“ว้ายยย! ทะลึ่ง ลุงนั้นแหละน่าเกลียด แอบมองชุดชั้นในหนู ที่เตี้ยกว่าลุงถึงสิบเซ็น” คนตัวเล็กว่าพลางทำหน้ามุ่ย พร้อมกับเอาเสื้อหนังของเขามาคลุมที่ไหล่ไว้ตามเดิม
“ฉันไม่พิศวาสหน้าอกเล็ก ๆ ของเธอหรอกนะ ยัยเด็กบ๋อง” ว่าแล้วเขาก็แจกมะเหงกให้กับเด็กสาวไปหนึ่งที
เจ้าตัวได้เอามือมาลูบหน้าผากปรอย ๆ พร้อมกับสีหน้างอน ๆ เธอมีชื่อว่า โมราห์ ซึ่งเป็นเด็กที่อยู่ในปกครองของเขา กำลังศึกษาชั้นปีที่สาม เรียนด้านโบราณคดี เจ้าตัวสนใจเรื่องราวความเป็นมาของประวัติศาสตร์บนโลกใบนี้
ผิวขาวผุดผ่อง เนื่องจากเจ้าตัวดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ส่วนสูงร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ผมยาวดัดลอน สีผมน้ำตาลเหลือบทองแดง ดวงตามีกรอบแว่นกลม ๆ ที่เธอสวมใส่ไว้ป้องกันแสงเพื่อถนอมสายตา กระโปรงนักศึกษายาวแค่เพียงหัวเข่า
“หนูเป็นหลานลุงหรือไง ถึงมาแจกมะเหงกให้หนู แม้ขนาดตัวลุงเอง ยังไม่ให้หนูเรียกว่าลุง” เจ้าตัวหันหน้ามาประจันกับเขา
“ฉันไม่ใช่ลุง ให้เรียกฉันว่าพี่ เข้าใจไหม” ชายหนุ่มหันมาส่งสายตาดุ ๆ ให้กับหญิงสาว ก่อนจะก้าวขาเดินออกไป
“ดะ เดี๋ยว ๆ หนูยังไม่รู้จักชื่อเลย อ้าว” หญิงสาวเรียกเขาไม่ทัน เมื่อจู่ ๆ เขาก็หายไปจากการมองเห็นของโมราห์
“ข้าทำตามที่ท่านไว้วานมาให้แล้ว ต่อจากนี้ข้าจะไปพำนำที่ใดกัน” ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปบนนาฬิกาข้อมืออย่างดี ที่สามารถติดต่อสื่อสารไปยังอีกโลกได้
“ข้าเตรียมให้ท่านแล้วกุมภัณฑ์ แต่นายท่านสั่งมาอีกว่า ห้ามเจ้าล่วงเกินหญิงสาวผู้นั้นเป็นอันขาด” เสียงที่ดังเล็ดลอดมาจากนาฬิกา เป็นเสียงของท่านยมทูตนั่นเอง
“นี่ท่านคิดว่าข้าเป็นคนเช่นไรกัน ท่านยมทูต แล้วงานของท่านไปถึงไหนแล้ว ข้าบอกท่านไว้ก่อนเลยว่า ห้ามแอบไปอี๋อ๋อกับนางของข้า ไว้ว่าง ๆ ข้าจะไปหาพวกนาง” กุมภัณฑ์ส่งเสียงเขียวให้กับอีกฝ่าย
“เออ ๆ ข้ารู้แล้ว ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำไมเพิ่งจะติดต่อเอาป่านนี้ รู้หรือไม่ว่านายท่านรอข่าวคร่าวจากเจ้าจนไม่เป็นอันทำอะไร” เสียงจากปลายสาย หน้านิ่วคิ้วขมวดเป็นปม เพราะถูกนายท่านของตนจี้งานจากเขา ที่ส่งกุมภัณฑ์ไปยังโลกมนุษย์
“ท่านยมทูตที่เคารพขอรับ นี่มันโลกมนุษย์ ทำอย่างกับว่าท่านไม่เคยมาซะอย่างนั้น กว่าข้าจะพบนาง เกือบพลิกแผ่นดินหา ท่านให้แค่ชื่อและนามสกุลมา แม้แต่รูปภาพ ภาพถ่าย หรือภาพเสมือน ท่านก็ไม่มีให้ แล้วข้าจะรู้อันใดกันว่านางมีหน้าตาเป็นเช่นไร” กุมภัณฑ์สวดชายผู้นั้นอีกยกใหญ่
“ข้าเบื่อที่จะฟังเจ้าบ่น ข้าไปล่ะ” ว่าแล้วปลายสายก็หายไป
“ดะ เดี๋ยว ๆ ไอ้ท่านยม แล้วแบบนี้ข้าจะรู้ได้เยี่ยงไร ว่าต้องไปพำนักที่ใดกัน” กุมภัณฑ์สบถอย่างหัวเสีย เมื่อหน้าจอนาฬิกากลับมาเป็นดังเดิม
กุมภัณฑ์เป็นชายหนุ่มรูปงามมีเสน่ห์ในตัว ไม่ว่าจะเป็นหางคิ้วที่งอนขึ้นเหมือนยักษ์ ไหนจะเขี้ยวที่มีอยู่สองซี่ซ้ายขวา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขา ร่างกายสูงใหญ่ ดวงตาดุ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา จมูกโด่งเป็นสัน สีผิวเข้ม แต่ถ้าใครมาเห็นชายหนุ่มผู้นี้จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาเหมือนยักษ์ในวรรณคดีไม่มีผิดเพี้ยน แต่แตกต่างกันที่รูปร่าง หน้าตา และนิสัยใจคอ
ตื๊ด ตื๊ด
เสียงข้อความดังกล่าวจากนาฬิกาเมื่อสักครู่ ตอนนี้ได้ปรากฏตัวอักษรบนหน้าจอของนาฬิกา บอกที่อยู่พร้อมกับถนนหนทางว่าควรจะไปทางไหน จากนั้นเขาก็เดินหายไปจากซอกซอยมหาวิทยาลัยที่โมรากำลังศึกษาอยู่
“เห้อ!!! กว่าจะถึงที่พัก ว่าแต่ลุงคนนั้นเขาชื่ออะไร แล้วทำไมจู่ ๆ มายืนอยู่ข้างฉัน ก็ตอนที่ฉันหาที่หลบฝน ก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลยนี่น่า” โมราห์ได้แต่พึมพำกับตนเอง หลังจากที่กลับมาถึงห้องพัก ที่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยมากพอสมควร จนเวลาล่วงเลยจนมืดค่ำ
โมราห์ได้ถอดเสื้อผ้าที่เปียกโชกออกจนหมด เหลือแต่เพียงร่างกายที่เปลือยเปล่า พลางก้าวขาไปยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ ๆ เธอทำแบบนี้จนเป็นกิจวัตประจำวัน และอีกอย่างเป็นห้องส่วนตัวของเธอเอง
ห้องพักที่โมราห์อาศัยเป็นคอนโดฯ ขนาดกลาง มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัว แยกออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน
โมราห์เป็นแค่สาวบ้านนอกที่มาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ดีหน่อยที่ว่าเธอทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วย แต่เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันหยุดของเธอ เลยไม่ต้องเตรียมตัวออกไปทำงานเหมือนทุกที
เก๊ก เก๊ก เก๊ก
เสียงมีคนกำลังไขกุญแจอยู่หน้าห้องหลังจากที่โมราห์ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำเพียงไม่กี่ก้าว ใบหน้านิ่วคิ้วขมวดเป็นปม เธอสงสัยว่าเป็นใครกัน เธอคงหูแว่วไปเอง อาจจะเป็นห้องข้าง ๆ ก็ได้ ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินกลับเข้าห้องนอน เพื่อไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย
เก๊ก
เสียงปลดล๊อกของประตูดังขึ้น พร้อม ๆ กับมือหนาใหญ่เปิดประตูออกกว้าง ๆ เผยให้เห็นห้องที่มีขนาดกลาง ที่ประจักษ์อยู่หน้าของเขา
“ไม่เลวเลยแหะท่านยม แบบนี้ข้าคงได้หาสาว ๆ มาปรนเปรอไม่มีเบื่อแน่ ๆ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าของกุมภัณฑ์ พร้อมกับความคิดอกุศล