จดหมายฉบับแรกมาถึงแล้ว

1429 คำ
“หล่อนะเนี่ย เหมือนพ่อ เชื้อไม่ทิ้งแถว ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น” หยกชมลูกชายคนเล็ก ซึ่งไปทำรอยบากบนคิ้วมาข้างหนึ่ง ดูเท่ ดูคูล เขาไม่ได้พบกับฉลามหนึ่งเดือนเต็มหลังจากลูกเปิดเทอม และฉลามใช้ชีวิตอยู่ที่หอใกล้มหาวิทยาลัยโดยไม่กลับบ้าน ฉลามกลับมาบ้านเมื่อวาน แต่หยกเพิ่งได้เจอ เพราะตนเองเพิ่งกลับจากภูเก็ต มาถึงปุ๊บเห็นลูกๆ ทั้งสามอยู่พร้อมหน้า รวมทั้งลูกเขย และเมีย ก็ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเข้าร่วมวงกินข้าวด้วย ชีวิตนี้หยกไม่ต้องการอะไรแล้วนอกจากครอบครัวที่มีความสุข “น่าว่าฉลามหล่อเหมือนลุงทะเล เหมือนพี่ต้าร์ แล้วก็เหมือนลุงหมอมากกว่านะ ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนลูกครึ่ง” ทูน่าจับคางแบลซ มองซ้ายมองขวา หลงใหลในความหล่อแบบแบดๆ ของสามี หยกตวัดค้อนใส่ลูกสาวที่ยักคิ้วกวนประสาทพ่อ แต่ก็มีคนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ทูน่าพูดเช่นเดียวกับหยก “น่าจ๊ะ แม่นี่ไงลูกเสี้ยว ยายของน่าเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ฉลาม ทูน่า และแซลม่อนโตขึ้นมาถึงได้มีเค้า” แอนนาท้วงลูกสาว “ฉันนึกว่าเธอจะพูดได้ดีกว่านี้ แต่หล่อไม่หล่อ อย่างน้อยวันแรกที่เราเจอกัน เธอก็ไล่จีบฉันแล้วกันละ” แอนนาอายม้วนเมื่อหยกเอาความหลังมาพูด เธอยิ้มหน้าแดง ก้มหน้างุด มือบางจึงถูกหยกจับมากุมไว้บนตัก วันเวลาไม่ได้ทำให้ความรักที่เขามีให้แอนนาลดลงเลย ถึงแม้ฐานะของพวกเขาจะจัดว่าอยู่ในระดับเศรษฐี มั่นคง มีเหลือกินเหลือเก็บโดยที่ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ลูกๆ ก็มีกิจการรอให้เข้าไปนั่งบริหาร แต่เขากับแอนนายังมีความสุขกับการทำงาน เพียงแต่ไม่ได้หักโหมเหมือนแต่ก่อน แค่ให้ชีวิตได้มีการขับเคลื่อน เพื่อรับรู้เรื่องของโลกภายนอก และเป็นต้นแบบให้กับลูกๆ นอกจากเงินรายเดือนที่ได้จากพ่อแม่แล้ว หากอยากได้อะไรเป็นพิเศษก็ต้องหางานพิเศษทำ “พ่อก็หล่อครับ แต่น้อยกว่าพวกผมนิดเดียว” แซลม่อนพูดเสียงเรียบขณะตักแกงส้มชะอมไข่ฝีมือของทูน่ามาใส่จานข้าว “พ่อยอมลูกเสมอ อนุญาตให้ฉลามกับม่อนหล่อกว่าพ่อได้” “แต่พ่อไม่ยอมให้ผมด้อยกว่าลุงทะเลใช่ไหมครับ” ฉลามหัวเราะ “นิดๆ หน่อยๆ ก็เอา น่าละเชื่อเลย” ทูน่าแซวพ่อขำๆ พลางตักกุ้งซอสมะขามที่ตัวใหญ่ที่สุดมาใส่จานแบลซ “ลุงเพิ่งกลับจากผ่าตัดคนไข้หนัก ยืนจนขาแข็ง อดหลับอดนอน ต้องกินของดีเยอะๆ เดี๋ยวจะได้นอนหลับยาวๆ” “ขอรางวัลอื่นก่อนนอนด้วยได้เปล่า” แบลซส่งตาหวานเยิ้มให้ทูน่า “ได้ พร้อมมาก เดี๋ยวให้พ่อเลี้ยงซาร์ดีน” ทูน่าตอบทันที “อะแฮ่ม” หยกกระแอม เลี้ยงซาร์ดีนน่ะเต็มใจ แต่เรื่องติดเรตมันจะมักมากเกินไปแล้วลูกสาวเขา “ก็เรื่องนี้แหละ น่าได้มาจากพ่อมาเต็มๆ” ทูน่าเย้าพ่อ “เอ่อ ที่พ่อบอกว่าไม่ยอมให้ฉลามด้อยกว่าลุงทะเลนี่ ลุงทะเลด้อยกว่าฉลามตรงไหนเหรอ” แบลซถามอย่างงงๆ และหันไปปลอบฉลามเพื่อไม่ให้น้องเมียเสียใจ “ขอโทษนะฉลาม ไม่ใช่ว่าฉลามมีอะไรด้อย แต่พอเอาไปเทียบกับพ่อตาของต้าร์แล้ว มันนึกไม่ออกอะ ท่านประธานสุดจริงกับทุกเรื่อง” “คนนั้นผมยกขึ้นหิ้งเลยครับพี่แบลซ เราไม่ควรเอาลุงทะเลมาเปรียบเทียบกับใครทั้งนั้น” ฉลามตักกุ้งซอสมะขามมากินเป็นตัวที่สาม “ชื่อไง ทะเลกับมหาสมุทรอะไรใหญ่กว่ากันล่ะ ทะเลคือห้วงน้ำเค็มที่กว้างใหญ่ แต่ยังไงก็ยังเล็กกว่ามหาสมุทร เพราะมหาสมุทรคือผืนน้ำทะเลขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกัน” “ก็บอกแล้วว่านิดๆ หน่อยๆ ก็เอา” ทูน่าซึ่งรู้ความนัยของชื่อจริงฉลามมาจากย่าถอนหายใจ “ลุงทะเลรู้ไหมครับพ่อ” แซลม่อน ลูกชายฝาแฝดที่ไม่ค่อยจะสนใจรายละเอียดของครอบครัวถาม “แล้วม่อนคิดว่าคนที่มีมันสมองล้นหัว มีความเจ้าเล่ห์ทุกลมหายใจแบบลุงทะเลจะตามทันไหม” “ทันครับ แต่ก็ไม่เห็นจะแกล้งพ่อกลับ” “เลิกเล่นใหญ่ แล้วตั้งชื่อลูกแฝดด้วยสิ่งเล็กๆ ที่ดูบอบบาง ละมุนละไม แต่ดันมีค่าที่สุด จับต้องไม่ได้ ทรงพลัง แม้แต่มหาสมุทรยังต้องยอมแพ้” “เวลากับนาที” แบลซเอ่ยเสียงทึ่งจัด เวลากับนาทีเกิดทีหลังฉลาม แต่เขาเพิ่งรู้ที่มาที่ไปของชื่อฝาแฝด น้องเล็กสุดของไข่มุกก็วันนี้ ตอนแรกเขาก็เอะใจอยู่บ้างกับชื่อลูกๆ ของท่านประธาน...ไข่มุก ลูกคลื่น ลูกทะเล ทับทิม เวลาและนาที ไข่มุกกับทับทิมเป็นอัญมณีเข้ากับชื่อเพชรพลอยของแม่ ส่วนลูกคลื่นกับลูกทะเลเข้ากับชื่อเอเดรียนหรือทะเลซึ่งเป็นชื่อของพ่อ แต่เวลากับนาที แบลซคิดว่าต้องมีความหมายอะไรที่ลึกซึ้งซ่อนเร้น แต่ยังไม่เคยหาคำตอบ “ใช่ เป็นไงล่ะ ท่านประธานของหมอน่ะ เป็นทั้งพระเอกและวายร้ายจนลงโลงนั่นแหละ” หยกปล่อยมือจากแอนนา และลุกจากโต๊ะ “อิ่มแล้วเหรอพ่อ น่าทำไม่อร่อยเหรอ พ่อกินไปคำเดียวเอง” ทูน่าหน้าเสีย ข้าวในจานของพ่อแหว่งไปนิดเดียวเอง “อร่อยมาก เดี๋ยวพ่อกลับมากินต่อ จะเดินไปเอาของที่รถแป๊บนึง ซื้อมาฝากขวัญเอย ทีเร็กซ์ แล้วก็ฟ้ามุ่ย จะฝากแม่เราเอาไปให้” “ผมเอาไปให้เองครับ วันนี้ตั้งใจจะไปหาสามหน่อนั่น คิดถึงเด็กๆ” ฉลามอาสา หยกพยักหน้าแล้วเดินออกไปจากโต๊ะกินข้าว “อีกปีครึ่ง ซาร์ดีนได้สองขวบ พี่จะเรียนโทบริหารแล้วก็ฝึกงานกับพี่มุก พออายุสามสิบค่อยไปดูโรงแรมของลุงทะเลที่ฝรั่งเศส ไปๆ กลับๆ แต่เน้นกลับมากกว่า” “ไม่ต้องบอกก็รู้ ว่าเน้นอยู่บ้านมากกว่า” แอนนาหัวเราะ “เป็นยังไงมั่งพอมาเป็นแม่บ้านแบบนี้” “น่าชอบนะ ได้ฝึกทำกับข้าวกับย่า เพิ่งรู้ว่าสนุก แล้วย่าก็มีเทคนิคเยอะดีด้วย แต่นี่คงสอนจนเพลีย หลับไปกับหลานแล้ว” “กุ้งซอสมะขามนี่อร่อยนะ ทำใส่กล่องไปขายที่ร้านกาแฟคอนช์เพิร์ลได้เลย” แอนนาชี้ทางให้ลูกที่ไม่ใช่การสั่งหรือบังคับ ทิ้งคำพูดไว้ให้ลูกต่อยอดความคิดเอาเอง “จริงด้วยสิ ตอนนี้ร้านกาแฟขายอาหารจานเดียวบรรจุกล่องด้วย” ทูน่าทำตาโต “เอาสิพี่น่า ถ้าพี่น่าอยากทำแค่สนุกๆ เอาตังค์มาให้ผมก็ได้” ฉลามสนับสนุน “เรื่องแน่ะ เก็บไว้ให้ซาร์ดีนเหอะ ฉลามก็ขายไข่ลวกไปสิ เนี่ย เดี๋ยวพ่อต้องสั่งไข่ไก่ให้ไม่ต่ำกว่าสิบแพ็กแน่ๆ เพราะนานๆ มาที แล้วเอาตังค์ไปไว้ไหนหมดล่ะ ขายไข่มาตั้งแต่เรียนปี 2 ป่านนี้เป็นเศรษฐีไข่ลวกแล้วปะ” ทูน่าพยักพเยิดหน้าถามน้อง “เลี้ยงเด็กมั้ง” แบลซพูดลอยๆ “ใครมากะเทาะไข่ทองคำของฉลามได้วะลุง” ทูน่าหันไปคาดคั้นสามี “ที่ไหนล่ะ พี่น่าก็เพ้อเจ้อ ไข่ผมยังอยู่ดีมีสุข” ฉลามตอบเสียเอง “โธ่ นี่ปีสี่ จะเรียนจบอยู่แล้ว ความบริสุทธิ์น่ะไม่ต้องเก็บไว้หรอก เวลาทำงานเขารับแต่คนมีประสบการณ์ ดูอย่างม่อนสิ พาผู้หญิงมาบ้านกี่คนแล้วไม่รู้” ทูน่าพาดพิงพี่ชายฝาแฝด “ไม่รู้เขียนตั้งแต่สมัยไหน เพิ่งมาถึงเอาวันนี้” หยกเดินพึมพำเข้ามา ในมือข้างหนึ่งมีข้าวของพะรุงพะรัง อีกมืออ่านจดหมายที่เพิ่งรับมาจากบุรุษไปรษณีย์ “อะไรเหรอพ่อ” ทูน่าถาม และอ่านชื่อหน้าซองจดหมายที่หยกวางลงตรงหน้าลูกสาว “คุณสมบูรณ์ รัตนสุดา นี่มันชื่อของทวด!!!” “เออสิ” หยกบอกแค่นั้นแล้วรีบเดินไปหาปรางค์ทิพย์ที่นอนหลับไกวเปลอยู่ที่ห้องรับแขก “แม่ๆๆๆ มีจดหมายส่งมาถึงปู่ ไม่รู้ส่งมากี่ชาติแล้ว เพิ่งมาถึง แล้วเขาส่งมาบ้านนี้ได้ยังไง ทำไมไม่ส่งไปสวรรค์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม