"บัดนี้เจ้าเรือนเป็นเช่นไรบ้าง"
โจวเจ๋อฮั่นเป็นห่วงคนผู้นั้นยิ่งนัก เพียงเขากลับมาก็เกิดเรื่องเสียแล้ว แต่กระนั้นเขาก็ยังคงสงสัยว่าเหตุใดเรื่องจึงเกิดในวันนี้พอดี จะประจวบเหมาะเกินไปหรือไม่
"จับคนร้ายไม่ได้ขอรับ แต่ท่านเจ้าเรือนข่าวว่าเกรงว่าจะได้รับบาดเจ็บ"
เจ้าอี้เหวินเองก็ตกใจไม่น้อย ที่นั่นการคุ้มครองป้องกันแน่นหนา เหตุใดคนผู้นั้นจึงจะได้รับบาดเจ็บ ทหารองครักษ์ล้วนฝีมือตกต่ำหรืออย่างไร
"เจ้าแน่ใจนะว่าข่าวไม่ผิดพลาด"
โจวเจ๋อฮั่นเห็นช่องโหว่อยู่หลายจุด มันน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง คนผู้นั้นกำลังรอพบเขาแต่เขาเองก็มีเรื่องสำคัญที่ต้องทำที่นี่ คนผู้นั้นเจ้าเล่ห์ไม่แน่อาจจหลอกเขาอยู่ก็เป็นได้
"นายท่าน ข้าว่าท่านรีบไปเสียเถิดเรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเอง"
เจ้าอี้เหวินพูดขึ้น โจวเจ๋อฮั่นยังลังเลเขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นจริง ๆ ในขณะที่ชุ่ยหลินที่กำลังแอบฟัง เห็นว่าพวกเขามีเรื่องด่วนก็ดีใจยิ่ง
องครักษ์ของคุณหนูเองคงกำลังหาทางช่วยเหลืออยู่เป็นแน่ หากพวกเขาสองคนคนนี้ยังอยู่เกรงว่าการช่วยเหลือจะลำบากแล้ว นางเดินมาหาคุณหนูพยายามเขย่าร่างของหลิวซือซือ อยากให้คุณหนูฟื้นขึ้นมาเสียที
"คุณหนูเจ้าคะ ท่านตื่นเร็วเถิด เราจะต้องหนีไปจากที่นี่นะเจ้าคะ ท่าทางสองคนนั้นจะกักขังท่านเอาไว้ บ่าวกลัวเจ้าค่ะถึงพวกเขาจะรูปงามและดูสูงศักดิ์ก็ตาม"
ชุ่ยหลินกระซิบเบา ๆ ชำเลืองมองพวกเขาที่ยังไม่ได้ตัดสินใจไปจากที่นี่เสียที
เดิมทีนายท่านก็ไม่อยากให้คุณหนูข้องแวะกับคนสูงศักดิ์อยู่แล้ว แต่ครานี้ดูเหมือนว่าจะเจอตรง ๆ โดยที่คุณหนูยังเป็นฝ่ายเสียเปรียบเดินเข้าไปถึงห้องของนายท่านผู้นั้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อชื่อเสียงของคุณหนูเป็นอย่างยิ่ง
หากผู้คนรับรู้คุณหนูต้องหนีไม่พ้นแต่งกับบุรุษผู้น่ากลัวผู้นั้น ชุ่ยหลินเองยิ่งไม่สบายใจนายท่านคงตำหนินางเป็นแน่หากขืนปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู"
คนผู้นั้นเดินกลับเข้ามาที่เตียงของหลิวซือซือแล้ว เขากับนางดูเหมือนจะมีวาสนา ใจของเขาลังเลยิ่ง ใจหนึ่งก็ร้อนรนกลัวว่าคนผู้นั้นจะได้รับอันตรายจริง ๆ อีกใจก็ไม่อยากจะเชื่อคิดว่าเป็นลูกไม้ของคนเจ้าเล่ห์ที่หลอกให้เขาไปพบ
เจ้าอี้เหวนเดินตามเข้ามา
"นายท่าน ท่านจะไม่ไปจริง ๆ หรือปล่อยให้ข้าจัดการที่นี่เถิด ท่านไม่ต้องห่วงรับรองว่าหากนางฟื้นขึ้นมาต้องได้รู้ความจริงเป็น ข้าจะสอบนางด้วยตนเอง"
เจ้าอี้เหวินอยากจะหัวเราะนัก เขาไม่เคยเห็นว่าโจวเจ๋อฮั่นจะอาลัยอาวรณ์สตรีใดมาก่อน นางผู้นี้เป็นสตรีคนแรกที่ทำให้โจวเจ๋อฮั่นเป็นเช่นนี้
ชุ่ยหลินเองกลับวิตกกังวล เมื่อคนทั้งสองทำท่าว่าจะมีใครคนใดคนหนึ่งยังอยู่ที่นี่ เช่นนี้นางจะทำเช่นไรกัน จะหนีอย่างไรดี
กระทั่งทหารคนหนึ่งวิ่งกระหืบกระหอบมา คุกเข่าที่หน้าประตู
"นายท่าน แย่แล้วขอรับพวกมันบุกมาอีกแล้ว เจ้าเรือนขอให้ท่านกุนซือรีบกลับไปกับนายท่าน ยังบอกว่าตอนนี้หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง"
โจวเจ๋อฮั่นถึงกับลุกขึ้น กดดันกันเพียงนี้เขาเองก็ไม่อาจรั้งรอได้แล้ว แม้จะยังคลางแคลงใจเพียงใดก็ตามที โจวเจ๋อฮั่นหันมากล่าวกับชุ่ยหลินน้ำเสียงเคร่งเครียด
"เจ้าดูแลนางให้ดี ข้าจะให้คนของข้าคอยเฝ้าไว้หากนางฟื้นแล้วให้คนของข้ารีบไปรายงานเข้าใจหรือไม่"
ชุ่ยหลินรีบพยักหน้า กดข่มความดีใจเอาไว้ภายใน คนพวกนี้ยิ่งรีบไปเท่าไรก็ยิ่งดี
"ข้าน้อยเข้าใจเจ้าค่ะ ข้าน้อยเองก็ห่วงคุณหนูมากเช่นกัน"
"ดี ไปเจ้าอี้เหวิน เห็นทีว่าครานี้ไม่อาจลังเลใจได้แล้ว"