ตอนที่ save you 1
Save you
ตอนที่ 1
“กรี๊ด นายจอมทัพ!”
“โอ๊ย หูจะแตก เธอจะแหกปากทำไมวะ”
หน็อย ยังมีหน้ามาอารมณ์เสียใส่ฉันอีกนะ ฉันเดินก้าวฉับๆเข้าไปหาร่างสูง เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่คนคลั่งไคล้กันทั้งมหาลัย เหอะ ไม่รู้ยัยพวกนั้นชอบไปได้ยังไง ถึงตอนเจอครั้งแรก ฉันจะตะลึงในความหล่อของเขาก็ตามแต่ฉันตะลึงแค่สองวิเท่านั้น สาบานได้เพราะเมื่อเขาเปิดปาก ฉันก็เกลียดเขาทันที
“นายเอาบ็อกเซอร์เน่าๆของนายมาทิ้งไว้ในห้องน้ำได้ยังไงยะ”
ฉันยืนเท้าเอวมองเขาพลางยื่นบ็อกเซอร์ไปให้เขาด้วยท่าทางรังเกียจแต่นายนั่นกลับเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะคว้าบ๊อกเซอร์ตัวเองไปแล้วพูดขึ้นหน้าตาย
“เออ หาอยู่พอดี ขอบใจ”
การกระทำไร้ยางอายของเขาทำเอาฉันถึงกับยืนมองตาค้าง
“หลบดิ คนเล่นเกมส์อยู่ไม่เห็นรึไง”
จอมทัพใช้เท้าถีบฉันออกให้พ้นทาง ฉันนับหนึ่งถึงสิบในใจพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไว้
ไม่ให้กระโดดงับหัวเขา ท่องไว้เวนิส อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ อย่าเอา... โว๊ย ไม่ไหวแล้วโว๊ย
“โอ๊ย ยัยบ้า ออกไป ทับมาได้ตัวใหญ่อย่างกับช้าง”
เพี๊ยะ เพี๊ยะ!
“ฉันบอกให้หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ นายรู้มั๊ยตลอดระยะเวลา 2 วัน 2 ชั่วโมง 2 นาที 22 วินาทีที่ฉันต้องทนอยู่กับนายมันเหมือนตกอยู่ในนรกขนาดไหน”
ฉันว่าพลางพยายามจะงับหูเขา (เขาตัวใหญ่ทำได้แค่นี้ -_-)
“แล้วเธอคิดว่าฉันมีความสุขรึไง ที่ต้องทนอยู่กับคุณหนูเอาแต่ใจอย่างเธอ แมร่ง ผู้หญิงอะไร วีนได้ทั้งวัน”
“นี่นายว่าฉันหรอ!”
“เออ”
และมวยปล้ำขนาดย่อมระหว่างฉันกับนายจอมทัพก็เริ่มต้นขึ้น
เขาล็อกซ้าย ฉันล็อกขวา เขาขึ้นบน ฉันลงล่าง เอ๊ะ ทำไมฝั่งดูแปลกๆวะ
ปัง !
เสียงเปิดประตูทำให้เราทั้งคู่ที่กำลังฟัดกันอยู่หันไปมองพร้อมกัน
“เอ่อ แฮะๆ ฉันขอโทษเดี๋ยวมาใหม่ก็ได้”
พี่หนึ่งเพื่อนของจอมทัพยิ้มอ่อนๆมองมายังพวกเราด้วยสายตาแปลกๆ
ฉันและจอมทัพหันมองหน้ากัน เมื่อเห็นว่าสภาพเราของคนเหมือนคนกำลัง... ไม่อยากอธิบายพวกฉันเลยรีบผลักออกจากกันทันที
“ไม่ต้อง มึงมีอะไรวะไอหนึ่ง”
นายจอมทัพพูดพลางปัดเสื้อตัวเองด้วยท่าทางเหมือนรังเกียจที่โดนตัวฉัน
“ก็ไม่มีอะไรหรอก พอดีกูเอาชุดนักศึกษามาให้น้องเวนิส”
ฉันรับชุดนักศึกษาจากพี่หนึ่งก่อนจะขอบคุณเขา นี่สิถึงเรียกว่าคนดี
ทำไมพ่อไม่ให้คนดีๆแบบพี่หนึ่งมาดูแลฉันนะ ส่งคนนิสัยเสียอย่างนายจอมทัพมาได้ยังไง
ทุกคนคงสงสัยว่าฉันเป็นใครและนายจอมทัพเป็นใคร
อะแฮ่ม เดี๋ยวน้องเวนิสคนนี้จะเล่าให้ฟังนะคะ
ฉันชื่อว่า เวนิส เป็นลูกสาวคนสุดท้องของเจ้าสัวพากร ฉันเกิดที่เมืองไทยแต่พออายุสิบขวบ ฉันก็ถูกส่งไปอยู่อเมริกาจนกระทั่งเรียนจบมัธยม
ฉันเลยขอร้องป๊ากลับมาอยู่เมืองไทยและสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อป๊ายื่นคำขาดว่าหากฉันอยากกลับมาอยู่เมืองไทย ฉันต้องมีคนคอยดูแลหรือเรียกง่ายๆว่าบอดี้การ์ดนั่นเอง
และคนที่ได้มาเป็นบอดี้การ์ดฉันคือนายจอมทัพ ผู้ชายที่นิสัยแน่ที่สุดในโลกนี่แหละแต่คุณอย่าคิดนะคะว่าความซวยของฉันจะจบเพียงเท่านี้ ยังมีอีกค่ะ
ตอนแรกฉันตอบตกลงไปเพราะคิดว่ายังไงฉันสามารถหนีเขาได้แน่แต่อะไรเกิดขึ้นรู้มั๊ยคะ
ฉันกลับต้องมาอยู่คอนโดเดียวกับนายจอมทัพแค่จะกระดิกตัวยังทำไม่ได้เลย TT
“น้องเวนิสโอเคกับชุดใช่มั๊ยครับ”
พี่หนึ่งหันมาถามฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงอ่อนโยน ฉันเลยยิ้มหวานกลับไปให้เขา
ฉันหยิบชุดนักศึกษาขึ้นมาดู ชุดก็โอเคนะเหมือนชุดนักศึกษาทั่วไปที่ฉันเห็นเขาใส่กันแต่ทำไมกระโปรงมันยาวแบบนี้ล่ะ
“เวนิสว่ากระโปรงมันยาวไปนิดนะคะ”
“เหอะ อยากใส่สั้นๆทำไมไม่ใส่กางเกงในไปเลยล่ะ”
ปากเสียที่สุด ฉันหันไปจ้องเขม็งจอมทัพก่อนจะหันไปพูดจาออดอ้อนพี่หนึ่ง
“พี่หนึ่งพาเวนิสไปซื้อใหม่หน่อยได้มั๊ยคะ ใส่แบบนี้มันป้ามากเลยอะ”
พี่หนึ่งชะงักเล็กน้อยแต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรกลับมีเสียงแข็งๆของคนที่ฉันไม่อยากจะเสวนาด้วยขัดขึ้น
“ไม่ต้องไปอ้อนไอหนึ่งหรอก มันไม่ว่างตามใจเธอ”
“ฉันขอนายรึไง พี่หนึ่งยังไม่เห็นพูดสักคำ”
“ก็บอกอยู่นี่ไงวะ ว่าไอหนึ่งไม่ว่าง”
ฉันและจอมทัพจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนพี่หนึ่งต้องเข้ามาแยกเราสองคน
“เอาล่ะไปกันหมดนี่แหละ ไม่ต้องทะเลาะกัน”
“เหอะ/เชอะ”
ฉันและจอมทัพสะบัดหน้าใส่กันก่อนที่ฉันจะแยกออกไปแต่งตัว
คอยดูนะ ฉันจะใส่ร้ายนายจอมทัพให้ป๊าฟังว่าเขาเป็นบอดี้การ์ดที่แย่มาก ให้โดนไล่ออกไปเลย ชิ
ไม่นานรถเบนซ์สีดำก็ขับมาจอดตรงหน้าฉัน ดูเอาเถอะ บอดี้การ์ดบ้าอะไรขับเบนซ์ น่าหมั่นไส้ที่สุด
ฉันยืนรอให้นายจอมทัพลงมาเปิดประตูให้อย่างที่เขาควรทำแต่นายนั่นกลับลดกระจกแล้วพูดเสียงเบื่อหน่าย
“ยืนรอให้ใครจุดธูปวะ ขึ้นมา แล้วมานั่งด้านหน้านะ ฉันไม่ใช่คนขับรถ”
ฉันได้แค่อ้าปากพะงาบๆอยากจะด่าเขากลับแต่คิดคำด่าไม่ออก
สุดท้ายฉันเลยต้องจำใจเปิดประข้างคนขับขึ้นไปนั่งเอง
“พี่หนึ่งล่ะ”
“มันมีธุระต่อ มันเลยเอารถไปเอง”
ฉันพยักหน้าเข้าและไม่ทันที่ฉันจะได้คาดเข็มขัด จอมทัพก็ออกรถ ทำเอาหน้าฉันชนคอนโซลรถด้านหน้าเสียงดัง ปั๊ก
“นายจอมทัพ!!”
“หึหึ โทษทีเครื่องมันแรง”
————-