‘ยิ้มให้พอนะเบบี๋’
ไม่กี่นาทีต่อมา ก็มีถุงขนมคั่นกลางระหว่างกันแล้ว เขามองออกนอกหน้าต่าง สักพักก็จอดอยู่หน้าบ้านเดี่ยวสองชั้นหลังกะทัดรัด บนเนื้อที่เจ็ดสิบตารางวาแล้ว ไรยารีบออกจากรถด้วยความดีใจ นานแล้วไม่ได้กลับบ้าน กำลังจะกดออด เพราะไม่มีกุญแจ แต่เอียดเดินออกมาก่อน
“คุณหนู” เอียดอุทานเบาๆ สีหน้าก็ตระหนก ไรยาก็อดสงสัยไม่ได้
“ป้าเอียด ย้ามีขนมมาฝากเยอะแยะเลย” แต่เพราะดีใจมากกว่า เลยไม่ได้คิดอะไร
“คุณหนูได้โทรบอกคุณท่านหรือเปล่าคะว่าจะมา”
“ไม่ค่ะ ย้ามาแบบด่วนๆ แล้วรถย้าไปไหนล่ะคะ” ไรยากำลังจะเดินเข้าบ้าน ก็เห็นรถไม่อยู่ เอียดอ้ำอึ้ง
“เอ่อ...”
“หรือว่าลุงอ่อนเอาไปซื้อของตลาดคะ”
“อ๊อ ใช่ค่ะ ใช๊ ลุงไปซื้อของให้ป้าค่ะ”
“อ๋อ งั้นฝากป้าต้อนรับแขกแทนด้วยนะคะ แล้วก็เอาของลงด้วย ย้าจะไปหาคุณพ่อค่ะ”
ไรยารีบวิ่งเข้าบ้านด้วยความดีใจ ก็เห็นพ่อนั่งยกสองขาพาดเก้าอี้ไว้ นั่นเป็นคือวิธีพักขา เพราะนั่งหย่อนขานานๆ ขาจะบวม เมื่อก่อนพ่อไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ บางทีเธอกลับจากทำงาน เห็นขาพ่อบวม ต้องบังคับให้เข้าห้องนอนพักทันที
“คุณพ่อ” ไรยายิ้มให้พ่อ
“ย้า” แต่คนเป็นพ่อกลับยิ้มไม่ออก แถมยังตกใจ เพราะเคยบอกไว้แล้ว ว่าให้บอกล่วงหน้าก่อน
“คิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ” เข้าไปคุกเข่าข้างวีลแชร์ ไหว้พ่อแล้วก็กอดพ่อด้วยความดีใจ
“พ่อก็คิดถึงย้าเหมือนกัน ว่าแต่จะมาทำไมไม่โทรบอกก่อนล่ะ” ปิยะคิดถึงลูกมาก แต่ก็มีเรื่องให้ต้องกังวลไม่น้อยเช่นกัน
“ย้าลืมค่ะ คุณพ่ออยากจะกินอะไร ย้าออกไปซื้อให้ก็ได้ค่ะ”
ไรยาไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อสามีขี้สั่งเดินเข้ามาในบ้าน ไหว้พ่อเธอ
“คุณก็มาด้วยเหรอ” ปิยะรับไหว้ลูกเขย ที่เพิ่งได้เห็นหน้ากันหนที่สองเท่านั้น
“เชิญๆ” ผายมือให้ลูกเขยนั่งชุดรับแขก ลูกเขยมองพ่อตาที่ใบหน้าจะอิ่มเอิบกว่าเมื่อก่อนไม่น้อย ยิ้มมุมปาก เพราะรู้ดีว่ามาจากสาเหตุอะไร
“แล้วนี่คุณพ่อทำอะไรคะ” ไรยาเห็นบนตักพ่อมีกะละมังกับผักบุ้งสองมัด
“กำลังเด็ดผักบุ้งจ้ะ อยากกินผัดไฟแดง”
“ตอนนี้คุณพ่ออารมณ์ดี จนช่วยป้าเอียดทำกับข้าวด้วยเหรอคะ”
“ก็พ่ออยู่ว่างๆ”
ตอบไม่ใคร่จะเต็มเสียง แล้วก้มลงไปหาผักต่อ ส่วนลูกสาวก็มองพ่อด้วยท่าทีดีใจ ที่เห็นพ่อดูจะผ่อนคลายลงจากเมื่อก่อนมาก คงเพราะหมดปัญหาเรื่องเงินแน่ๆ
“คุณพ่อยกขาด้วย”
“พ่อไม่ได้ดูแลสุขภาพมาหลายปีแล้ว ตอนนี้ก็ต้องหันมาใส่ใจหน่อย” ปิยะยิ้มเจื่อนๆ เอียดก็เดินเอาน้ำส้มคั้นมาวางบนโต๊ะให้คุณหนูกับสามี
“น่ากินจังเลยค่ะป้า”
“คั้นใหม่ๆ เลยนะคะ คุณหนูชอบนี่คะป้ารู้ เลยเดาเอาว่าคุณเค้าก็คงจะชอบด้วยค่ะ” เอียดมองสามีของเจ้านายสาวครู่หนึ่ง
“แล้วป้าทำอะไรกินบ้างคะเย็นนี้”
“ผัดผักบุ้งไฟแดง แล้วก็ เอ่อ ป้ายังไม่รู้ค่ะว่าในครัวมีอะไรบ้าง”
เอียดปรับความคิดไม่ทัน เลยเกิดอ้ำๆ อึ้งๆ อีก
“ไหนบอกว่าลุงอ่อนไปตลาดไงคะ แล้วป้าจำไม่ได้เหรอคะ ว่าให้ไปซื้ออะไรบ้าง”
“ช่วงนี้ป้าแก่ขึ้นเยอะเลยค่ะ จำอะไรไม่ค่อยได้ เดี๋ยวป้าไปดูในครัวก่อนนะคะ”
“ย้าไปช่วยค่ะ” ไรยาลุกไปทันที ทั้งที่อยากจะคุยกับพ่อ แต่ในเมื่อสามีขี้สั่งนั่งอยู่ คงคุยไม่สนุกแน่ๆ ไว้วันหลังจะขับรถมาหาพ่อเอง
“โอ้โห ของในครัวซื้อใหม่หลายอย่างเลยเหรอคะป้า”
ของใหม่หลายอย่าง เลยแซว และดีใจอยู่ลึกๆ ที่การแต่งงานของตัวเอง ทำให้พ่อกับคนในบ้านมีชีวิตที่ดีขึ้น คนในบริษัทเองก็คงจะดีด้วย พนักงานระดับผู้จัดการกับผู้ช่วย ก็ได้รับเงินเดือนตรง ไม่จ่ายช้าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“เอ่อ...ค่ะ”
“แล้วนี่อะไรคะป้า” ไรยาเห็นมะพร้าวอ่อนถูกควักเนื้อออกใส่จานไว้
“ว่าจะทำห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อนค่ะ”
“แล้วนี่จะทำเมนูอะไรคะ” มะขามแช่น้ำอยู่ เลยสะกิดใจนิดๆ
“เอ่อ...กุ้งราดซอสมะขามค่ะ”
อีกแล้วเอียดตอบไม่เต็มปากเต็มคำนัก ท่าทางกระวนกระวายนิดๆ จนคุณหนูสงสัย
“ป้าเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” เอียดยังไม่ทันจะได้ตอบ เสียงรถแล่นเข้าก่อน
“สงสัยลุงอ่อนกลับจากตลาดแล้วล่ะค่ะ ป้าจะไปช่วยหิ้วของมั้ยคะ”
“เอ่อ ค่ะๆๆ ไปก็ไปค่ะ”
รู้แน่ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล เลยตามออกไป แล้วก็ตกใจกับคนที่เดินหิ้วของเข้ามาในบ้าน
“หนูย้า จะมาทำไมไม่บอก แม่จะได้เตรียมทำของโปรดไว้ให้”
ไปรยามองหน้าลูกสาวแล้วยิ้มร่า แต่คนถูกมองกลับทำหน้าบึ้งใส่ แล้วหันไปมองพ่อด้วยความไม่เข้าใจ
“นี่มันอะไรกันคะคุณพ่อ ผู้หญิงคนนี้มาอยู่บ้านเราได้ยังไงคะ”
“แม่กลับมาอยู่กับพ่อน่ะลูก” ปิยะตอบไม่เต็มเสียง
“นานหรือยังคะ แล้วทำไมคุณพ่อไม่บอกย้าสักคำคะ”
“พ่อว่าจะบอกอยู่ แต่ยังหาโอกาสเหมาะๆ ไม่ได้”
“เราคุยกันทุกวัน แต่กลับบอกว่าไม่มีโอกาสเหมาะๆ เหรอคะ”
“พ่อขอโทษ แม่ขอกลับมาอยู่ด้วย ขอมาดูแลพ่อเหมือนเมื่อก่อน ก็ดีนะ พ่อก็ไม่เหงาไง”
“ไม่คิดเหรอคะ ว่าถ้าเขาทิ้งคุณพ่อไปแบบคราวที่แล้ว จะเหงาหนักกว่าเดิมอีก คุณพ่อลืมได้ยังไงคะ ว่าเราเจ็บแค่ไหน ลำบากแค่ไหนกับเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้ทำไว้”
“จำได้ แต่พ่อคิดว่าคนเราก็ทำผิดพลาดกันได้ เราควรจะให้อภัยดีกว่านะลูก”
“ให้อภัย คุณพ่อไม่เห็นเหรอคะ ว่าผลจากการกระทำของผู้หญิงคนนี้ ทำให้ย้าต้องเป็นยังไง ย้าเสียใจที่สุดเลยค่ะ ที่คุณพ่อทำอะไรไม่บอก นี่ย้าไม่มีความหมายเลยใช่มั้ยคะ”