อารัมภบท***
"เดวินครับเข้าบ้านได้แล้วครับหม่ามี๊จะพาไปเจอพี่เลี้ยงคนใหม่" ฟีน่าเอ่ยเรียกลูกชายสุดที่รักอายุวัย 13 ปีที่กำลังวิ่งเล่นกับพี่เลี้ยงอย่างไบรอันต์อยู่ที่ลานสนามหญ้าหน้าบ้านโดยที่มีโมจิเจ้าแมวสีขาวขนปุยวิ่งเล่นไม่ห่าง เด็กน้อยหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขพร้อมรอยยิ้มที่น่าเอ็นดู
"ใครเหรอครับหม่ามี๊ ผมต้องมีพี่เลี้ยงอีกงั้นเหรอ" เด็กหนุ่มทำหน้าเบื่อหน่ายเมื่อรู้ว่าตัวเองต้องมีพี่เลี้ยงมาคอยดูความประพฤติทั้งที่ตัวเองนั้นโตแล้วจนเข้าเรียนมัธยมต้นแต่สุดท้ายก็ต้องมีพี่เลี้ยงอยู่ดี
"เข้าบ้านดีกว่าครับน้องก็รอทานข้าวเย็นด้วยเหมือนกัน" ฟีน่าเอ่ยยิ้มๆ แล้วเดินเข้ามาจับมือลูกชายตรงเข้าไปในบ้านด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
"ใครครับ?" ทว่าเมื่อเข้ามาในบ้านเด็กหนุ่มก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เหมือนผู้ใหญ่สักเท่าไหร่?
"อันดานี่เดวินลูกชายฉันเอง ต่อไปเธอก็ดูแลคอยตักเตือนเดวินแทนฉันเวลาที่ฉันไม่ว่างด้วยหล่ะ" นายหญิงของตระกูลเอ่ยออกคำสั่งและฝากฝั่งให้เด็กสาวที่อายุเพียงแค่ 19 ปี มาดูแลลูกชายในตอนที่เธอนั้นติดงาน
อันดาเด็กสาวที่เขามาเรียนในเมือง เธอไร้พ่อแม่ให้พึ่งพิงและไร้ญาติ นอกจากยายจ๋าคนที่เป็นทั้งหมดในชีวิตเธอพาเข้ามาเรียนต่อมหาลัยปีหนึ่งในเมืองแต่ทว่าเธอยังเด็กยังไม่มีทางไปอะไรมากนักลำพังจะหาเงินหางานก็ยากมากแล้วเธอจึงต้องรับข้อเสนอของคุณหญิงของตระกูลอย่างฟีน่ารับปากว่าจะเป็นพี่เลี้ยงลูกชายท่านเพื่อแลกกับที่อยู่และค่าเทอม
"สวัสดีค่ะ เอ่อ ดิฉันจะมาเป็นพี่เลี้ยงของนายน้อยค่ะ" อันดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ประหม่าเพราะคิดไว้แล้วว่านายน้อยคนนี้อาจจะไม่ชอบและไม่พอใจที่เธอนั้นเข้ามาเป็นพี่เลี้ยง แววตานั้นของเขามันเรียบเฉยแม้ว่าจะเป็นเด็กอยู่ก็ตาม
"ไม่ต้องมากความหรอกครับ เรียกผมว่าเดวินส่วนพี่อันดาก็เรียกผมแบบนี้เลยก็ได้แทนชื่อตัวเองก็ได้นะครับ น่ารักดี" เขาเอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับสายตาของมารดาและอาไบรอันต์ที่และทุกคนที่อยู่ที่นี่มองมาด้วยความตกใจ
"..."
"เอ่อ เดวินครับ เดวินหมายความว่ายังไงปกติเดวินไม่.." ฟีน่าที่แปลกใจเพราะลูกชายตัวเองที่เข้ากับคนอื่นได้ยากจะทำตัวสนิทสนมราวกับรู้จักกันมานานกับพี่เลี้ยงคนใหม่จนเธอตกใจ
ลูกไม้ช่างหล่นไม่ไกลต้นเลยจริงๆ
อันดาที่ทำตัวไม่ถูกเพราะจู่ๆ นายน้อยที่เขาบอกว่าเย็นชาและเข้ากับคนอื่นได้ยากจะมาพูดทำตัวสนิทสนมกันเธอและยังพูดอะไรแบบนี้ เหมือนคนเจ้าชู้ไม่มีผิด!
"พี่อันดาจะมาอยู่ที่นี่กี่วันครับ หรือจะมาเป็นพี่เลี้ยงผมชั่วคราว" เด็กหนุ่มเอ่ยถามแล้วค่อยๆ ขยับเข้ามาหาพี่เลี้ยงตัวเองเพราะมารดานั้นบอกให้ทำความรู้จักกันเอาไว้เพราะถึงยังไงอนาคตก็ต้องเรียนที่เดียวกันอยู่ดี
"เอ่อ นายน้อยคะ พี่ว่าเราขยับออกจากกันก่อนดีกว่าค่ะเดี๋ยวมันจะดูไม่ดี" เธอเอ่ยด้วยความประหม่าเพราะยังทำตัวไม่ถูกในใจพิจารณาเด็กหนุ่มคนนี้โตขึ้นต้องเป็นเสื้อผู้หญิงแน่ๆ แค่อยู่ม.ต้นยังรุกเธอหนักขนาดนี้ แล้วแบบนี้เธอจะอยู่ถึงเรียนจบรึเปล่าเนี่ย
"ไม่เป็นไรครับผมอยู่ใกล้พี่แล้วอบอุ่นดี อีกอย่างบรรยากาศตอนนี้ก็เริ่มหนาวมากแล้ว" เดวินพูดหน้าตาเฉยแล้วขยับเข้าไปใกล้ๆ อีกครั้งเพราะกลิ่นกายเธอนั้นหอมทำให้เขาอยากอยู่ใกล้ๆ เธอตลอดเวลา
"งั้นตอนนี้ก็ค่ำแล้วเราเข้าบ้านกันดีกว่าค่ะบรรยากาศก็เริ่มหนาวแล้ว" เธอพยายามหาทางหลีกเลี่ยงเด็กคนนี้เพราะเหมือนจะเริ่มคุกคามเธอมากขึ้นแล้วแต่เธอก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะในใจนั้นมีแค่คำว่าเรียนให้จบ!
ตั้งแต่วันนั้นเธอเองก็ต้องเป็นพี่เลี้ยงตามติดเวลาที่ต่างคนต่างว่างเพราะเธอและเขาต้องไปเรียนในวันปกติและเลิกเรียนก็ต้องทำหน้าที่พี่เลี้ยงส่วนวันหยุดก็ต้องทำหน้าที่แทบทั้งวัน
"งั้นเราขอคิดดูก่อนนะ แต่เราคิดว่าคืนนี้เราไม่ว่างแล้วแหละ" หญิงสาวเอ่ยตอบเพื่อนสนิทเมื่อวันพรุ่งนี้ต้องไปร่วมงานวันเกิดส่วนที่คุยกันวันนี้คือนัดกันไปจัดสถานที่
[แกเป็นพี่เลี้ยงนะเว้ย แกต้องมีเวลาของแกมั่งดิจะให้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเลยรึไงตัวโตเท่าควายแต่แกต้องดูแลทุกอย่างเลยงั้นเหรอ?] ปลายสายโอดครวญและพูดใส่อารมณ์เล็กน้อย
"มันก็จริงอย่างที่แกพูดนั่นแหละแต่จะให้ทำไงได้อ่ะ ฉันต้องเรียนให้จบและรับออกไปหางานทำอยู่คนเดียว"
[ยืมมั้ยเงิน ฉันให้แกยืมจนแกเรียบจบเลยอ่ะ!]
"เฮ้อ ฉันอยากใช้ความสามารถของตัวเองไง ทุนการศึกษาฉันก็พลาดไปแล้วจะให้ทำไงค๊า" แม้จะคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นพี่เลี้ยงแต่เหมือนว่าเป็นลูกที่ถูกบังคับให้อยู่ในโอวาทตลอดเวลา
"พี่อันดาคุยกับใครครับ!?" ทว่าเดวินนั้นได้ยินเหมือนมีคนคุยกันตรงระเบียงห้องนอนตัวเองจึงเข้ามาดูและก็แอบฟังอยู่พอจับใจความได้
"แค่นี้ก่อนนะแก"
[เออๆ ไปเถอะเดี๋ยวพ่อแกจะกินหัวฉัน!]
"มะมีอะไรคะ? พี่เตรียมน้ำอุ่นๆ ให้แล้วนะคะทำไมนายน้อยยังอยู่ตรงนี้หล่ะคะ?" เธอเอ่ยถามก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มยังไม่ได้ถอดชุดนักเรียนออกเลยด้วยซ้ำ
"ผมถามว่าพี่คุยกับใครครับ?! อีกอย่างพี่ลืมแล้วเหรอว่าให้พูดกับผมว่ายังไง?" เด็กหนุ่มเลิกคิ้วถามเธอด้วยใบหน้าราบเรียบพร้อมจะเอาเรื่องเธอตลอดเวลา
"พี่ไม่จำเป็นต้องบอกนายน้อยเลยนิคะ? พี่เองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการเหมือนกันอีกอย่างเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องถามเรื่องส่วนตัวกันนิคะ" เธอพยายามตอบอย่างใจเย็นทว่ายิ่งพูดแบบนั้นเด็กหนุ่มตรงหน้ายิ่งไม่พอใจและแสดงมันออกมาทางสีหน้า
"พี่กล้าพูดกับผมแบบนี้เหรอ หรือที่พี่กล้าแบบนี้เพราะพี่อยากไปหาไอ้นั่น!?"