ตอนที่ 8 ชื่อตอน จักรพรรดิหลงมัวเมา

1368 คำ
"อืม..สตรีสามนางนั้นและสตรีรอบกายนี้นั้นล้วนเป็นข้ารับใช้ข้างกายข้า และผู้ถูกส่งมาจากผู้อื่น " ใบหน้างดงามแย้มสรวลขึ้นมาพลัน และชี้ไปที่สตรีใบหน้าเรียบเฉยผู้หนึ่ง และกอดรัดวงแขนแกร่งแน่นหนา "นาง..." องค์หญิงชี้นิ้วไปที่สตรีนางนั้น และแย้มยิ้มสว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง "ซื่อหยู ชื่นชอบนางเพคะ องค์จักรพรรดิ" ร่างหนาหัวเราะลั่นขึ้นมาจนกายสั่นกระเพื่อม และส่งเสียงหัวเราะดังขึ้น จนดังเนิ่นนานขึ้นมา "ฝ่าบาท ทรงสรวลด้วยเหตุอันใดกันเพคะ " องค์หญิงซื่อหยู ทำหน้าตาตื่นใบหน้าเอียงอายขึ้นมาโดยพลัน ร่างหนาตีจมูกนางและไต่ถามนางออกไปเบาๆ "เหตุใดเจ้าจึงชื่นชอบนาง เช่นนั้นหรือซื่อหยู " องค์หญิงชะงักไปเพียงนิดและถอนหายใจบางเบาออกมาน้อยๆ นางเอ่ยอย่างโศกสลดขึ้นมา "นางมีใบหน้าเช่นเดียวกับพี่เลี้ยงของหม่อมฉัน ที่ถูกลอบฆ่าตายยามที่มีผู้บุกรุกมาเพคะ นางนิ่งงันเช่นนี้อาจงดงามมิเท่า แต่ผู้อื่นนั้นล้วนตื่นตระหนก เอะอะและโวยวาย มิอาจเทียบได้กับนางผู้นั้น " องค์จักรพรรดิลูบผมของนางช้าและหอมแก้มปลอบใจนาง และหยุดถามนางออกไปในคราหนึ่ง "เหตุใดจึงมีผู้ลอบสังหารเจ้า มิใช่มีเพียง ซื่อหมินหรอกหรือที่สำคัญกว่าผู้ใด " องค์หญิงซื่อหยูยิ้มจางๆและพยักหน้าเบาๆ เอ่ยออกมาอย่างโศกสลดอีกครั้ง "ในยามเยาว์นั้นใบหน้าของหม่อมฉันและท่านพี่ซื่อหมินเหมือนกันจนมิอาจแยกได้ ยามที่ออกนอกวังหลวง หม่อมฉันมักปลอมตนเป็นพี่ซื่อหมินและทดแทนกันในยามสงครามเพคะ " "ในยามสงครามด้วยเช่นนั้นหรือ!!!! " ร่างหนาร้องเสียงหลงขึ้นมามิใช่ว่า...นาง...! องค์หญิงซื่อหยูพยักหน้าเบาๆ และเอ่ยออกมาหน้าตาเฉย ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงขึ้นมา "ในยามที่ท่านพี่บาดเจ็บ หม่อมฉันมักจะแอบออกไปบัญชาการรบ ยามศึกหนึ่งกับจักรวรรดิหลวน หม่อมฉันก็ล่อลวงพระองค์ว่าทรงมิได้รับชัยชนะ ออกไปลอบโจมตีพระองค์และเผาค่ายของพระองค์ไปสามค่ายแล้วเพคะ " ร่างหนาตัวสั่นระริกขึ้นมาช้าๆ ร่างบางเร่งขยับไปกอดรัดและลูบเบาๆลงไปที่แผงอกแกร่งเอ่ยปลอบประโลมลงไป "ในยามเยาว์นั้นหม่อมฉันจำได้ว่าเคยเกือบถูกจับได้คราหนึ่ง แต่ทหารผู้นั้นบาดเจ็บและเชื่องช้า จนหม่อมฉันรอดมาได้เพคะ " ร่างหนาตัวสั่นระริกและกำหมัดแน่นในทันใด ขบฟันกรอดและนึกเจ็บใจไปถึงในยามอดีตอีกครั้ง “ใช่แล้ว พระองค์เคยได้รับชัยชนะเหนือแคว้นเสวี่ย คิดว่าแคว้นเสวี่ยนั้น ผู้นำถูกพระองค์ยิงด้วยธนูไปถึงสามดอก พระองค์กำลังจะสรวลออกมาแล้ว แต่มิทันได้หัวเราะกันไปถึงข้ามคืน “ "ไฟไหม้!!!!! " ค่ายรองของพระองค์ถูกเผาไปเสียถึงสามค่าย และยามที่พระองค์ออกมาตามจับผู้ร้ายนั้น พระองค์ก็กลับตื่นตะลึง ในความงามของบุรุษของแคว้นเสวี่ย พระองค์ถึงกับฝันเพ้อละเมอออกไปไกล "ยามท้ารบก็มุ่งคิดจะบุกจับแต่เพียงองค์ชายแค่องค์ชายซื่อหมินในทุกคราไป เพราะทรงอยากจะทดสอบใจของตนเองว่า พระองค์รักบุรุษผู้หนึ่งจริงๆเช่นนั้นหรือ " ยามที่กลับมาจากศึกนั้น พระองค์นำสตรีนับร้อยกลับมาเสพสม แต่ยามนึกถึงใบหน้างดงามของซื่อหมิน พระองค์มิอาจทรงลืมเลือนได้ ในใจก็ครุ่นคิดค้นหาวิธีการรบ ทรงล่อลวงองค์ชายมาติดกับเสียทุกคราไป แม้มีสาส์นอันใด พระองค์ก็ยังคงติดตามราวีมิเลิกรา เพียงเพราะทรงอยากพบใบหน้างดงามนั้นอีกคราหนึ่ง ยามที่ทรงรบชนะในครั้งนี้ พระองค์นั้นจับองค์ชายซื่อหมินได้ ทรงนำมามัดไว้ที่เสา พระองค์ทดสอบยื่นหน้าไปใกล้ๆ ก็รู้สึกสะอิดสะเอียนยิ่งนัก จึงกระทืบเท้าลงไปบนกายซะหลายทีให้หายแค้น "ใบหน้าที่เคยแสนงดงามนั้น เหตุใดในยามที่เติบโต เหตุใดจึงแข็งกระด้าง ไร้ความงามเฉกเช่นนี้ ฮึ่ม !!!!" โมโหโกรธาจนจะบุกมาเผาเมืองให้เรียบไป สะสางความแค้นในครานั้นลงไปให้จบสิ้น พระองค์เสียเวลายิ่งในการวางแผนไล่จับองค์ชายซื่อหมินมาเนิ่นนาน มิคาด ในยามที่ทรงควบขี่ม้าศึกห่อตะบึงมาอย่างกรุ่นโกรธ สายตามองเห็นบางสิ่งที่ขาวโพลนในภายหน้า นิ้วมือขาวส่องสว่างบนดวงตาของพระองค์ กลิ่นกายหอมล่องลอยมา ในใจของพระองค์พลันเต้นตึกตักขึ้นมาอีกคราหนึ่ง หัวใจนั้นเต้นกระตุกอีกครา ยามที่พบร่างอ่อนหวานที่งดงามล้ำเลิศกว่าผู้ใดในปฐพีทั้งนั้น ยามที่มองเห็นนางยืนตัวสั่นระริก จึงทรงอยากกลั่นแกล้งนางใจแทบขาด สั่งนางลงจูบลงแทบเท้า แต่มิคาดกลับแทบจะบ้าคลั่งแทบตาย ในคราต่อมานั้น มือนุ่มๆสัมผัสลงบนขนขาของพระองค์เบาๆ จนเสียวซ่านไปทั้งกาย มือขาวๆจับประคองฝ่าเท้าของพระองค์ พระองค์แทบจะถลาลงไปรับฝ่ามือนางเสียแล้ว ยามที่ทรงรับสั่งให้นางจูบเท้าตน คาดหวังจะให้นางร่ำไห้ อย่างเสียศักดิ์ศรีแบบสตรีเจ้าน้ำตาผู้อื่น มิคาดริมฝีปากนุ่มลื่นกลับจุมพิตลงไปที่ฝ่าเท้าของพระองค์ได้ พระองค์แทบจะครางออกมาอย่างสุขสมในทันใด "ช่างนุ่มยิ่งนัก อาาาา " ร่างหนาสั่นระริก และตีก้นนางลงไปเสียงดังเพี๊ยะ!!! "ว้ายยยย ฝ่าบาท !!!! " "เจ้าเผาค่ายของข้าถึงสามค่าย !!! " ร่างงดงามหลุบตาลงและนั่งลงบนตักแกร่ง กอดรัดร่างหนาลงไปแน่นในทันใด "เอ่อ...หม่อมฉันมิได้ตั้งใจเพคะ ยามนั้นเพียง...เอ่อ...คิดเพียงจะเผาให้สิ้นไป แต่ฝนตกลงมาเสียก่อน เผาได้เพียงแค่สามค่ายเพียงนั้นเองนะเพคะ " ร่างบางเอนกายกอดรัดในอกแกร่ง ซุกใบหน้าลงอย่างเอียงอาย มือหนาฟาดลงไปดังเพี๊ยะ!!!! "อ้าาาาา !!! " องครักษ์รอบกายพลันตัวสั่นระริกเช่นนายตนไปโดยพลัน เพราะยามนั้นพวกมันลงสนามรบกับนายตนและต่างเสียความมั่นใจนัก นึกว่าองค์ชายซื่อหมินนั้นเก่งกาจเหมือนภูติผี แต่ที่ใดได้ ทุกผู้คนถูกนางหลอกลวงไปเสียสิ้น "ฮึ่ม น้องสาวฝาแฝด สตรีแต่งกายเป็นบุรุษลงไปสนามรบ!!!! " มือหนาอุ้มนางพาดบ่าไปอีกคราหนึ่ง จับนางยัดลงไปในเกี้ยว องครักษ์หามเกี้ยวดั้นเมฆาไปและนำไปสู่ห้องทรงอักษรในทันใด ร่างหนานั่งลงที่โต๊ะทรงอักษรและเริ่มต้นอ่านฎีกาต่างๆโดยพลัน เสียงเอะอะติดตามมาในภายหลัง มือหนาดึงร่างบางถลาลงมากอดจูบลูบคลำในอกทันใด "หยุดนะเสนาบดีเฉิน ท่านเข้าไปมิได้!!! " "ถอยออกไป โครมมม!!! " ร่างหนาหุนหันเข้ามาพร้อมผู้คนจำนวนหนึ่ง ผู้คนตกตะลึงสิ้น เสนาบดีเฉินทำสายตาดูหมิ่นออกมาเสียแวบหนึ่ง และทำท่าเศร้าสลดขึ้นมา "พระอาญามิพ้นเกล้าฝ่าบาท ข้าน้อยเสี่ยงตายมาในครั้งนี้มีเรื่องสาหัสนักพะยะค่ะ ฝ่าบาทกระหม่อมมาเข้าเฝ้าด้วยเรื่องเขื่อนแตกพะยะค่ะ เหตุใดเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ ฝ่าบาทมิมีราชโองการไประงับเหตุเล่าพะยะค่ะ " ร่างหนาบดจูบรุนแรงขึ้น จนองค์หญิงนั้นเผลอส่งเสียงครวญครางออกไปโดยพลัน "อรื้ม อร่า “ ผู้คนเหลือบตามองไปโดยพลันและหลุบสายตาลงกับพื้นไปทันที เหล่าขุนนางตัวสั่นระริกคิดดูหมิ่นในใจตนขึ้นมาในทันที "เจ้าจักรพรรดิหลงนารีนี่ มิเพียงมิใส่ใจราชกิจ ยังหลงไหลมัวเมาสตรีจนโงหัวมิขึ้น ขนาดว่าเขื่อนแตกแล้วมันยังมิใส่ใจเลยหรอกหรือ ฮึ่ม !!! "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม