ตอนที่4

1370 คำ
“นายว่าเป็นไงบ้าง” หลังจากเปลี่ยนชุดเปลี่ยนชุดเสร็จ ฉันเลยออกมาหมุนไปหมุนมาตรงหน้าจอมทัพอย่างไม่ค่อยมั่นใจ “ก็ดี...เหมือนป้าดี” “เหอะ นั่นฉันจะไปเปลี่ยนกลับเป็นตัวเดิม” ไม่ทันที่ฉันจะได้เดินกลับเข้าไป มือหนาขออีกคนก็คว้าข้อมือฉันไว้เสียก่อน “ฉันว่าฉันบอกเธอไปแล้วนะ” ฉันกรอกตามองบนอย่างเซ็งๆ “นายจะมาวุ่นวายอะไรกับฉันนักหนา” “มันเป็นหน้าที่” เฮ้อ อยากจะถอนหายใจสักพันรอบแต่ก็เอาเถอะ ฉันว่าใส่กระโปรงยาวแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน รู้สึกปลอดภัยดี “หลังเลิกเรียนฉันจะรอที่รถ หวังว่าเธอคงไม่โง่ขนาดเดินไปตึกเรียนไม่ถูกนะ” “ย่ะ นายจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันเหม็นขี้หน้านายจะแย่” “หึ หึ” จอมทัพยกยิ้มมุมปาก เขาผลักหัวฉันก่อนจะเดินแยกออกไป ไอบ้านี่ ผมยุ่งหมด ตอนเย็น ติ๊ด ติ๊ด จอมทัพเหล่มองฉันด้วยหางตานิดนึงเหมือนรำคาญเสียงโทรศัพท์ฉันก่อนนะหันไปขับรถต่อ “ฮัลโหลค่ะ” “....” “เอ่อ ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่านี่ใครคะ” “....” “ยังไม่ได้กินค่ะ” หมับ จอมทัพดึงมือถือออกจากมือ เขากดปิดเครื่องก่อนจะโยนมันไปเบาะด้านหลัง “พวกไก่แจ้อยากกินเด็ก เธอตามพวกนั้นไม่ทันหรอก” “ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ!” “การที่หน้าอกเธอใหญ่เกินตัว ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเธอโตแล้วหรอกนะ” มือทั้งสองข้างยกขึ้นปิดหน้าอกตัวเองโดยอัตโนมัติ ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าของตัวเอง “นายมัน นายคนนิสัยไม่ดี” “หึ ขอบคุณ” อร๊าก สักวัน สักวันฉันจะเอาคืนเขาให้ได้คอยดู >_< ฉันเหลือบมองนาฬิกาเป็นรอบที่ร้อย นี่ก็จะทุ่มนึงแล้วทำไมพวกพี่เขายังไม่มากันอีกหมายถึงเพื่อนจอมทัพหนะ หิวโว้ย หิวจะตายอยู่แล้ว ไม่รงไม่รอมันแล้วลงไปหาอะไรกินหน้าคอนโดดีกว่า “นั่นเธอจะไปไหน” ทันทีที่ฉันลุกจากโซฟา คนที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่โซฟาถัดไปก็ทักขึ้น “หาไรกิน หิวจะตายแล้ว” “ด้วยชุดนี้?” จอมทัพมองฉันขึ้นลงด้วยสายตาเหยียดนิดๆ ทำไมอะ ก็แค่เสื้อกร้ามสีเทาทรงย้วยๆกับกางเกงผ้าขาสั่นสบายๆ มันจะอะไรนักหนา “ฉันไปแค่หน้าคอนโด นายจะให้ฉันขุดชุดราตรีมาใส่รึไง” “นั่งลง ไอพวกนั้นกำลังขึ้นมาแล้ว” “แต่...” ติ๊งน๊อง ติ๊งน๊อง “พวกพี่เขามาแล้วแน่เลย” คิดได้อย่างนั้น ฉันเลยรีบวิ่งตรงไปยังประตูแต่ไม่ทันที่จะได้เปิด จอมทัพก็ดันมาขวางไว้อีก “ไปเปลี่ยนชุด เดี๋ยวเปิดเอง” “อะไรของนายนักหนา ถอยไป หิว” “เวนิสไปเปลี่ยนชุด” “ไม่!!!” ฉันยื่นคำขาดก่อนจะรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักจอมทัพให้พ้นทางแล้วรีบเปิดประตูออก “ไฮ อะ... 0.0” “สวัสดีค่ะทุกคน พี่หนึ่งซื้อผัดไทมาให้เวนิสรึเปล่าคะ” “เอ่อ อะ... นี่ครับ” พี่หนึ่งยื่นผัดไทมาให้ฉันด้วยมือสั่นเล็กน้อย อาการเขาไม่ต่างจากพี่อีกสองคนที่เอาแต่จ้องฉันแต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่ได้สนใจจะถามอะไรเพราะหิวมากกกก “น้องเวนิสจะดื่มกับพวกพี่ไหมครับ” เสียงพี่เบย์ตะโกนถามฉันดังมาจากห้องรับแขก ฉันเลยถือจานผัดไทออกจากครัวไปร่วมวงกับพวกเขา “ไม่ดีกว่าค่ะพี่เบย์” “เหอะ อย่างยัยเด๋อนี่แก้วเดียวก็ล้มแล้วมั้ง” เคยบอกรึยังว่าคนอย่างเวนิส ฆ่าได้หยามไม่ได้ ฉันวางจานผัดไทลงก่อนจะหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นกระดก “เฮ้ย!!” X3 “เหอะ อวดเก่ง” สรุปจากตอนแรกที่ฉันคิดว่ากินผัดไทจะเข้าห้อง อาบน้ำ นอน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าฉันต้องมานั่งรวมวงกับพวกพี่แทน “พรุ่งนี้วันเสาร์ ไปไหนกันดีวะ น้องเวนิสอยากไปไหนรึเปล่า เราพึ่งกลับมาไทยไม่ใช่หรอ” พี่เบย์หันมาถามฉัน ฉันเลยได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ บอกตามตรงว่าตอนนี้ ฉันเองก็เริ่มมึนๆแล้วเหมือนกัน พรึบ จอมทัพหายออกไปจากวงสักพักก่อนจะกลับมาพร้อมผ้าห่ม เขาลงมานั่งข้างฉันเหมือนเดิม “ขอด้วยดิ” ฉันสะกิดแขนเขาพลางดึงผ้าห่มมาห่มตัวเองด้วย น่าแปลกที่ครั้งนี้เขาแบ่งผ้าห่มให้ฉันโดยดี เวลาผ่านไปสองชั่วโมง พวกพี่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ส่วนฉันนั้นบอกได้เลยว่ามึนมา หัวฉันแทบไม่มีแรงตั้งตรง ตอนนี้เลยได้ใช้ไหล่คนด้านข้างเป็นที่พึ่งแทน (จอมทัพ) ผมขยับไหล่ให้ยัยเด๋อนี่นอนได้ถนัดขึ้นก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่มและก็เจอกับสายตาจับผิดของเพื่อนสามตัว “อะไร?” “กูถามจริงเถอะ มึงคิดอะไรกับน้องเวนิส” คำพูดของไอเมฆทำให้ผมต้องหยิบขนมแถวนั้นปาใส่มัน ดีนะที่เวนิสหลับไปแล้ว “ไอจอมทัพมึงมีอะไรไม่บอกพวกกู” ไอเบย์ส่งสายตาจ้องจับผิดอีกคน คราวนี้ผมเลยหันหน้าหนีไปอีกทาง ยกเหล้าขึ้นกระดกทำเป็นไม่สนใจ “เหอะ มาแบบนี้ ถามไปก็คงไม่มีประโยชน์หรอก” หนึ่งพูดออกมาอย่างรู้ทัน ผมทำเป็นไม่สนใจพวกมัน เปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องอื่นแทน พวกผมดื่มกันต่ออีกพักใหญ่จนกระทั่งเกือบตีหนึ่งพวกมันก็แยกย้ายกันกลับบ้าน บอกตามตรงว่าผมเองก็เริ่มมึนแล้วเหมือนกัน “เหอะ หลับสบายเลยนะ” ผมก้มลงพูดกับคนตัวเล็กบนตัก ครั้นจะปลุกให้ตื่นก็กลัวตื่นมาโวยวายอีก ผมเลยตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นแทน “แมร่ง!” ไม่รู้ผมลุกเร็วเกินไปหรือเพราะเมาเลยทำให้ผมเซเล็กน้อยและทันทีที่เวนิสไร้ผ้าห่มปกคลุม ผิวขาวอมชมพูของเธอทำเอาใจผมแทบหยุดเต้น “เหอะ ไม่เห็นน่ามองตรงไหน” ผมสูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งก่อนจะอุ้มเธอไปส่งในห้อง พรึบ พอถึงเตียงนอนเธอ ผมก็โยนเธอลงบนเตียงอย่างไม่ใยดี เสื้อกรามย้วยๆเวรนั่นก็ย้วยซะจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน กางเกงขาสั้นนั่นอีก เธอไม่รู้รึไงว่าการแต่งตัวของเธอมัน เหอะ ช่างเถอะ อันที่จริงมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม หมับ “เฮ้ย” มือเล็กฉุดผมให้นอนลงบนเตียงก่อนเธอจะลุกขึ้นคร่อมผม “นอนด้วยกันก่อน เอิ้ก” หัวใจผมเต้นรัวเร็วแทบจะเป็นจังหวะสามช่า ยิ่งตอนที่เธอขยับตัวไปมาบนอกผมอย่างเชื่องช้า ผมก็ยิ่งหอบหายใจถี่ขึ้น “ทำอะไรของเธอ อ๊า” ดเหมือนว่าคนเมาบนตัวผมจะซนกว่าที่คิดเพราะอยู่ๆเธอก็เลื่อนมือไปถูไถตรงเป้ากางเกงผม “อยากลอง อิอิ ได้มั้ยคะ” ตาผมเบิกกว้างแทบทันที เมื่อได้ยินคนตัวเล็กพูด เธอส่งสายตาหวานเยิ้มแกมออดอ้อนมาให้ผม ให้ตายเถอะ ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะเว้ย ถึงจะทนอะไรแบบนี้ได้ “ลงไป” ผมกัดฟันพูดอีกครั้งแต่ครั้งนี้เหมือนจะหนักกว่าเดิม นอกจากเวนิสจะไม่ยอมย้ายออกจากตัวผมแล้ว เธอยังถอดเสื้อกร้ามทิ้งอีกด้วย “ด้านในมันร้อนไปหมดเลย” ภาพตรงหน้าทำเอาผมถึงกับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ มือเล็กยกขึ้นบีบหน้าอกอวบอิ่มของตัวเองไปมาก่อนจะจับมือผมไปบีบมันเล่นด้วย “เวนิส” ผมเรียกชื่อผู้หญิงตรงหน้าเสียงเบา ตอนนี้ผมแทบไม่เหลือสติจะยับยั้งตัวเองแล้วด้วยซ้ำ ————
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม