้อยวัย21 เปิดผ้าห่มที่ปิดมิดหัวออก เผยให้เห็นใบหน้ารูปไข่รับกับจมูกเรียวสวย บวกริมฝีปากเล็กสีแดงระเรื่อ รวมๆกันเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ที่ใครหลายๆคนเรียกว่า ‘ตะวัน’ นอกจากความงดงามไร้ที่ติแล้วยังมีรอยลิปสติกสีแดงสดเปื้อนเปรอะไปทั่วใบหน้า แต่ที่สะดุดตาสุดๆคงจะเป็นหน้าม้าเต่อ ชี้โด่เด่คนละทิศละทาง
การเมาบ้าง ดื่มบ้างในวัยนี้เป็นเสน่ห์อันน่าหลงใหลของวัยสาว ขนาดกระดกเหล้ามาทั้งคืนแต่ยังคงสวยสะพรั่งอยู่ตลอดเวลา
ใครเห็นเธอก็บอกเป็นเสียงเดียวกันทั้งนั้น
“ฮาว ปวดหัวชะมัด” ไม่ปวดแค่หัวสิ แต่ยังปวดเอวอีกด้วย เมื่อคืนนี้เธอเอาตัวไปฟาดอะไรมากันแน่
หลังจากนอนตาปรือควานหาสติอันริบรี่ ระลึกถึงอดีตชาติที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ตาก็เบิกโพลงขึ้นทันที
“เมื่อคืนฉันดื่มอยู่กับพวกเจ้ฟาง”
เธอหันขวับไปรอบๆก่อนจะหรี่ตามองวัตถุแปลกปลอมที่นอนหายใจโรยรินอยู่ข้างกาย มือข้างหนึ่งค่อยๆเอื้อมไปดึงผ้าห่มออก ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ เมื่อคืนเธอคงไม่ได้ลากใครหิ้วกลับบ้านมั่วซั่วอีกใช่ไหม
“อ้อ อลัน” ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ได้เผลอลากใครกลับห้องมาด้วย
“ใจหายหมด” แต่คนข้างๆเป็นแฟนของเธอเอง
“อืม ตะวันอย่ากวน”
หนุ่มหน้าหล่อดีกรีเดือนคณะนิเทศฯ พลิกตัวหันหน้าหนีไปอีกทาง
“โอเค” เธอห่มผ้าให้เขาเรียบร้อย แล้วลากสังขารที่ยังไม่มีสติเต็มที่เดินโซซัดโซเซลงจากเตียงนอน เดินเอื่อยเชื่อยออกมานอกห้อง ยังงัวเงียไม่หาย
เมื่อคืนเธอดื่มเยอะจนแทบหลับคอพับ แต่ดีที่แฟนหนุ่มหิ้วกลับคอนโดมาอย่างปลอดภัย แถมเซอร์วิสพิเศษยามค่ำคืนรอบหนึ่งพอกรุบกริบ
“อ้าว พี่ต้น มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” ในขณะที่กำลังจะเปิดตู้เย็นกินน้ำ หางตาก็เหลือบไปเห็นร่างเหยียดยาวของพี่ชายต่างแม่นอนคุดคู้อยู่ที่โซฟา
“อื้อ ไงเรา ตื่นแล้วเหรอ”
“ตื่นแล้วค่า”
“พี่ต้นมาตอนไหน ทำไมไม่เข้าไปนอนในห้องดีๆล่ะ” เธอตรงมาหาหนุ่มหล่อคมเข้ม พี่ชายต่างแม่วัย27 ที่นอนก่ายหน้าผากตาปิดสนิทไม่ลืมตามองเธอด้วยซ้ำ แถมยังถอนหายใจแรงแบบเหนื่อยสุดๆตามมาอีก
“เมื่อคืนพี่เลิกงานดึกน่ะ เลยแวะมานอนนี่กะว่าตอนเช้าจะรีบกลับไปลุยต่อ”
ต้นฝนบิดขี้เกียจ ลุกขึ้นมานั่งในสภาพที่ไม่แตกต่างจากเธอเท่าไหร่ ต่างคนต่างเมาค้าง คุยกันไปหาวแข่งกันไป “พี่เห็นว่ามันดึกมากแล้วน่ะ ก็เลยไม่อยากกวน”
“อ้อ ตะวันไม่รู้ตัวเลยว่าพี่ต้นกลับมา แหะๆ”
“แหงล่ะ ดูสภาพเราดิ ไปตกถังยาดองที่ไหนมา” ต้นฝนหรี่ตามองน้องสาวต่างแม่ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “แล้วนี่ไม่คิดจะล้างหน้าสักหน่อยเหรอ”
“แหะๆ พี่ต้นก็ ทำเป็นพูดไป เดี๋ยวใครได้ยินก็หาว่าตะวันซกมกหรอก”
“ก็มันจริง”
“แล้วดูพี่ต้นพูดเข้า ตะวันตกถังยาดองที่ไหนคะ เขาเรียกว่าบรั่นดีคะ บรั่นดี”
“หึ!”
“…” ตะวันยกขวดน้ำกระดกเข้าปากรวดเดียวหมดขวดแล้วโยนมันทิ้งขยะแบบขอไปที ลงถังหรือไม่ลงช่างหัวมัน
“ทำไมจู่ๆพี่ต้นถึงมาห้องน้อง อย่าบอกนะว่าเมาแล้วหาทางกลับบ้านไม่ถูก”
“พี่มาหาเราไม่ได้เหรอ”
“ก็ได้ แต่ว่า…”
“แล้วนี่เราไม่มีเรียน?” ต้นฝนชิ่งเปลี่ยนเรื่อง
“อ้อ! มีสิ ถ้าพี่ต้นไม่ทัก ตะวันคิดไม่ได้นะเนี่ย” ตะวันอ้าปากหาววอดๆ เมื่อคืนเธอนอนดึกมาก แถมยัง…
เมื่อคืน?
ก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้ว่าตอนนี้ ‘อลัน ยังอยู่ในห้อง’ ของเธอ
ตะวันหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างจับพิรุธ ต้นฝนจะรู้ไหมว่าตอนนี้อลันอยู่ในห้อง เธอชวนคุยไปด้วย พยายามจับท่าทีของเขาไปด้วย
“เมื่อคืนพี่ต้นกลับมากี่โมงคะ ทำไมตะวันไม่ได้ยินเสียงพี่ต้นเลย”
“ดึกมากอ่ะ เราคงหลับไปแล้ว”
“แต่ปกติเวลาพี่ต้นมา น้องจะรู้ตัวตลอด พี่ต้นแอบสะเดาะกลอนเข้ามาหวังทำมิดีมิร้ายน้องหรือเปล่า”
“เห้อ! ก็เราเมา พี่ก็เลยไม่ปลุกเราไง”
“อ้อ”
“เสียงแบบนั้นคืออะไร ไม่เชื่อพี่?” ต้นฝนเอื้อมไปหยิบเสื้อที่ถอดออกเมื่อคืนมาสวมลวกๆ ก่อนเดินเลี่ยงไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ สภาพตัวเองในตอนนี้เหมือนกับคนอดหลับอดนอนมาเป็นแรมปี
ในระหว่างที่พี่ชายต่างแม่หายลับเข้าห้องน้ำไป น้องสาวตัวแสบรีบแวบกลับเข้าห้องตัวเอง ปลุกหนุ่มขี้เซาเบาๆ กระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
“อลัน ตอนนี้พี่ต้นอยู่ข้างนอก นายอย่าเพิ่งออกไปนะ”
แฟนหนุ่มร่างกายเปลือยท่อนบนเนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยลิปสติก กำลังนอนหลับอย่างสบายใจ “ใครอยู่ข้างนอกนะ”