สามแก๊ง
บรรยากาศในห้องประชุมใหญ่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและกดดันเนื่องจากวันนี้มีการประชุมระหว่างสามแก๊งนั่นคือเพลิงทมิฬ ธาราสมุทรและวิหคในหัวข้อของเรื่องเหตุการณ์ไม่ปกติหลายอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงนี้โดยมีประธานในการประชุมครั้งนี้เป็นยักษ์ พี่ชายของโยเย
ยักษ์เป็นหัวหน้าแก๊งเพลิงทมิฬ เขาคุมทุกอย่างแทนพ่อและแม่ที่เสียไปเมื่อหลายปีก่อน หลังจากพ่อแม่เสีย ยักษ์เหลือน้องสาวนั่นคือโยเยเพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่าตอนนั้นเขาจะอายุเพียงสิบห้าปีแต่เขาก็สามารถดูแลและควบคุมทุกอย่างได้เป็นอย่างดีจนถึงปัจจุบัน
ธุรกิจที่ยักษ์ทำนั้นมีหลายอย่างซึ่งทุกอย่างล้วนถูกต้องตามกฎหมายทั้งนั้นแต่เพราะเป็นเรื่องของเงินทองและผลประโยชน์ รวมถึงอำนาจบารมีจึงทำให้ยักษ์มีศัตรูรอบด้าน ช่วงหลังมานี้เหมือนจะมีคนพยายามทำลายเขาโดยมุ่งเป้าหมายมาที่น้องสาวที่รักเพียงคนเดียวของเขา
"ตกลงจะไม่มีใครตอบผมได้เลยเหรอว่ามันเป็นฝีมือใคร"
ไนต์หัวเราะออกมาเล็กน้อยพร้อมทั้งยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ไนต์เจ้าของใบหน้าหล่อร้ายเป็นหัวหน้าแก๊งธาราสมุทร ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเดินเรือและการขนส่งทางทะเล
เขาเป็นพวกประเภทใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่างแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมมากนัก
"น้องสาวคุณยักษ์นะครับ ถ้าคุณยักษ์ไม่รู้แล้วใครจะรู้"
ไนต์พูดด้วยสีหน้ากวน ๆ ยักษ์ปรายตามองไนต์ด้วยแววตาดุดันคล้ายบอกเป็นนัยว่าให้เงียบ ไนต์เลยไหวไหล่เล็กน้อยพร้อมทั้งกระดกเหล้าเข้าปาก
เขาไม่ได้กลัวยักษ์หรอก ก็แค่เกรงใจเท่านั้นเอง
"คุณยักษ์อย่าเพิ่งกังวลไปเลย อย่าทำให้พวกมันได้ใจ ยังไงเสียเราก็จับพวกมันได้อยู่แล้ว"
เสี่ยนที หัวหน้าแก๊งวิหค ธุรกิจของเสี่ยนทีเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าทางบกทั่วโลก เสี่ยนทีเป็นคนอารมณ์ดีและค่อนข้างใจเย็นด้วยความที่เขาอายุเยอะที่สุด
มีประสบการณ์มายาวนานกว่าคนอื่น ๆ เขาจึงคอยแอบช่วยทุกคนอยู่เบื้องหลังเงียบ ๆ ไม่ได้เป็นคนคอยออกหน้าเหมือนยักษ์ หรือเป็นคนพร้อมบวกเหมือนไนต์
"ใช่ หรือคุณยักษ์จะให้ผมถล่มแม่งให้หมดเลยไหม ไอ้พวกที่มีปัญหาอะ"
"อย่าห้าวครับไนต์"
ยักษ์พูดด้วยน้ำเสียงสุภาพตามแบบฉบับของเขา ถึงแม้ว่ายักษ์จะอยู่ในวงการมาเฟียมานานแต่เขาก็อยู่ในวงการธุรกิจด้วยเช่นกัน
ฉะนั้นทุกอย่างเลยหล่อหลอมให้เขาเป็นคนนิ่ง เจ้าระเบียบ และสุภาพบุรุษแบบนี้
"เฮอะ น่าเบื่อ"
ไนต์บ่นออกมาเบา ๆ วางปืนคู่ใจลงบนโต๊ะ แล้วนั่งกลับลงไปที่เดิมโดยมีสายตาของยักษ์มองดุในการกระทำของเขาอยู่แต่เขาหาได้สนใจไม่
"เอาเป็นว่าถ้าทุกคนมีข้อมูลอะไรช่วงนี้ รบกวนแจ้งผมด้วยนะครับ"
ทั้งสามแก๊งประชุมกันต่อเรื่องธุรกิจ ถึงแม้แต่ละคนจะทำธุรกิจแตกต่างกันแต่พวกเขาก็ต้องช่วยเหลือและเกื้อกูลกันซึ่งเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่รุ่นที่เพิ่งเริ่มสร้างแก๊งใหม่ ๆ แล้ว
ความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของพวกเขานี่แหละที่ทำให้ใครไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงหรือทำลายพวกเขาได้
หลังจากประชุมเรื่องธุรกิจกันเรียบร้อย ต่างคนจึงต่างแยกย้ายคงมีแต่ไนต์และลูกน้องอีกห้า หกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาร้านก๋วยเตี๋ยวเด็ดแถวนี้
"เจอแล้วครับลูกพี่ ตอนนี้มีร้านหนึ่งที่เปิดอยู่ไม่ไกลมาก ชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวเด่นชัยครับ"
"ไหน ๆ ดูหน่อย"
ไนต์รับโทรศัพท์จากลูกน้องมาดูรีวิว เขากดเข้าไปกดดูภาพก๋วยเตี๋ยวชามโตด้านใน ด้วยความที่มัวแต่สนใจก๋วยเตี๋ยวจึงไม่ทันรู้ตัวว่ามีคนมายืนซ้อนหลังตัวเองอยู่
"น่ากินดีนะ"
น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นทางด้านหลัง ยักษ์สูงกว่าไนต์ไม่มากนักเพราะไนต์เองก็สูงเกือบร้อยแปดสิบห้าแล้วแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังถือว่าตัวเล็กกว่ายักษ์อยู่ดีเมื่อยืนเทียบกัน
"โอ๊ย ไอ้ห่าคุณยักษ์ ตกใจหมด"
"ขวัญอ่อนรึไง"
"เออสิวะ ใครสั่งใครสอนให้มึงโผล่เป็นผีแบบนี้ล่ะ"
"ระวังปากหน่อยนะครับไนต์"
ไนต์กัดริมฝีปากตัวเอง พร้อมทั้งถลึงตาใส่ยักษ์ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้ไปเตรียมรถ
"เตรียมรถเลย กูจะไปแดกก๋วยเตี๋ยวเด่นชัย"
"ไม่ต้อง"
คิ้วสวยเลิกขึ้น หันมองยักษ์ด้วยความไม่เข้าใจ ยักษ์เลยเอากุญแจรถใส่มือไนต์และสรุปเองเสร็จสรรพ
"ไปด้วยกัน ไนต์ขับนะ"
สรุปไนต์ก็ต้องมากินก๋วยเตี๋ยวกับยักษ์โดยที่เขาเป็นคนขับ ตอนแรกเขาหงุดหงิดเล็กน้อยแต่พอก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยเข้าปาก ไนต์จึงคลายความหงุดหงิดลงทันที ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นร้านเฮียเด่นชัยอร่อยมากจนตอนนี้ไนต์กำลังจะสั่งชามที่สามแล้ว
"เรื่องโยเย มึงเครียดรึเปล่า"
ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยวไม่มีอะไรทำ ไนต์เลยเปิดประเด็นคุยกับยักษ์
"อืม"
"ถ้าอย่างนั้นเอางี้ไหม มึงก็ส่งบอดีการ์ดกับน้องมึงไปฝึกวิชาป้องกันตัวเพิ่ม เช่น มวย อะไรแบบนี้"
"ไนต์หมายถึงจะให้โยเยไปฝึกมวย ?"
"เออสิวะ กูมีที่หนึ่งแนะนำ"
"ที่ไหน"
"ค่ายมวย เสือไร้พ่าย"
ค่ายมวยเสือไร้พ่ายเป็นค่ายมวยที่ใหญ่และดังที่สุดในเวลานี้ เป็นแหล่งรวบรวมนักมวยชื่อดังหลายคน แถมยังมีคอร์สเปิดสอนต่อยมวยด้วย
มีการสอนครบรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นต้องการต่อยแบบจริงจัง ออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งต้องการเรียนเพื่อใช้ต่อสู้ ป้องกันตัว
ค่ายมวยแห่งนี้เปิดมานานแล้วโดยผู้ก่อตั้งเป็นปู่ของจาร์กัว พ่อของ จาร์กัวไม่ชอบทางด้านนี้ เขาเลยหันไปทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมและท่องเที่ยวแทน
แต่โชคดีที่จาร์กัวชื่นชอบการชกมวยตั้งแต่เด็ก เขาจึงตัดสินใจรับช่วงต่อจากปู่หลังจากที่ปู่เสียไป
“เฮียครับ มีคนมาติดต่อให้ทางเราสอนบอดีการ์ดครับ”
“อือ มีทั้งหมดกี่คน”
จาร์กัวตอบรับลูกน้อง สายตาก็คอยมองนักมวยที่กำลังซ้อมมวยไปด้วย
“สี่คนครับ มีบอดีการ์ดสามคน และคุณหนูหนึ่งคนครับ”
“คุณหนู ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้น ละสายตาจากสิ่งตรงหน้าหันไปมองลูกน้อง
“ครับ แต่ตอนนี้ไม่มีอาจารย์ผู้หญิงว่างเลย ผมเลยว่าจะลงคิวทั้งสี่คนให้เรียนกับพุฒครับ”
“รู้ชื่อยัยคุณหนูนั่นไหม ?”
“เอ่อ เหมือนจะชื่อ โยษิตา ชื่อเล่นชื่อโยเยนะครับ”
ริมฝีปากสวยกระตุกยิ้มมุมปาก ช่วงนี้เขารู้สึกหงุดหงิดมาหลายวัน ไม่รู้ทำไมตอนนี้กลับรู้สึกอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก
“จัดให้ไอ้พุฒสอนบอดีการ์ด ส่วนคุณหนูนั่น กูสอนเอง”
“เฮียจะสอนเองเหรอครับ”
ลูกน้องจาร์กัวถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้งเพราะปกติแล้วจาร์กัวไม่เคยรับสอนอะไรแบบนี้เอง เขาจะสอนนักมวยเพื่อแข่งเท่านั้น
“กูพูดไม่เคลียร์ ?”
“เคลียร์ครับ ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยครับ”