“ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้เราได้กลับมาเป็นพี่น้องกันอีกนะคะ” ร่างบางระหงของมัฑนากำลังยืนล่ำลาชานนท์คนที่เธอนับถือเป็นพี่สายที่แสนดีเป็นครั้งสุดท้าย น้ำตาไหลนองแก้มอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ เธอได้กลับมาพบกับเขาเพียงแค่เวลาสั้นๆเขาก็ต้องมากจากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีกเลย
“หลับให้สบายนะคะ” หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตาแล้วจึงแยกตัวออกมานั่งรวมกันกับคนอื่นๆ
บรรยากาศวันเผาศพของชานนท์เป็นไปด้วยความเศร้าสลด บรรดาเพื่อนสนิทยังคงมาร่วมงานอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่วันแรกจนถึงวันเผา
ร่างสูงในชุดสูทสีดำเข้มปรากฏกายขึ้นในงานอีกครั้งและยังคงดึงดูดทุกสายตาไปยังเขาได้อย่างง่ายดายเหมือนเดิม รวมถึงมัฑนาด้วย เจ้าของใบหน้าคมเข้มเดินขึ้นไปยังเมรุเผาศพดอกไม้จันทน์ถูกวางไว้ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรสักอย่างกับรูปของชานนท์ที่ถูกจัดไว้ใกล้ๆกัน
เสร็จจากพิธี ภัทรรินก็เดินทางกลับทันที ไม่มีที่ท่าว่าจะพูดคุยหรือทักทายมัฑนาแม้แต่ครั้งเดียวทั้งที่เขาเข้ามาแสดงความเสียใจกับแม่ของชานนท์ซึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆกับเธอ สายตาเขายังไม่เหลียวมองเธอเลยสักครั้ง หญิงสาวสังเกตเห็นเขากดรับโทรศัพท์ก่อนจะหันไปส่งสัญญาณบางอย่างกับลูกน้องแล้วจึงขอตัวลากลับทันที โดยมีมัฑนามองตามไปอย่างแปลกใจ ที่ผู้เป็นเจ้านายของเธอมีท่าทีแปลกไปจากเดิม
หญิงสาวกลับถึงบ้านในตอนบ่ายหลังจากที่อยู่ช่วยงานศพจนเสร็จด้วยความอ่อนเพลีย ซึ่งในวันรุ่งขึ้นเธอจะต้องไปทำงานตามปกติอีกครั้ง
ภายในบ้านเงียบสงัดไร้ซึ่งเงาของสจีผู้เป็นป้าและพี่สาวที่ไม่ได้กลับมาบ้านเลยเกือบอาทิตย์ หญิงสาวเดินมองหาสจีไปทั่วบ้านก็ไม่พบ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่าคงไปเข้าบ่อนอีกตามเคย
“ขนาดติดหนี้อยู่สองล้านก็ยังกล้าจะไปอีก ป้านะป้า” หญิงสาวคิดก่อนจะเดินเข้าห้องอาบน้ำชำระร่างกายคิดว่าไม่มีสจีก็ดีแล้วเธอจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่โดยไม่มีเสียงรบกวนจากผู้เป็นป้า เพราะทุกครั้งที่กลับจากบ่อนหลังจากที่ดวงตกในตอนดึกสจีก็มักจะบ่นเสียงดังลั่นบ้าน ซึ่งในพักหลังๆนี้โชคจะไม่ค่อยเข้าข้างสักเท่าไหร่จนทำให้เจ้าหนี้ต้องตามมาราวีถึงบ้าน
“เหนื่อยจังเลย” หญิงสาวเอ่ยในขณะที่ทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงหนานุ่มเก่าๆของเธอ ความคิดมากมายแล่นเข้าหัว ผู้เป็นพ่อก็เพิ่งจะโทรมาบอกว่าน้องชายป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาลอีก เธอจึงต้องส่งค่ารักษาพยาบาลไปให้ ไหนจะหนี้อีกสองล้านที่ตนต้องแบกรับภาระไว้และต้องหามาให้ได้ในอีกสองวัน โลกช่างใจร้ายกับเธอเหลือเกิน
มัฑนาสะลัดความคิดทุกอย่างทิ้งก่อนจะเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกายทันที ใช่ว่าเธอเองก็ท้อ แต่เธอจะมัวแต่มานั่งคิดมาดแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย
ผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ร่างบางระหงก็ออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนจิ๋วที่ปกปิดต้นขากับอกอวบอิ่มอยู่เพียงเล็กน้อยก็ต้องตกใจกับผู้บุกรุกที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนที่นอนหนานุ่มของเธอ
“คุณภัทรริน คุณมาได้ยังไง”สรรพนามที่ใช้เรียกเจ้านายถูกเปลี่ยนไปทันทีด้วยความตกใจ
มัฑนาถอยหลังกรูดชิดกับประตูห้องน้ำพร้อมกับใช้มือปิดหน้าอกส่วนที่ผ้าขนหนูไม่สามารถปกปิดไว้อย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัว คิดไม่ถึงว่าคนที่ทำไม่สนใจเธอในงานศพตอนเช้าจะเข้ามาหาเธอในเวลานี้
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ หอมจัง” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นนั่งอย่างสบายอารมณ์ไม่สะทกสะท้านว่าตนกำลังบุกรุกบ้านคนอื่นในยามวิกาล
“ฉันถามว่าคุณเข้ามาได้ยังไง นี่มันห้องของฉันนะ”หญิงสาวขนลุกซู่กับคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า เขาช่างดูต่างจากภัทรริน ชายหนุ่มที่เธอเจอเมื่อวันก่อนราวฟ้ากับเหว
“เธอแน่ใจเหรอ ว่าห้องของเธอ”สรรพนามที่ชายหนุ่มเรียกเธอก็เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน
“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่เข้าใจ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ” หญิงสาวตวาดเสียงสั่นเมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้ากำลังย่างสามขุมเข้ามาหาเธออย่างหน้ากลัว
ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมมาจนเห็นเนื้อแน่นตรงอกและไรขนอ่อนๆนั่น กำลังโน้มตัวลงมาหาคนตัวเล็กที่ยืนสั่นระริกอย่างช้าๆ ฝ่ามือค้ำยันไว้กับประตูห้องน้ำเพื่อกั้นไม่ให้คนที่ยืนอยู่ตรงกลางหาทางหนีได้ หญิงสาวสังเกตเห็นแขนทั้งสองข้างที่ชายหนุ่มถลกแขนเสื้อขึ้นจนเห็นเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาอย่างชัดเจนบอกให้รู้ว่ากล้ามเนื้อนั้นแข็งแรงมากเพียงใด
กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆลอยมาจากตัวเขา ยิ่งส่งผลให้มัฑนาแทบลมจับล้มลงไปกองกับพื้นขึ้นมาทันที
“ก็ของฉันหมดนั่นแหละ รวมทั้งตัวเธอด้วย…มัฑนา” เสียงกระซิบอย่างแผ่วเบาตรงซอกหูทำให้หยิงสาวรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะตอนนี้ใบหน้าคมเข้มนั้นกำลังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆจนร่างเธอแทบละลายติดไปกับประตูอยู่รอมร่อ
“พูดบ้าอะไรของคุณ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจ” มือน้อยๆของคนตัวเล็กพยายามผลักไสร่างสูงไปจนสุดฤทธิ์แต่ดูท่ามันจะไม่มีผลเอาเสียเลย
“แจ้งเลย ฉันไม่กลัวหรอก เพราะนี่คือบ้านของฉัน บางทีเธอนั่นแหละที่จะโดนข้อหาบุกรุก”ชายหนุ่มกล่าวอย่างเลือดเย็น
“นี่มันอะไรกัน เป็นไปไม่ได้”
“เธอนี่โง่จริงๆ ไม่รู้เหรอ ป้าเธอขายบ้านหลังนี้ให้ฉันแล้ว และยกเธอเป็นของแถมให้ฉันอีกด้วย”ภัทรรินผละออกจากร่างหญิงสาวแล้วไปนั่งลงบนเตียงอย่างใจเย็น
เมื่อตัวเองเป็นอิสระ ร่างบางจึงรีบวิ่งไปที่หัวเตียงก่อนจะคว้าโคมไฟขนาดมาเหมาะมือมาถือไว้เพื่อเป็นอาวุธ เพราะเธอไม่ไว้ใจคนเป็นเจ้านายตรงหน้านี้อีกแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงรู้สึกกลัวขึ้นมาแม้แต่น้อย
“ไม่จริง คุณป้าไม่มีสิทธิ์ขาย…บ้านหลังนี้เป็นของลุง ไม่ใช่ของป้าสจี”
“นี่เด็กน้อย ยังไงเขาก็ขายไปแล้ว เธอพูดไปมันก็ไร้ประโยชน์”
“ป้าสจีขายเท่าไหร่ ขอเวลาฉันจะหาเงินมาไถ่คืน” แววตาคนตัวเล็กมองหน้าชายหนุ่มอย่างผู้ไม่ยอมแพ้
“สิบล้าน ”
“สิบล้าน!!!!!!” มัฑนาอุทานออกมาอย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าทุ่มเงินมากถึงขนาดนั้นเพื่อนซื้อบ้านเปล่าๆแทบจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์หลงเหลืออยู่หลังนี้
“ใช่ สิบล้าน เธอมีปัญญามั้ยล่ะ”
“มะ..มี ฉันหาได้แน่ ตอนนี้คุณออกไปได้แล้ว” ถึงแม้จะมืดแปดด้าน แต่เธอต้องรีบแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน เพื่อที่เขาจะได้กลับไปเร็วๆ เพราะตอนนี้เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาแล้วสิ
"ฉันให้เวลาวันเดียวนะ พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่"ชายหนุ่มต่อรองแววตามีเลสนัย ก่อนจะหันหน้าออกจากห้องอย่างง่ายดาย
“คุณจะบ้าหรือไง เงินสิบล้านกับเวลาแค่วันเดียวใครจะหามาทัน” หญิงสาวรีบสวนขึ้นก่อนที่ชายหนุ่มจะออกไปจากห้อง
“งั้นเธอก็ไถ่คืนด้วยวิธีอื่นสิ”
“อย่านะ นี่คุณกำลังทำอะไร กรี๊ดด ”
เคร้งง
ภัทรรินใช้โอกาสตอนที่มัฑนาเผลอหันกลับมาคว้าเอวคอดแล้วทิ้งร่างบ้างลงบนเตียงหนานุ่มด้วยความรวดเร็วก่อนที่โคมไฟในมือเล็กจะตกลงพื้นเสียงดัง
หญิงสาวรีบถอยหนีจนหลังแนบชิดติดกับหัวเตียง มือเล็กจับผ้าขนหนูไว้แน่น อยู่กับคนแปลกหน้ากับชุดแบบนี้มันไม่ดีเอาเสียเลย
“อย่าเข้ามานะ ฉันบอกคุณแล้วไงว่าฉันจะหาเงินมาคืนให้” มัฑนาขอร้องคนตรงหน้าที่กำลังเข้ามาหา ด้วยความหวาดกลัว
“ฉันไม่เชื่อเธอหรอก เธอมันผู้หญิงแพศยา หลอกล่อผู้ชายมากี่คนแล้วล่ะ”
“กรี๊ดดด” มัฑนาร้องเสียงหลงทันทีที่ชายหนุ่มจับข้อเท้าเรียวเล็กของเธอไว้ ก่อนจะลากลงมาให้นอนบนเตียงอย่างง่ายดายก่อนที่ร่างสูงจะทามทับลงมาอย่างรวดเร็ว
“ฉันขอร้องเถอะนะ อย่าทำอะไรฉันเลย”
“ไม่เอาน่า อย่าทำเหมือนไม่เคยสิ ไหนๆเธอก็เป็นสมบัติของฉันแล้ว ฉันขอมัดจำหน่อยละกัน”ชายหนุ่มว่าพลางก้มลงมาไซ้คอขาวระหงของคนตัวเล็ก หญิงสาวพยายามดิ้นหนีเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล
หัวใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะกับคำพูดของร่างสูงตรงหน้าที่กำลังล่วงเกินเธออยู่ ร่างสูงใช้มือเพียงข้างเดียวในการรวบข้อมือเล็กไว้เหนือศีรษะส่วนอีกมือกำลังปลดปมผ้าขนหนูผืนเล็กออกอย่างง่ายดาย
หญิงสาวสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อเนื้อส่วนของหน้าอกโผล่มากระทบความเย็นข้างนอก เกิดมา 22 ปียังไม่เคยต้องตัวชายเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่นี่เธอต้องมาเสียท่าให้กับผู้ชายที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหนี้ทั้งๆเพิ่งเจอหน้ากันไม่กี่ครั้งอย่างนั้นเหรอ
“ได้โปรดเถอะนะ อย่าทำกับฉันแบบนี้เลย ฉันขอ... อื้ออ”
ภัทรริน ไม่สนใจคำอ้อนวอนของหญิงสาวแม้แต่น้อยเขาก้มลงกดริมฝีปากเล็กอย่างบ้าคลั่งเวลานี้ไฟแค้นของเขามันมากมายเกินกว่าจะดับได้อีกแล้ว
“อื้ออ” มัฑนาพยายามดิ้นหนี แต่ภัทรรินยังคงไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย กลับยิ่งเพิ่มความดุเดือนขึ้นอีกเท่าตัว เขาเปลี่ยนเป้าหมายจากปากเล็กลงมาที่ลำคอขาวเนียนระหงส์อีกครั้ง กลิ่นหอมอ่อนๆของแชมพูของคนใต้ร่างยิ่งทำให้เขาแทบบ้า
หลังจากที่มือเป็นอิสระหญิงสาวทั้งพยายามทุบตี ข่วน จิก คนตรงหน้าเท่าที่เรี่ยวแรงยังมีแต่ดูท่าจะไม่เป็นผลเอาเสียเลย ร่างสูงเบื้องบนยังไม่ลดละ เลื่อนลงมาใช้ฝ่ามือบีบคลึงอกอวบอิ่มเต็มมือทั้งสองข้างก่อนจะดูดกลืนเข้าไปอย่างหิวกระหาย เขารู้สึกพอใจกับภาพตรงหน้าเป็นอย่างมาก แม้จะผ่านผู้หญิงมาเยอะแต่สำหรับเธอคนนี้มันไม่เหมือนที่ผ่านมาเลยจริงๆ
ชายหนุ่มยังคงหยอกล้อกับปลายประทุมถันดูดกลืนเข้าไปโดยไม่รู้จักเบื่อ ส่วนมืออีกข้างก็ยังคงบีบเค้นอกอวบนั่นอย่างสนุกมือ จนมันแดงเถือกไปทั้งสองข้าง
น้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มทั้งสองข้างพร้อมกับสติที่กำลังจะหมดลงทุกที หญิงสาวพยายามปกป้องตัวเองจนวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะไร้เรี่ยวแรงไปมากกว่านี้ มัฑนารู้สึกหูอื้อตาลายมองเห็นเพดานห้องผ่านม่านน้ำตากำลังหมุนติ้ว ทั้งที่อีกคนกำลังเล่นสนุกกับร่างของเธออย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย…นันน์ตาหนักอึ้งจนในที่สุดเธอก็หมดสติไป