EP 10

1175 คำ
“เพราะกำลังนั่งรถเพลินเหรอครับ ถึงไม่ได้ดู” “ทำงานเพลินค่ะ ไม่ได้นั่งเพลิน” “เหรอครับ” รู้ว่าเขาประชดเลยไม่ตอบโต้อะไร “Triple A” “คะ” นิ่งไปครู่หนึ่ง อยู่ๆ ก็เอ่ยขึ้น ทำเอาไงไม่น้อย “ชื่อตึกน่ะครับ แล้วคุณหนูย้ารู้มั้ยครับ ว่ามีความหมายยังไง” “ไม่ทราบค่ะ และถ้าคุณจะกรุณาไม่เรียกฉันแบบนี้ จะขอบคุณมาก” เมื่อทนไม่ได้ เลยจำต้องใส่ด้วยสีหน้าที่บอกให้รู้ว่า ‘ไม่ชอบ’ นั่นก็ทำเอาวันชนะถึงกับยิ้ม ทั้งที่ปกติเป็นพวกเสือยิ้มยาก “แล้วผมจะต้องเรียกแบบไหนครับ เป็นคุณไรยาอย่างนั้นเหรอครับ หรือจะเป็นคุณภรรยา หรือจะเป็นคุณเมีย เอ๊ะหรือจะที่รักดีล่ะครับ” อีกแล้วที่ต้องมองด้วยสายตาไม่ปลื้ม เลยไม่ตอบเอาดื้อๆ “ตกลงยังไงดีครับคุณหนูย้า เลือกมาสักอย่างสิครับ ผมจะได้แนะนำพนักงานถูก บอกไว้ก่อนนะครับ ว่าอยู่บ้าน คุณเป็นเมีย แต่อยู่นี่คุณแค่พนักงานเท่านั้น สั่งอะไรต้องทำตาม ห้ามเถียงหรือต่อรองหรือถือสิทธิ์พิเศษใดๆ เด็ดขาด เข้าใจตรงกันนะครับคุณ...” “ไรยา ก็ได้ค่ะ ถ้าไม่ลำบากจนเกินไป ได้ไหมคะคุณหรัญญ์ หรือคุณฮั้นท์ เอ๊ะหรือจะท่านประธาน หรือจะให้เรียกอะไรคะ ช่วยบอกหน่อยค่ะ ฉันจะได้เข้าใจตรงกับคุณ” รีบสวนทันที ใจอยากให้ลิฟต์พาไปถึงจุดหมายเร็วๆ แต่เห็นเขากดเลขหกสิบแปด เป็นชั้นบนสุด “คนอายุน้อยกว่า หรือเท่ากัน หรือแก่กว่านิดหน่อย จะเรียกผมว่า ‘พี่ฮั้นท์’ ถ้าอายุเยอะกว่ามากๆ ก็จะเรียกว่า ‘คุณฮั้นท์’ คุณจะเรียกด้วยก็ได้ ผมไม่ว่าหรอก หรือถ้าอยากจะแหวกแนวไม่ซ้ำใคร จะเรียกคุณหรัญญ์ก็ยังได้ ขออย่างเดียว อย่าเรียกว่า ‘ผัวคะ ผัวขา’ ก็แล้วกัน เพราะมันน่าจะเอาไว้เรียก ตอนเราอยู่บนเตียงมากกว่าครับ” อยากจะกรี๊ดตรงนี้ แต่ประตูลิฟต์ดันเปิดซะงั้น เขาก็รีบเผ่นไปแบบไม่ยอมให้สุภาพสตรีออกก่อนสักนิด นั่นยิ่งเคืองเข้าไปใหญ่ แต่ก็เช่นเคย จะทำอะไรได้ นอกจากเก็บความไม่พอใจเอาไว้ “สวัสดีค่ะพี่ฮั้นท์” เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีสาวหน้าใส กับการแต่งกายเรียบหรู ยกมือไหว้เขาพร้อมกับยิ้มหวานๆ ให้ “พี่นะสวัสดีค่ะ” คนของเขาก็ถูกไหว้ด้วย นั่นแปลว่าไม่ใช่แค่สารถี เธอเพิ่งรู้ว่าชื่ออะไร เพราะเขาไม่เคยแนะนำเลย รวมทั้งคนในบ้านด้วย นอกจากป้าของเขาแล้ว เธอไม่รู้จักใครอีกเลย คงจะต้องถามเอาเองหากจะอยู่บ้านเขาต่อ หรือไม่ก็หย่าแล้วออกมาปวดหัวเรื่องหาเลี้ยงปากท้องอีก “สวัสดีค่ะคุณย้า” ไรยายกมือรับไหว้แทบไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยิ้มหวานและส่งเสียงหวานๆ ให้ ก็นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเยี่ยมเยือนออฟฟิศเขา หลังจากรู้ตอนทำสัญญาร่วมหุ้นแล้ว ว่าเธอกับทีมงานจะต้องย้ายมานี่ “แยมนะคะ เป็นเลขาพี่ฮั้นท์ค่ะ” “สวัสดีค่ะ” ไรยาก็ยิ้มและส่งเสียงนุ่มๆ ให้บ้าง “นะ” หรัญญ์หันไปหาวันชนะ “ครับ” “พาคุณย้าไปออฟฟิศก่อน” เขาสั่งผู้ช่วยมือขวาที่ทำงานด้วยกันมาหลายปี “ครับ” “เชิญครับ” วันชนะผายมืออย่างสุภาพ ไรยายิ้มอย่างขอบคุณ แล้วตามไปด้วยอาการโล่งอก ที่ได้ห่างคนกวนประสาทสักที “ห้องนี้เป็นของ AHJR ทั้งหมดครับ” ไรยามองประตูกระจก มีอักษรสีทองติดไว้ว่า ‘AHJR TYRE AND RUBBER Co., Ltd.’ ครู่หนึ่ง รู้สึกเจ็บแปลบตรงตัว AH ที่อยู่ก่อน JR ไม่น้อย ถ้าไม่เพราะมีปัญหา ก็คงไม่ต้องมีชื่อใครมารวมอยู่ด้วย A น่าจะมาจากอัฟแนนสินะ ส่วน H ไม่ต้องเดาก็น่าจะเป็น หรัญญ์ และนี่คือเงื่อนไขข้อที่สามของเขา “ป้ายสวยนะคะ” ฝืนยิ้ม “ครับ” แต่ไม่รู้ทำไมวันชนะถึงคิดว่าอีกฝ่ายกำลังหยันใครอยู่ จะเป็นเจ้านายเขา หรือตัวเธอเอง อันนี้ก็เดายาก “ห้องกว้างนะคะ” ไรยาเดินตามวันชนะเข้าไปยืนอยู่ในห้อง ผนังทั้งหมดเป็นกระจกใสแจ๋ว ใครมองเข้ามาหรือคนในมองออกไปเห็นหมด ห้องอื่นๆ ในชั้นนี้ก็จะเป็นกระจก โต๊ะทำงานหลายตัวทั้งกลมทั้งเหลี่ยม มีพาทิชั่นเป็นพลาสติกใสแบ่งช่องไว้อย่างเป็นสัดส่วน “ห้องคุณย้าครับ” วันชนะผายมือไปยังห้องขนาดกะทัดรัด ผนังกระจกกั้นอีกชั้นไว้ มีโต๊ะทำงานใหญ่สมกับตำแหน่ง Managing Director เบื้องหลังคือผนังกระจกตัวตึก ส่วนตำแหน่งนี้ก็คือเงื่อนไขข้อที่สี่ของเขา หญิงสาวมองผ่านหน้าต่างกระจำเห็นวิวเมืองกับท้องฟ้าสดใส กับแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย ถึงจะไกลหน่อยแต่มันก็ให้ความรู้สึกดีไม่น้อย คงทำงานได้อย่างสบายใจกว่าออฟฟิศเก่า เพราะจะไม่มีเสียงเครื่องจักรรบกวนกับไม่มีปัญหาการเงินมาบั่นทอนสุขภาพจิต “ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติม คุณย้าบอกได้ครับ เดี๋ยวจะรีบหามาให้ครับ” “คิดว่าคงไม่มีอะไรขาดหรอกค่ะ เผลอๆ ก็เกินซะอีก” ไรยาปรายตาออกไปนอกห้อง หาโต๊ะทำงานไม่ต่ำกว่ายี่สิบตัว เพราะตอนเธอกับพ่อตัดสินใจย้ายออฟฟิศไปอยู่ที่เดียวกับโรงงาน หลังจากขายอาคารสำนักงานแบบด่วนๆ เพื่อใช้นี้ ก็จำต้องให้พนักงานระดับบริหารออกไปเยอะ เหลือไว้แค่จำเป็นและต้องทำงานได้หลายหน้าที่ เพื่อความอยู่รอด “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอเข้าไปเคลียร์งานก่อนนะครับ” วันชนะรู้ความเปลี่ยนแปลงในบริษัทดี แต่ไม่ขอเข้าไปข้องเกี่ยวใดๆ “ขอบคุณค่ะคุณนะ” ก็ในเมื่อเขาไม่แนะนำคนของเขาให้รู้จัก เลยจำต้องถือวิสาสะเรียกซะเอง แม้ไม่ได้สนิทก็คงจะดีกว่าคุยไปแต่ไม่เอ่ยชื่อคู่สนทนา ดูจะน่าเกลียดพิลึก “สวัสดีครับคุณย้า” ตอนกำลังสำรวจห้องอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังมา กับเสียงคนคุยกัน พอหันไปหาก็เห็นว่าเป็นทีมงานของเธอเอง กำลังหอบข้าวของเข้ามาในออฟฟิศ “สวัสดีค่ะลุงสน” ไรยาไหว้สนชัย คนเก่าแก่ อยู่กับครอบครัวเธอมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ทำได้หลายหน้าที่มาก ถือเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ถึงอายุจะห้าสิบเก้าเท่ากับพ่อเธอแล้ว แต่ก็กระฉับกระเฉงกว่า ที่สำคัญ มีความซื่อสัตย์ดีเยี่ยม ข้อนี้เธอกับพ่อจะถือเป็นคุณสมบัติพิเศษ “ผมเอาเอกสารจากออฟฟิศโน้นมาให้แล้วนะครับ เด็กๆ กำลังช่วยกันขนมาครับ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม