6. ไปซื้อหนังสือ

1272 คำ
เวลาล่วงเลยมาถึงตอนเช้า นายเขื่องที่อาบน้ำอาบท่าตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจึงมาปัดกวาดเช็คถูรถรอคุณหนูทับทิมที่บอกเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ว่าให้เขาขับรถพาเธอออกไปซื้อหนังสือที่แถวตลาด ช่วงหลังนี้เขาไม่ค่อยได้ขับรถให้กับเจ้าสัวเกียงเพราะท่านมักชอบขับเอง เดือนก่อนท่านก็เพิ่งจะจ่ายเงินซื้อรถคันใหม่ไป คุณธนาเองตั้งแต่ได้เข้าทำงานกับสำนักทนายเจ้าสัวก็ซื้อรถยุโรปให้ขับไปทำงานเสริมบารมี ในตอนนี้นายเขื่องจึงเหลือหน้าที่ขับรถให้กับคุณหญิงและลูกสะไภ้กับลูกสาว แต่ถึงแม้จะเหลือเพีย’ เท่านี้เขาก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ไปขับรถให้กับเมียรองเมียน้อย หรือลูกของพวกเธอแต่อย่างใด รถที่เมียเอกใช้และเมียรองเมียบ่าวใช้นั้นราคาค่างวดแตกต่างกัน แน่นอนว่ารถที่คุณหญิงลัดดากับลูกสาวและลูกสะใภ้ใช้นั้นย่อมมีราคาแพงและใหม่กว่า ส่วนเมียรองเมียบ่าว เธอเหล่านั้นและลูกหญิงชายต้องใช้รถร่วมกัน หากจะไปที่ไหนก็ต้องสลับสับเปลี่ยนกันไป จะมีก็เพียงคุณหยาดผู้เป็นเมียรองที่ได้อภิสิทธิ์ในการใช้งานมากกว่าใครเพื่อน นายเขื่องเช็ดรถไปก็คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เรื่องนอกรั้วกลับมาจนถึงเรื่องในรั้ว แต่เรื่องที่กินพื้นที่ความคิดของเขามากที่สุดก็เห็นจะเป็นเรื่องเจ้าของเรือนดอกแก้ว หญิงสาวที่อยู่ในความฝันลามกของเขาเมื่อคืน คุณหนูทับทิม ลูกสาวคนเล็กของเจ้าสัวเกียง หญิงสาวอายุสิบเจ็ดปีที่เป็นเจ้าของหนังสือโป๊ที่ให้เขายืมมาอ่าน ภาพเนื้อตัวขาวสะอาด เนินอกอวบใหญ่นิ่มนวลและทรวดทรงองค์เอวคอดกิ่วยังคงคิดอยู่ในหัวของนายเขื่องไม่จางหาย ทุกอย่างยังคงชัดเจนอยู่ในหัวของนายเขื่อง ไม่เพียงท่อนบนเท่านั้นที่เขาจำได้ แต่เขายังจำพูสวาทโหนกนูนขาวสวย มีไรขนอ่อนประดับอยู่ได้เป็นอย่างดี ยิ่งเป็นตอนที่มันอ้าอมดุ้นเนื้อลำเขื่องของเขาจนเม็ดละมุดสีชมพูปลิ้นบวมตุ่ยก็ยิ่งจำได้แม่นมั่น ยิ่งนึกหูทั้งสองข้างก็ยิ่งเหมือนจะดับลงฉับพลัน นายเขื่องเผลอแลบลิ้นเลียปากของตัวเองอย่างหื่นกระหาย มือที่ถือผ้าเช็ดรถอยู่พลันหยุดชะงัก สะบัดใบหน้าไล่ความคิดแปลกๆ ในหัวออกไปก่อนที่ร่างกายจะแตกตื่นไปมากกว่านี้ ทว่ายามที่กำลังเรียกสติคืนมานั้นเสียงหวานก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “นายเขื่องเป็นอะไรหรือเปล่า” หันกลับมาก็พบว่าเป็นคุณหนูทับทิมในชุดกระโปรงผ้าลื่นสีชมพูอ่อนแขนสั้นติดระบายลูกไม้สีขาวที่คอ ถุงน่องผ้าโปร่งสีขาวเรียบๆ และรองเท้าส้นสูง เธอยืนมองหน้าเขาอย่างสงสัยระคนเป็นห่วง ข้างกันมีนางรุ้งที่สวมเสื้อผ้าชุดใหม่เป็นเสื้อแขนสั้นพองและกระโปรงยาวสีเข้มยืนถือกระเป๋าถือใบเล็กของคุณหนูทับทิม สายตาที่มองมานั้นไม่ต่างจากเจ้านาย เห็นอย่างนั้นชายหนุ่มจึงรีบกุมมือไว้ด้านหน้า ก่อนจะค้อมศีรษะลงเล็กน้อยอย่างนอบน้อม “ไม่มีอะไรขอรับคุณหนู พอดีเมื่อครู่มีแมลงมาตอมหน้ากระผม เลยสะบัดมันออกน่ะขอรับ” “อ้อ อย่างนั้นรึ” “ขอรับ” “ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ ไปรุ้ง” “เจ้าค่ะ” คุณหนูไม่ได้มีท่าทีสงสัยแต่อย่างใด เห็นอย่างนั้นนายเขื่องจึงกูลีกูจอไปเปิดประตูรถให้เจ้านายสาว บนรถหลังจากนั้นจึงมีคุณหนูทับทิม บ่าวคนสนิทอย่างนางรุ้งและตัวนายเขื่องผู้เป็นคนขับรถ รถยุโรปราคาแพงระยับเคลื่อนออกจากที่ดินของเจ้าสัวเกียง มุ่งหน้าไปที่ร้านหนังสือซึ่งอยู่ในตัวเมือง เมื่อรถไปจอดที่หน้าร้านเรียบร้อยคุณหนูกับนางรุ้งก็ลงไปซื้อหนังสือกันเสียนานสองนาน นายเขื่องนั้นทำหน้าที่นั่งเฝ้ารถอยู่ด้านนอก ไม่นานคุณหนูกับบ่าวคนสนิทก็เดินก็เดินออกมาพร้อมกับถุงกระดาษใส่หนังสือถุงใหญ่ในมือของนางรุ้ง “เดี๋ยวยังไม่ต้องกลับนะนายเขื่อง ฉันว่าจะไปแวะบ้านของเพื่อนสักประเดี๋ยว” คุณหนูเอ่ยออกมาน้ำเสียงใจดีขณะที่เดินมาหยุดที่หน้าประตูรถซึ่งนายเขื่องเปิดรอไว้แล้ว ใบหน้าของเธอนั้นขึ้นสีเล็กน้อยเพราะอากาศที่เริ่มร้อน ทว่ามันยิ่งกลับทำให้คุณหนูทับทิมยิ่งสวยมากขึ้นกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าในสายตาของไอ้เขื่อง “ได้ขอรับคุณหนู บ้านเพื่อนของคุณหนูอยู่ที่ไหนหรือขอรับ” แม้ว่าจะไม่ได้อยากสอดรู้เรื่องเจ้านายนัก ทว่านายเขื่องก็จำต้องถามเพราะตัวเขาเป็นคนขับรถ จำเป็นต้องรู้ทางจึงจะสามารถพาคุณหนูและนางรุ้งไปถึงที่หมายได้ “บ้านแม่มะลิที่ฉันเคยบอกให้นายเขื่องไปส่งนั่นแหละ ขึ้นรถเถอะเดี๋ยวประตูนี่ให้นางรุ้งบ่าวของฉันปิดเอง” “ขอรับคุณหนู” หลังจากที่ขึ้นรถกันเรียบร้อยแล้ว นายเขื่องก็ขับรถพาคุณหนูและนางรุ้งไปที่บ้านชั้นเดียวหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้มองจากข้างนอกจะเห็นเพียงว่าปิดประตูหน้าต่างมิดชิด ไม่ได้มีความหรูหราอะไรทว่ารอบบ้านนั้นโล่งเตียน อีกทั้งมีต้นไม้ปลูกรอบบริเวณบ้านดูแล้วร่มรื่น ทว่าสิ่งที่แปลกมากพอควรคืออีกฝั่งของลานบ้านนั้นมีรถยุโรปและจักรยานหลายคันจอดอยู่ แม้จะสงสัยทุกครั้งที่มาส่งคุณหนูที่นี่ ทว่านายเขื่องก็ไม่เคยถามอะไรเพราะถือว่าเป็นเรื่องของเจ้านาย คุณหนูทับทิมจะไปไหนมาไหนก็ได้ตามแต่ใจของเธอ ส่วนเขามีเพียงหน้าที่คนขับรถเท่านั้น “รอฉันอยู่ด้านนอกก่อนนะนายเขื่องอย่าเพิ่งกลับ ฉันจะเข้าไปพูดคุยสักครู่ เดี๋ยวจะให้คนเอาน้ำเอาท่ามาให้” คุณหนูทับทิมพูดทิ้งท้ายกับบ่าวหนุ่มเอาไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินตามบ่าวของบ้านนี้เข้าไปด้านในตามด้วยนางรุ้ง ส่วนถุงหนังสือนั้นถูกทิ้งเอาไว้ที่ในรถ “ขอรับ” เมื่อเข้ามาด้านในตัวบ้าน คุณหนูทับทิมนั้นมาที่นี่แล้วหลายรอบจึงไม่ได้สนใจรอบข้างนัก แตกต่างจากนางรุ้งที่ไล่สายตามองเครื่องเรือนหรูหราที่วางเรียงรายอยู่รอบๆ ตัวบ้านอย่างตื่นตาตื่นใจ ต่อให้จะไม่ได้มีความรู้อะไรมากแค่พออ่านออกเขียนได้ แต่ก่อนหน้านี้นางรุ้งรับใช้ใกล้ชิดเจ้านายลูกสาวขุนนางใหญ่ในพระนคร แค่มองมันก็พอจะเดาออกว่าว่าต้องเป็นของนำเข้าจากเมืองนอกเมืองนาแน่นอน “คุณหนูรอตรงนี้ก่อนเจ้าคะ” บ่าวคนนั้นเอ่ยอย่างนอบน้อมเดินลึกเข้าไปในบ้าน ทิ้งเธอเอาไว้ที่ห้องด้านหน้าซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับรับแขก “ที่นี่เป็นเรือนของผู้ใดหรือเจ้าคะคุณหนู” คล้อยหลังบ่าวคนนั้นนางรุ้งก็เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น สายตายังคงไล่มองไปรอบตัวอยู่อย่างนั้น ด้านคุณหนูได้เห็นกิริยาของมันก็พาลยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู “เรือนของแม่มะลิ เมียคนที่หกของเจ้าสัวสุติวรวานิชย์”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม