ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องน้ำจากด้านนอกที่เสียงดังจนมีอำนาจทำให้คนข้างในสะดุ้งนั้นดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกอย่างเป็นห่วงจากอาหมิง
“โยโกะ เป็นยังไงบ้าง ทำไมอาบนานจัง”
“บ้าชิบ” ไมเคิลสบถ “นี่เขาเป็นเพื่อนหรือคู่ทอมดี้ของเธอกันแน่ ทำไมถึงได้จุ้นจ้านขนาดนี้”
“เขาเป็นเพื่อนฉันค่ะ ฉันจะออกไปแล้วนะคะ” พราวตะวันดันเขาออกให้พ้นทางก่อนจะเปิดประตูออกไปหาหมิง ลี่เฟย
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกจ้ะ” พราวตะวันบอกก่อนจะดึงแขนหมิงลี่เฟยเดินมาด้วยกัน แล้วเธอก็หัวเราะคิกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไมเคิลบอกว่าเธอกับอาหมิงเป็นคู่รักเลสเบี้ยนกัน เพื่อนกันจะห่วงใยกันไม่ได้เลยหรืออย่างไร แล้วถ้าเขามีเพื่อนที่สนิทกันมากแล้วเป็นห่วงกันอย่างนี้เขาก็คงเป็นเกย์ไปแล้ว
หญิงสาวแต่งตัวพร้อมกับคุยกับอาหมิงไปด้วยจนไม่รู้ว่าเวลามันผ่านเลยไปนานอยู่เหมือนกัน แล้วเธอก็เดินเข้าไปสอดตัวในผ้าห่มอุ่นๆ บนเตียงนิ่มๆ
“อาหมิง เธอกลับเลยก็ได้ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก”
“แน่เหรอ” อาหมิงถามทั้งที่ยังหาวนอนหวอดๆ
“แน่สิ ขอบใจมากที่เป็นห่วงนะ”
“งั้นถ้าเป็นอะไรโทรหาฉันได้ตลอดไม่ต้องเกรงใจเลยนะรู้มั้ย”
“จ้า” พราวตะวันตอบแล้วก็ยิ้มออกมา ถึงอยู่ไกลบ้านแต่ที่เธออยู่ได้เพราะมีเพื่อนดีๆ อย่างอาหมิงนี่แหล่ะ
อาหมิงเดินออกจากห้องไปพร้อมกับล็อคประตูเรียบร้อย พราวตะวันผุดลุกขึ้นนั่งแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอเช็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นเต็มหน้าผากออก ก่อนจะไปเปิดประตูห้องน้ำ
ไมเคิลยืนหน้าตึงกอดอกพิงผนังห้องน้ำอยู่ เสื้อเชิร์ตของเขาถูกปลดกระดุมลงมาถึงกลางอกแขนเสื้อพับขึ้นมาจนถึงศอกโชว์ลำแข็นแข็งแรง ดูท่าเขาคงไม่สบอารมณ์นัก คิดแค่นั้นเธอก็แทบเอาผ้ามาเช็ดเหงื่อที่หน้าผากเขาให้ เพราะเขาเป็นผู้มีพระคุณกับเธอมาก แต่เธอกลับทำให้เขาต้องมาลำบากอยู่ในห้องน้ำที่แคบและร้อนอีกต่างหาก ถ้าเขาเกิดไม่พอใจขึ้นมาแล้วเอาเงินคืนหมด เธอคงแย่เพราะไม่มีจะให้เขา
“ฉันนึกว่าเพื่อนเธอจะนอนห้องนี้ซะอีก” เขาบอกก่อนจะเดินแทรกเธอออกมา ร่างสูงเดินไปอยู่บริเวณที่แอร์ตก ก่อนจะเงยหน้ารับลม เขายังสั่งให้เธอเร่งแอร์ให้มากขึ้นให้เขาคลายร้อนอีกต่างหาก
พ่อคนนี้ ขี้ร้อน แถมยังใจร้อนไม่มีใครเกิน
“เธออยู่ได้ยังไงเนี่ย ห้องก็แคบ แอร์ก็ไม่เย็น”
“ที่นี่ถูกค่ะ เป็นโรงแรมของญาติอาหมิง คนส่วนใหญ่ก็เช่าเป็นรายวัน แต่ฉันได้เช่ารายเดือนในราคาถูก เพราะในเวลาว่างฉันไปช่วยรับลูกค้าบ้างช่วยรับจองโรงแรมจากคนไทยให้เจ้าของโรงแรมบ้าง และที่นี่ก็ไปทำงานสะดวกด้วยค่ะ”
เขาไม่ได้ใส่ใจฟังที่เธออธิยายเท่าไหร่ เพราะที่เขาถามนั้นเหมือนถามบ่นๆ ไปมากกว่า พอเขาตากแอร์หายร้อนแล้วก็อารมณ์ดีพอที่จะหันมายุ่มย่ามกับเธอต่อ พราวตะวันก็ตื่นจากการยืนมองเขาอย่างสำรวจเพราะเขาหันขวับกลับมามองเธอด้วยสายตาแบบเดิม
สายตาที่เธอหายใจไม่ทั่วท้องและไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย
“มานี่มา” เขากวักมือเรียกเธอไปหาทั้งๆ ที่ยืนอยู่ไม่ห่างกัน เธอสวมชุดนอนสีม่วงอ่อนรัดกุมเป็นอย่างดี แต่เขากลับรู้สึกว่ามันเซ็กซี่เร้าใจอย่างไม่มีเหตุผล และที่สำคัญอารมณ์ที่ค้างไว้ก่อนหน้านี้ก็ประทุขึ้นมาอีกจนเขาต้องครางออกมาเบาๆ กับความต้องการอย่างมหาศาลของตนเอง
นี่ขนาดเธอไม่ได้ยั่วอะไรเขาเลยนะเนี่ย ท่าทีตื่นๆ ไร้เดียงสาของเธอทำให้เขาร้อนรุ่มอยากจะกอดเธอแน่นๆ แล้วสัมผัสเธอทุกสัดส่วนไม่ละเว้น กลิ่นร่างหอมนุ่มของเธอยังติดจมูกอยู่ไม่หาย เขาไม่รอให้เธอเดินเข้าหาตามคำสั่ง เพราะเขาเป็นฝ่ายลากเธอลอยคว้างเข้ามาหาอ้อมกอดของเขาเอง
เขาฉกใบหน้าลงไปดอมดมความหอมหวานจากแก้มของเธอ เปะป่ายริมฝีปากไปทั่วใบหน้างามที่เบี่ยงหนีเขาเพราะตั้งรับการรุกรานนี้ไม่ทัน มือเล็กของเธอดันอกเขาไว้น้อยๆ แต่ไม่กล้าขัดขืนเพราะรู้ว่าเป็นหน้าที่ของตนเองที่ต้องตอบแทนคืนให้เขา แต่ถึงแม้จะรู้เธอก็ทำใจยอมรับไม่ได้เอาเสียเลย
ไมเคิลอุ้มเธอมาที่เตียงนอนของเธอแล้วเขาล้มทาบทับเธอลงไป เตียงเล็กแสนแคบที่เธอนอนก็แทบไม่จะขาเลยเตียงอยู่แล้วบัดนี้มีเขามาเบียดเสียดอยู่ทำให้ดูแคบลงถนัดตา ที่สำคัญขายาวๆ ของเขายังเลยเตียงอีกต่างหาก
“บ้าจริง นี่ไม่มีเตียงที่ใหญ่กว่านี้หรือไง เกิดทำอะไรไปแล้วตกเตียงจะเป็นยังไงวะเนี่ย” เขาโมโหขึ้นมาอีกครั้ง เป็นครั้งแรกเลยที่เขาต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่ไม่พร้อมอย่างนี้ มันน่าหงุดหงิดจนเขาทำอะไรเธอไม่ลง เขาใจร้อนจนอยากจะดึงเธอลงไปที่พื้นด้านล่างเลยด้วยซ้ำ เพราะเธอทำให้เขาตบะจะแตก แต่ไมเคิลไม่ใช่คนมักง่ายขนาดนั้น
แต่ไมเคิลก็ไม่ได้หยุด เตียงเล็กเขาก็ยังทนได้เพราะมันมีไว้ใช้ทำกิจกรรมอย่างอื่นที่ไม่ได้นอนหลับ จึงพอทน เขาเล้าโลมร่างงามถูกใจต่อ และมันคงจะยืดยาวกว่านั้น ถ้าไม่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินมาเป็นกลุ่มอยู่หน้าห้องพวกเขาคุยกันเสียงโขมงโฉงเฉง เสียงหัวเราะ และกรี๊ดกราดจนแสบแก้วหูสอดแทรกเข้ามาเพราะห้องไม่ค่อยเก็บเสียง แถมยังเดินลงส้นกันจนพื้นจะสะเทือน เท่านั้นยังไม่พอเพราะมีเสียงประตูห้องก็เหมือนถูกกระแทก ดังโครม โครม เสียงกรี๊ด หัวเราะ แล้วประตูก็ถูกกระแทกดังโครมอีก ไม่รู้ว่าข้างนอกทำอะไรกัน อาจจะเล่นสนุกผลัดกันมาจนชนประตู มันสร้างความรำคาญให้คนที่มีอารมณ์วาบหวามเป็นที่สุด
หมดอารมณ์แล้วโว้ย ไมเคิลสบถในใจ
“ไปที่คอนโดฉัน” เขาลุกขึ้นยืนแล้วดึงแขนเธอให้ลุกตาม พราวตะวันมองหน้าเขางงๆ
“คอนโดคุณหรือคะ”
เขาแทบจะอุ้มเธอให้ยืน ท่าทางโมโหของเขานั้นทำให้เธอแทบลุกขึ้นไม่ไหว เขาเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าของเธอ แล้วค้นๆ หาเสื้อคลุมมาให้เธอ
“ไปเร็วๆ ฉันต้องการเธอจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว แต่ฉันทำอะไรที่นี่ไม่ได้แน่ สถานที่ไม่ทำให้สบอารมณ์ ไปที่ที่บรรยากาศดีไร้สิ่งรบกวนดีกว่า”
เธอกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ลงกับคำพูดของเขา