ฉันถูกมาที่บ้านคุณไฟตอนนี้ภาพนั้นยังคงติดตาจนฉันไม่อาจข่มตานอนได้เลย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นผี
“สิ่งที่คุณเห็นนั่นคือสิ่งที่ผมให้ไอ้ยิวเอาไปทิ้ง คุณเข้าใจหรือยังว่าทำไมการเอาของออกมันถึงได้ยุ่งยาก เพราะสิ่งที่ถูกสั่งมามันต้องทำให้สำเร็จ ขนาดทิ้งไปแล้วมันยังพยายามเข้าหาคุณเลย”
“ฉันกลัว ไม่เอาแล้วไม่กลับไปแล้วไม่เอาแล้วคุณฮืออ”
“สติครับ สติ อย่าเพิ่งสติแตกตอนนี้ อยู่กับผมแล้วคุณจะปลอดภัย”
“พรุ่งนี้ฉันมีถ่ายรูปโปรโมทกับพี่ผิงผิงด้วย”น้ำเสียงของแพรไหมเริ่มสั่นเพราะความกลัวไฟจึงดึงเธอเข้ามากอดเพื่อให้เธอใจเย็น
“พรุ่งนี้ผมจะไปด้วย ไม่ต้องกลัว”
กว่าจะคลายปมทุกอย่างได้ไม่แย่ก่อนหรือไง ผมว่าสิ่งที่ผมเห็นมันต้องการเอาถึงชีวิตเลยนะ
วันต่อมา
ยิวที่ตื่นมาเตรียมรถก็ต้องตกใจเมื่อแพรไหมเดินออกมาด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวแถมขอบตายังดำปี๋อีก
“คุณหนูแพรผมตกใจหมดเลยครับ”
“ยิวคุณไฟไปไหนเมื่อคืนฉันนอนไม่หลับเลย”
“ผมอยู่นี่” ผมเดินออกมาจากบ้านก็ต้องตกใจที่เห็นสภาพของคุณหนูแพรที่โทรมเหมือนคนไม่ได้นอน
“ฉันนอนไม่ได้เลย ฉันไม่มีสมาธิทำงานเลยคุณทำยังไงดีฮืออ”
“ไปนั่งข้างในก่อนไป” ผมพาคุณหนูแพรเข้ามานั่งในบ้านเธอจับมือของผมไว้แน่นผมเลยต้องยื่นอีกมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ “พกสร้อยนี่ติดตัวไว้อย่าถอดออกเด็ดขาด”
“ค่ะ”
ฉันปล่อยให้คุณไฟใส่สร้อยให้จากนั้นก็ทำสมาธิเพื่อตั้งสติก่อนจะออกไปทำงาน มาถึงฉันก็โดนพี่จีจี้บ่นจนหูชาเพราะการที่ฉันหน้าโทรมตาบวมมันทำให้ช่างแต่งหน้าทำงานกันลำบาก
“ไม่เอาแล้วนะคะคุณน้อง อย่าไปสนใจข่าวเราบริสุทธิ์ใจถึงจะมีอะไรในกอไผ่ก็ไม่ผิดค่ะ เพราะคุณไฟโสดสนิทแม้จะเคยแอบกินกับผิงผิงแต่พี่มั่นใจว่าคุณไฟแค่กินเล่น อีกอย่างผิงผิงก็มีไฮโซมาตามจีบ"
“พี่จีจี้คิดแบบนั้นเหรอะ”
“คุณน้องดูไม่ออกหรือคะ พี่มองจากดาวอังคารก็รู้ค่ะว่าคุณไฟคิดอะไร สายตาที่เขามองหนูแพรมันเป็นสายตาที่โหยหา หวงแหน พี่เห็นแล้วอิจฉา”
ฉันหันไปมองคุณอัคคีที่นั่งมองฉันแต่พอฉันหันไปก็หหลบสายตาทันที ตอนนี้เรื่องความรักฉันยังไม่พร้อมจิตใจยังฟุ้งซ่านเกี่ยวกับเรื่องการโดนของ เมื่อถึงเวลาถ่ายรูปโปรโมทวันนี้ฉันต้องถ่ายคู่กับพี่ผิงผิง สายตาเธอดูน่ากลัวจังเลย ฉันพยายามมองคุณไฟทำให้คุณไฟต้องเดินมาดูใกล้ๆ กว่าจะถ่ายได้แต่ละเซทฉันปรับอารมณ์ไม่ทันจริงๆ
เสร็จจากการถ่ายรูปโปรโมทคุณไฟก็ส่งน้ำเย็นที่พึ่งเปิดให้ฉันได้ดื่ม เฮ้ออ ค่อยยังชั่ววันนี้ไม่กล้ากินแม้แต่น้ำในกอง
“คุณจะกลับไปเก็บเสื้อผ้าไหมคุณอยู่คอนโดคนเดียวผมเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย”
“ค่ะ ฉันคงต้องรบกวนคุณแล้ว”
“ผมเต็มใจ...”
น้ำเสียงของคุณไฟทำให้ฉันรู้สึกใจสั่น อยู่กับคุณไฟมันทำให้ฉันเหมือนเป็นทอไหม ทุกการพูด ไหนจะเรื่องเสียงที่มันแทรกเข้ามาในหัวฉันอีกแต่ทำไมฉันถึงปฏิเสธเขาไม่ได้เลย มาถึงคอนโดฉันก็ต้องเก็บของด้วยความเร็วแสงแต่คุณยิวเอาผ้ายันต์อะไรสักอย่างแปะไว้ที่ประตูห้องและประตูระเบียง เราสามคนรีบลงมาที่รถเพื่อเดินทางมาบ้านของคุณไฟ
“เรือนเล็กด้านหลังผมให้คุณอยู่ อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
“ขอบคุณค่ะ รบกวนคุณอีกแล้ว”
“อย่าคิดมากเลย แม่บ้านจัดห้องไว้ให้แล้วมันอาจจะเก่าไปหน่อยแต่ผมก็ดูแลมาอย่างดี”
“ค่ะ ไม่มีปัญหาฉันอยู่ได้”
หลังจากที่คุณไฟเดินกลับไปที่เรือนใหญ่ฉันก็จัดแจงเสื้อผ้าที่ขนมาเข้าตู้ให้เรียบร้อย เรือนนี้เหมือนว่าฉันเคยเห็นที่ไหนมาก่อนหรือเห็นตอนมาครั้งแรก ช่างเถอะออกไปหาคุณไฟดีกว่า
ฉันเดินเข้ามาในเรือนใหญ่เรือนที่คุณไฟใช้พิธีตอนนี้ยิวกำลังเตรียมของสำหรับลงนะหน้าทองเหมือนครั้งแรกที่ฉันมาทำ
“อ้าวคุณหนูแพรคุณไฟกำลังเตรียมตัววันนี้จะมีดารามาลงนะหน้าทองอีกแต่ไม่ใช่เด็กของคุณจีจี้หรอกนะครับ”
“ถ้างั้นฉันกลับเรือนเล็กดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะเป็นข่าว”
“ครับ เดี๋ยวผมบอกคุณไฟให้เสร็จพิธีคุณไฟจะได้ไปหา”
//ไฟ//
ผมทำพิธีให้ดาราชายหน้าใหม่เสร็จก็รีบเดินมาที่เรือนเล็กตามคำบอกของไอ้ยิว มาถึงผมก็เห็นคุณหนูแพรกำลังนอนแช่น้ำในอ่างไม้ที่สวนด้านหลัง ดีที่วันนี้ไม่มีคนสวนไม่งั้นคงได้เห็นกันหมด แต่เดี๋ยวเธอไม่ได้ใส่อะไรเลยเหรอ
จู่ๆแพรไหมก็ลุกพรวดจากนั้นแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันจากนั้นเธอก็เดินกลับเข้าบ้านไป
“ใจเย็นลูกพ่อน้องยังเล็กนักใจเย็นๆอย่าพึ่งตื่น” ผมค่อยๆนั่งลงบนโต๊ะเพื่อระงับสติอารมณ์แต่ตอนนี้จู๋ไม่ไหวแล้วอยากร้องไห้หาแม่เหลือเกิน
“อ้าวคุณไฟมานานหรือยัง” แพรไหมเดินออกมาในชุดสีขาวกลิ่นน้ำหอมของเธอมันทำให้ไฟถึงกับเคลิ้ม
“คุณแพรไหมผมจะชวนคุณไปทานข้าว เอ่อออวันนี้คุณน่ารักจัง”
“ชิ!! ฉันไม่เคลิ้มกับคุณหรอกย่ะ!”
หนอยยย ทำเล่นตัวเดี๋ยวก่อนเถอะยังไงน้องก็ต้องเป็นของพี่อยู่ดีทอไหม อีกไม่นานพี่จะทำให้น้องกลับมารักพี่อีกคราแม่ทอไหมของพี่