5. ความฝันของนายเขื่อง

2003 คำ
ในชีวิตของนายเขื่อง หากจะมีอะไรที่ทำแล้วเกินตัวเกินฝันก็คงเป็นการแอบรักคุณหนูทับทิม ลูกสาวเจ้าสัวเกียงผู้เป็นเจ้าของบ้าน บ่าวอย่างมันไม่ได้อยู่เรือนนี้มาตั้งแต่เด็กก็จริง แต่ก็ตามตากับยายมาพึ่งใบบุญของเจ้าสัวเกียงตั้งแต่วัยนมยังไม่แตกพาน จนตอนนี้อายุย่างเข้ายี่สิบปีเลยวัยออกเรือนไปมากโขแล้ว มันก็ยังคงอยู่รับใช้เจ้านายเรือนนี้อย่างซื่อสัตย์ เรื่องลักขโมยนั้นไม่เคยอยู่ในความคิดของคนแบบไอ้เขื่อง เรื่องอุบาทว์อัปรีย์ก็ไม่เคยคิดกับเจ้านายผู้หญิง หรือกระทั่งเมียบ่าวของเจ้าสัวเกียงเหมือนบ่าวชายคนอื่นๆ เลยสักครั้ง มันเพียงแอบรักแอบชื่นชมคุณหนูทับทิมอยู่ไกลๆ ไม่ได้คิดมักใหญ่ใฝ่สูงเด็ดดอกฟ้า ซ้ำยังเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่เสมอ ทว่าทุกอย่างกลับต้องมาพังทลายเพราะเหตุการณ์เมื่อตอนบ่าย ที่มันต้องขึ้นไปอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูทับทิมกับนางรุ้งบนเรือนดอกแก้ว ยามที่คนของร้านเจ็กชอขึ้นไปประกอบตู้หนังสือ กลิ่นน้ำหอมฝรั่งของคุณหนูทับทิมนั้นยังติดจมูก เสียงหวานๆ ตอนที่โน้มกายเข้ามาอ่านหนังสือยังคงติดหู ไหนจะหนังสือนิยายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าโจ่งแจ้งที่อยู่ในห้องของคุณหนูอีก ต่อให้เธอจะบอกว่ายังไม่ได้อ่าน แต่นายเขื่องเห็นหนังสือประเภทเดียวกันวางเรียงอยู่อีกหลายเล่มในตู้ คุณหนูจะไม่ได้อ่านทั้งหมดนั้นเลยเหรอ คิดไปชายหนุ่มก็เดินไปเรื่อยๆ ทว่ากลับนึกจุดหมายไม่ออก ราวกับขาทั้งสองข้างนั้นกำลังจะพามันเดินไปสักที่โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าที่ไหน “อ๊า!” รู้ตัวอีกทีร่างสูงใหญ่ก็มาโผล่ที่ด้านหลังของเรือนดอกแก้วซึ่งเพิ่งจะไปมาเมื่อช่วงบ่ายของวัน เสียงบางอย่างที่ดังมาจากด้านในพาให้ดวงตาคมมองไปรอบๆ อย่างระวังระไว ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้อีกนิด “แฮ่ก อ๊า” เสียงนั้นเหมือนเสียงหอบหายใจบางคราวก็มีเสียงกระเส่าแว่วหวานปะปนมาด้วย นายเขื่องนั้นไม่ใช่เด็กเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มไร้เดียงสา เขาเห็นโลกมายี่สิบปีแล้วพอจะรู้อยู่ว่าเสียงแบบนั้นมันคืออะไร เสียงเหมือนผู้หญิงกำลังโดนเอาไม่มีผิด คิดได้อย่างนั้นสายตาคมกริบก็จับจ้องไปยังหน้าต่าง เรือนดอกแก้วนั้นเป็นเรือนฝรั่งสองชั้น ทว่าห้องอันเป็นต้นเหตุของเสียงนั้นอยู่ชั้นล่างซึ่งเปิดหน้าต่างแง้มเอาไว้เล็กน้อย วัดจากตัวเขานั้นความสูงจากขอบหน้าต่างด้านล่างจะอยู่ที่ประมาณมือจับถึงพอดี นายเขื่องเดินเข้าไปใกล้บานหน้าต่างขณะที่เงี่ยหูฟังเสียงครางกระเส่าด้านในไปด้วย ความอยากรู้อยากเห็นทำให้บ่าวหนุ่มหันมองหาอะไรที่พอจะเหยียบต่อตัวขึ้นไปแอบมองได้ ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นหินก้อนใหญ่วางอยู่ไม่ไกล ร่างสูงใหญ่เดินเบาฝีเท้าไปยกมันขึ้นด้วยสองมือ ก่อนจะนำมาเป็นที่รองเหยียบค่อยๆ โผล่ใบหน้าตรงช่องว่างของหน้าต่าง “อ๊ะ อ๊ายยยย เสียว อ๊า” ภาพแรกที่เห็นคือห้องโถงที่มีเพียงแสงสลัวจากตะเกียงให้ความสว่าง ยิ่งต่อตัวขึ้นมาแบบนี้ก็ยิ่งได้ยินเสียงชัดมากขึ้น เขาหรี่ตามองหาต้นตอ ก่อนจะไปสะดุดกับร่างขาวสล้างที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นวม เธอถลกผ้านุ่งขึ้นมากองเอาไว้ที่เอว ถลกเสื้อขึ้นมากองเหลือหน้าอก เรียวขาขาวอ้ากว้างวางบนที่วางแขนข้างหนึ่ง สวนอีกข้างชันเข่าขึ้นมาวางเท้าบนเบาะ มือซ้ายบีบนวดหน้าอกของตัวเองพลางเล่นกับหัวนมสีชมพู มือขวาจับแตงร้านลูกใหญ่เท่าข้อมือเสียบเข้าออกในร่องหลืบฉ่ำแฉะอย่างเผ็ดร้อน “อื้ม อ๊ะ ใหญ่เหลือเกิน อ๊า!” นายเขื่องรู้สึกหนังหัวชาหนึบ เกือบจะหงายหลังลงไปกระแทกพื้นดินเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงร้องครางที่เป็นคนเดียวกับเจ้าของใบหน้าสวยซึ่งกำลังเหยเกเพราะความเสียวซ่าน คือคุณหนูทับทิม คุณหนูคนเล็กของบ้านกำลังนั่งแหกขาเอาแตงร้านแทงเข้าแทงออกรูสวยๆ ของตัวเองถี่ระรัว “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ายย” คุณหนูทับทิมยังไม่รู้ว่าเขาแอบอยู่ตรงนี้ เพราะอย่างนั้นจึงยังมุ่งมั่นกระทำตัวเอง ปากแดงอ้าร้องครางกระเส่า มือที่บีบเต้านมขาวอยู่ก็คล้ายกำลังจะลงแรงมากขึ้น “อ๊า อ๊า!!” ภาพตรงหน้าทำเอานายเขื่องถึงกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ ส่วนหน้าปวดหนึบชี้ชันดันกางเกงออกมา ยิ่งเห็นว่าคุณหนูเปลี่ยนท่านั่งเป็นท่ายองๆ ขย่มแตงร้านอย่างร่านราคะ งูเหลือมยักษ์ของมันก็ยิ่งขยายจนแทบปริแตก ทว่ายังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น จู่ๆ คุณหนูทับทิมที่นั่งขย่มแตงร้านอย่างเมามันก็กลับเงยหน้าขึ้น ดวงตาสวยฉ่ำปรือเคลิบเคลิ้มเหลือบมาสบตาเขาขณะที่ยังไม่หยุดขย่มกายแต่อย่างใด “อ๊า นายเขื่อง เข้ามา อ๊ะ เข้ามาสิ” รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอก่อนที่ลิ้นสีชมพูจะแลบเลียปากอย่างกระหาย เธอยังโยกเอวอยู่แบบนั้น ท่าทางยั่วสวาทยิ่งกว่าอีตัวในซ่องที่เขาเคยไปเที่ยวมา พาให้นายเขื่องซึ่งเป็นคนแอบมองตัวแข็งทื่อ หินที่เหยียบอยู่พลันสั่นคลอนจนยืนต่อไปไม่ได้ “อ้าก!” อึดใจต่อมาร่างสูงใหญ่ก็ร่วงหล่นลงมาจากหินก้อนนั้น ทว่าขณะที่กำลังจะกระแทกตัวเขากลับเด้งขึ้นมาจากพื้น ภาพของเรือนดอกแก้วกลับกลายเป็นความมืดมิดภายในเรือนของตัวเอง ดวงตาคมกวาดมองไปรอบตัวก่อนจะพบว่าตอนนี้เขาอยู่ในเรือนพักของตัวเอง เรือนไม้ไผ่สานที่ปลูกอยู่ในที่ดินของเจ้าสัวเกียง “ฝันเหรอวะ” หยาดเหงื่อผุดพรายอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมยังคงมองไปรอบตัวอยู่อย่างนั้น ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างยังอยู่เดิมเช่นเดียวกันกับหมอนมุ้ง สิ่งเดียวที่เปลี่ยนตอนนี้มีเพียงผ้าห่มผืนบางที่โดนเขาถีบลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า มือหนายกขึ้นมาลูบใบหน้าของตน นี่เขาอ่านหนังสือที่ยืมคุณหนูมาจนเก็บเอาไปฝันเลยหรือ นายเขื่องทิ้งตัวลงนอนอย่างเดิม แม้ภาพที่คุณหนูนั่งอ้าขาเอาแตงร้านเสียบทะลุทะลวงรูเสียวจะยังคงติดตา แต่ตอนนี้เขายังง่วงงุนอยู่มากจึงผล็อยหลับไปอีกครั้ง ทว่ายามที่ก้าวเท้าเข้าห้วงนิทราไปแล้วก็ยังไม่อาจหลีกหนีฝันลามกนั้นไปได้ นายเขื่องกลับมาอยู่ที่เรือนดอกแก้วอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับไม่ได้อยู่ด้านนอกเหมือนอย่างครั้งแรกแต่กลับอยู่ในห้องของคุณหนูทับทิม “อ๊า นายเขื่อง” นอกจากจะอยู่ในห้องของเธอแล้ว ตอนนี้ยังอยู่บนตัวของเธออีกด้วย! “คุณหนูขอรับ” ท่ามกลางแสงสลัวสีส้มจากตะเกียงน้ำมัน ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วร่างขาวสว่างเบื้องล่างอย่างหื่นกระหาย มือหนาเอื้อมไปบีบเต้านมอวบอิ่มของเธอซึ่งตอนนี้กำลังกระเพื่อมเพราะแรงกระแทก “แรงอีก อ๊ะ เอาฉันแรงอีก” เสียงหวานดังก้องไปทั้งห้อง ร่างกายของคุณหนูโยกคลอนเป็นจังหวะ เธอวางแขนทั้งสองข้างเอาไว้เหนือหัวทำให้เขาที่อยู่ด้านบนนั้นเห็นทรวดทรงองค์เอวแน่งน้อยชัดเจน ใบหน้าสวยสะบัดไปมาอย่างเสียวกระสัน เรียวขาขาวทั้งสองข้างแหกออกจากกันพาดเอาไว้บนบ่าของชายหนุ่ม กลิ่นน้ำหอมฝรั่งผสมกับกลิ่นสาวลอยฟุ้งมอมเมานายเขื่องที่กำลังโยกเอวขย่มอยู่ข้างบน “สวยเหลือเกินขอรับ” “อ๊า อ๊า เสียว มะ ไม่ไหวแล้ว” เธอครางเสียงสั่น ขาสวยแหกออกจากกันมากขึ้นโดยมีมือทั้งสองข้างของเธอจับยึดเอาไว้ นายเขื่องที่ขี่อยู่ข้างบนในตอนนี้ จึงได้เห็นรูร่องสีชมพูที่กำลังอ้าอมท่อนเอ็นของตัวเองได้เป็นอย่างดี เธอขย่มสะโพกร่อนกลับมารูดรั้งท่อนเนื้อของเขาอย่างร่านราคะ ยิ่งมองอารมณ์ของชายหนุ่มวัยฉกรรภ์ก็ยิ่งพุ่งสูง ทว่าขณะที่ตั้งใจจะกระแทกให้เธอร้องเสียงหลงอีกสักยก จู่ๆ คุณหนูทับทิมก็พลิกให้เขาลงมานอนด้านล่าง กายสาวปีนขึ้นมาขี่บนลำตัวของเขาแทน มือบางยันหน้าขาของชายหนุ่มเอาไว้ขณะที่หย่อนตัวใช้ความเป็นสาวครอบครองลำเอ็นแข็งขืนของชายหนุ่มอย่างเชื่องช้าตั้งแต่ปลายยอดจนสุดโคน “อูย คุณหนูขอรับ” “อ๊า ใหญ่เหลือเกินนายเขื่อง ฉัน อ๊า ฉัน” คุณหนูคนสวยพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำก็พลันตัวสั่นเทิ้ม ปากแดงๆ ของเธอนั้นอ้าร้องครางอย่างเร้าอารมณ์ขณะที่หมุนควงเอวบดลงมา โพรงเนื้อข้างในนั้นตอดรัดหนุบหนับ น้ำอยากไหลล้นเปียกแฉะไปหมดจนไหลย้อยลงมาถึงเชิงกรานของชายหนุ่ม ภาพตรงหน้าพาให้คนที่ถูกเรียกว่านายเขื่องถึงกับตาค้าง ทำได้เพียงกอบกุมเอวบางเอาไว้ นอกนั้นก็ปล่อยให้เธอควบขย่มตามอำเภอใจ “อ๊าย อ๊า จะแตกแล้ว อ๊า!!” เสียงครางหวานหูของคุณหนูทับทิมนั้นดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานสาวเจ้าก็บิดเกร็งร่างกายกระตุกเป็นพักๆ น้ำหวานใสพากันพรั่งพรูออกมาจนเปียกท่อนเนื้อของเขาจนเป็นมันวาวสะท้อนกับแสงของตะเกียง “คุณหนูขอรับ อูย” ถ้ำเนื้ออุ่นจัดด้านในตอดรัดหนึบแน่น ยิ่งคุณหนูขย่มแรงเพราะกำลังน้ำแตกกระเซ็นก็ยิ่งรัดจนคนเบื้องล่างดำเนินมาถึงจุดสูงสุดเช่นกัน “แตกแล้วขอรับ แตกแล้ว!” นายเขื่องตัวกระตุกไม่ต่างจากดุ้นเนื้อลำใหญ่ข้างใน รู้สึกได้ถึงหยาดน้ำกามที่กำลังถูกฉีดพ่นออกมาจากส่วนหัว แต่แทนที่น้ำพวกนั้นจะฝากฝังตัวเข้าในรูสวยๆ ของคุณหนู มันกลับล้นทะลักออกมาจนเปียกหน้าท้องแกร่งไปหมด สงสัยได้ไม่เท่าไหร่ภาพของคุณหนูก็พลันจางหายไป ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาในเรือนพักมืดสนิทของตัวเองอีกครั้ง ดวงตาคมกริบมองไปรอบ ๆ อย่างสับสน มือหนาคว้าตะปบลงบนหน้าท้องของตัวเองที่บัดนี้เปียกเหนอะหนะไปหมด ไม่นานเสียงถอนหายใจก็ดังขึ้นในความมืดอีกรอบ “ถึงขั้นฝันเปียกเลยเหรอวะไอ้เขื่อง” มาถึงตอนนี้นายเขื่องก็หมดอารมณ์จะนอนต่อ ร่างสูงใหญ่ลุกออกจากมุ้งก่อนจะเดินคลำทางไปจุดตะเกียงให้ความสว่าง หน้าต่างไม้ไผ่สานถูกเปิดออกรับลมเย็น ๆ ก่อนที่เจ้าของเรือนจะมองออกไปด้านนอก ดูจากเรือนบ่าวเรือนอื่นที่ตั้งอยู่ไกลๆ ยังคงมืดสนิท ท้องฟ้าเองก็ยังมืดมีดาวพร่างพราว ตอนนี้คงยังไม่เช้ามืดด้วยซ้ำ หยิบไม้มาค้ำหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว นายเขื่องก็หันกายเดินไปที่หีบใส่เสื้อผ้าสะอาด จัดการหยิบเสื้อกางเกงออกมาชุดหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปหยิบผ้าขาวม้าที่พาดตากเอาไว้หน้าเรือน แล้วหยิบตะเกียงน้ำมันเดินตรงไปยังคลองที่อยู่ไม่ไกลนัก เดินไปก็ได้แต่คิดว่าโชคดีที่เขามาตั้งเรือนห่างจากเรือนของตายายและบ่าวคนอื่นๆ เพราะอย่างนั้นเขาจึงไม่ต้องเบาเสียงนัก จะทำสิ่งใดก็ไม่ได้มีใครมารู้เห็นด้วย ไม่อย่างนั้นคงต้องตอบคำถามกันให้วุ่นวายว่าเหตุใดจึงลงมาอาบน้ำในเวลานี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม