“อ๊า! อ๊ะ! อืม” เสียงร้องครางของหญิงสาวผู้นั้นบ่งบอกว่าเธอเสียวซ่านขนาดไหน
ริมฝีปากบางที่แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีแดงสด กำลังขบเม้มเข้าหากัน แขนเรียวยาวกอดรัดเข้าไปที่ลำคอของกุมภัณฑ์อย่างเสน่หา พลางขยับร่างกายตอบรับกับแก่นกายของเขาที่กำลังกระแทกใส่เธอไม่ยั้ง เหมือนกับว่าเขาไปอดอยากมาจากไหนถึงมาลงที่เธอ
ในระหว่างที่กุมภัณฑ์กำลังกระแทกแก่นกายเข้าหาเธอ เขาโน้มตัวลงไปหาหญิงสาว พร้อมกับประกบริมฝีปากเข้าหากัน จากนั้นพวกเขาทั้งคู่แลกลิ้นกันไปมาจนเป็นเกลียวคลื่น ในขณะที่ร่างกายส่วนล่างกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ
ลมหายใจต่างฝ่ายต่างก็เป่ารดใส่กัน อย่างไม่มีใครยอมใคร แขนของกุมภัณฑ์ค่อย ๆ เลื่อนขึ้นจากเอวคอดมาวางบนเนื้อเนินอกงาม ๆ ที่ใหญ่พอดีกับมือของเขา
เขาบรรจงบีบจนแน่น พลางขยับแก่นกายเข้าออกด้วยความถี่มากขึ้น เพียงแค่นั้นกุมภัณฑ์ก็ถอนริมฝีปากออกจากหญิงสาวคนเดิม ก่อนจะค่อย ๆ ยืดตัวเต็มความสูงของตนเอง พลางบีบขาของเธอเข้าหากันและดันขาของเธอไปด้านหน้า เผยให้เห็นอวัยวะสองชิ้นที่กำลังเล่นกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างออกรส
พลับ! พลับ! พลับ!
ปับ! ปับ! ปับ!
“อ๊าสสสส อ๊ะ! อ๊า!” เธอร้องครางด้วยความเสียวซ่านที่แล่นผ่านจากร่างกายของเขาถึงร่างกายเธอ
มือหนาใหญ่ปล่อยให้ขาเรียวยาวออกเป็นอิสระ ทว่าเขาหญิงสาวกลับใช้แขนทั้งสองข้างคล้องเข้าไปที่ข้อพับหัวเข่า เพื่อต้องการให้เขาได้กระแทกเธอให้ลึก ๆ
กุมภัณฑ์เอื้อมแขนทั้งสอง ขยำเข้าไปที่อกงาม ๆ กำลังกระเพื่อมไปตามจังหวะที่เขากำลังกระแทกใส่เธอด้วยไฟราคะที่เขาเก็บกดมานาน
ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างบดขยี้ไปที่ยอดอกอย่างรุนแรง จนหญิงสาวดังกล่าวเชิดคางขึ้นสูง พลางขบเม้มริมฝีปากจนแน่น
“อ๊า! อ๊ะ! อ๊าสสส” เธอร้องเสียงครางจนแหบแห้ง เพราะเธอไม่เคยโดนของผู้ชายคนไหนที่กระแทกแดกดันเธอจนจุกได้ขนาดนี้
กุมภัณฑ์กระแทกแก่นกายด้วยความถี่มากขึ้น จนร่างกายของเขาเกร็งเข้าหากัน จากนั้นเพียงไม่นานชายหนุ่มก็ถอดแก่นกายออกมาจากร่างกายของหญิงสาว พร้อมกับพ้นพิษใส่เธอ จนเปรอะเปื้อนเกือบทั่วร่างกาย
จากนั้นหญิงสาวก็ลุกขึ้นนั่งพลางใช้ริมฝีปากเลียเข้าไปที่แก่นกายของเขาอย่างชำนาญ เธอใช้เวลาแค่เพียงไม่นานที่ทำความสะอาดแก่นกายของเขาจนเสร็จสิ้น
เมื่อกุมภัณฑ์เสร็จภารกิจเรียบร้อยแล้ว เขาสาวเท้าไปใส่เสื้อผ้าแทบจะทันที
“ไม่อยู่ต่ออีกหรือคะ พี่ชาย” เสียงแหลมแสบแก้วหูของพิมพ์ขวัญที่เปิดปากถาม เมื่อเขานั่งลงบนขอบเตียงในขณะที่กำลังใส่กางเกงให้เรียบร้อย
หญิงสาวขยับร่างกายพร้อมกับเอาคางเกยไหล่ของกุมภัณฑ์ พลางใช้ปลายลิ้นชอนไชไปทั่วลำคอ
“ไม่ล่ะ ฉันมีธุระไปที่อื่น ว่าแต่ ขอบคุณนะ ที่พามาเลี้ยงอาหารมื้อค่ำรสเด็ด” ว่าแล้วเขาก็หอมแก้มเธอไปหนึ่งฟอดใหญ่ ทำเอาเธอที่ถูกชายหนุ่มหอมแก้ม เคลิ้มจนร่างกายอ่อนปวกเปียก
“ก็ได้ค่ะ วันไหนอยากกินอาหารค่ำรสเด็ดมาได้เสมอเลยนะคะ ห้องของพิมพ์ขวัญยินดีต้อนรับค่ะ” หญิงสาวตะโกนไล่หลังบอกเขาที่สาวเท้าออกจากห้องที่กำลังปิดประตูห้องพักให้เธอ
พิมพ์ขวัญคือผู้หญิงที่กุมภัณฑ์เจอในช่วงเย็น ระหว่างที่เขากำลังเดินไปยังสถานที่ดังกล่าวตามพิกัดที่ท่านยมทูตให้มา ทว่าจู่ ๆ กับมีผู้หญิงบังเอิญสะดุดก้อนหินแถวนั้นล้มลงไปกองกับพื้น และนั่นทำให้ทั้งสองได้สานสัมพันธ์กันที่เตียงนอน
“ท่านยม รบกวนท่านส่งพิกัดที่นางทำงานให้ข้าได้หรือไม่” กุมภัณฑ์ที่สาวเท้าออกมาจากตึกดังกล่าว พลางติดต่อไปยังยมโลก
“เจ้า!!!” เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากไรฟันของท่านยมทูต ด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “ข้ากำลังเข้าได้เข้าเข็มกับภรรยาของข้า เจ้าไม่ดูเวล่ำเวลาบ้างหรือไรกัน” ยมทูตที่ร่างกายเปลือยเปล่า แต่กุมภัณฑ์เห็นแค่ท่อนบนเท่านั้น
“ข้าขอโทษท่านแล้วกัน งั้นข้าจะให้เหล่าสามงามของข้าปรนเปรอท่านแทนดีมั้ย” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าของกุมภัณฑ์
“ข้ารอคำนี้จากเจ้ามานานแล้ว กุมภัณฑ์เจ้ารู้หรือไม่ว่า พวกนางอ่อยข้าแทบทุกวัน ข้าจึงต้องปลดปล่อยความเป็นชายกับภรรยาของข้าแทน จนนางบ่นข้าจะแย่แล้ว” ท่านยมทูตมีสีหน้าดีอกดีใจ แต่ดีหน่อยที่ว่าท่านยมทูตออกมาคุยให้ห่างจากภรรยาของเขามากพอสมควร
“ท่านอายุปูนนี้ยังไฟแรงไม่เปลี่ยน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวล่ะ และท่านเองอย่าลืมส่งพิกัดนางมาด้วย” สิ้นเสียงเขาก็ตัดสัญญาณทันที
“นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป ไอ้เจ้ากุมภัณฑ์เอ่ย ลาภมาเยือนข้าแล้ว” ท่านยมทูตบ่นพึมพำกับตนเอง พลางสาวเท้าไปหาภรรยาที่นอนรอคอยสามีอย่างตน
“ไหนว่าจะมารอรับหนูไง นี้กลายเป็นว่าหนูต้องมารอพี่กุมภ์เสียเอง รู้ไหมว่ามันเสียเวลานะคะ” เจ้าตัวบ่นอุบอิบเหมือนหมีกินผึ้ง
“ก็มารับแล้วนี่ไง จะบ่นอะไรนักหนาหา” เขาเดินตามหลังโมราห์ที่สาวเท้าเดินอย่างไว
“นี่มันดึกแล้วนะ ไม่มีรถประจำทางผ่านแล้ว นอกจากขึ้นแท็กซี่ เปลืองตังค์ก็เปลือง” โมราห์หยุดเดินแล้วเอี้ยวตัวหันไปหาคนตัวใหญ่พลางเอาแขนเท้าเอวเอาไว้