ชายหนุ่มใช้ข้อศอกยันกายเอาไว้เพื่อนอนตะแคงมองสาวน้อยเต็มๆ ตา อกอิ่มสะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจ แม้เธอจะตัวเล็ก แต่กลับมีทรวดทรงองเอวอวบอิ่มอย่างที่ผู้หญิงควรมี เอวก็เล็กคอดนิดเดียวจนเขาแทบกำรอบ สะโพกผายงอนรับกับช่วงขาเพรียวสวยผุดผ่อง
ผิวของเธอขาวละเอียดเนียนนุ่มน่าสัมผัส อีกทั้งรอยยิ้มหวานหยด ริมฝีปากชมพูระเรื่อน่าจุมพิตบดคลึงเคล้า นิ้วเล็กๆ บอบบางเด้งสวยยิ่งกว่านางรำ เท้าน้อยช่างบอบบางน่าดูดเม้มเหมือนเท้าเด็กๆ ทั้งน่ารักทั้งน่าทะนุถนอม
กล้าลูบผมสลวยอย่างเบามือ เขานำไปเกี่ยวทัดกับใบหูเล็กๆ อันแสนน่ารัก ก่อนจะประทับจุมพิตลงบนกลีบปากอิ่มฉ่ำหวานที่เผยอริมฝีปากตอบรับเขาอย่างเดียงสา
ลิ้นหนุ่มรุกต้อนเข้าในโพรงปากละมุน สัมผัสกับลิ้นเล็กๆ ที่คอยจะหลบหลีกอย่างหวาดหวั่น เขาถอนปากออก ก่อนจะกดลงไปใหม่เพื่อดูดลิ้นเล็กๆ แล้วรวบปล่อยหยอกล้อให้เธอคลายจากความเกร็ง สาวน้อยสะเทิ้นอาย แก้มแดงปลั่ง มือนิ่มจับที่แขนแข็งแรงของเขาเอาไว้ด้วยความรัญจวน
ชายหนุ่มผละออกห่างเพื่อมองสบตาฉ่ำหวาน เธอเอียงอายไม่สู้สบหลบสายตาเป็นพัลวัน เขาจุมพิตไปทั่วใบหน้า ตั้งแต่หน้าผาก เปลือกตา จมูกเล็กๆ แก้มเนียน ปลายคาง ก่อนจะวกขึ้นมาบนริมฝีปากอิ่มสวยอีกครา จุมพิตหวานล้ำทำเอาสาวน้อยไม่ประสาแทบสำลักกับความดูดดื่มที่ได้รับ
มือหนาเลื่อนไปสัมผัสกับแขนเนียนละเอียดที่โผล่พ้นเสื้อคอกระเช้าสีชมพูหวานสำหรับใส่นอน เนื้อผ้าบางเบาใส่แล้วไม่ร้อนและอึดอัด
กล้าถึงกับถอนใจเมื่อสัมผัสว่าเธอไม่ได้ใส่ชั้นในนอน หญิงสาวรีบพูดเสียงตะกุกตะกักทันทีเมื่อเห็นสายตาสื่อความหมายของเขา
“แก้วอึดอัด ก็เลยไม่ได้ใส่ค่ะ” พูดออกมาแล้วก็อยากจะมุดเตียงหนี เพราะเหมือนเป็นการเชื้อเชิญให้เขามองส่วนนั้นของเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก
กล้าไม่ได้ตอบว่ากระไร เขาเลื่อนสายเสื้อคอกระเช้าสีชมพูหวานลงไปตามเรียวแขนกลมกลึง สาวน้อยรีบตะครุบเอาไว้ด้วยความอายเมื่อหน้าอกของเธอกำลังจะโผล่ออกมาให้เขาเห็น ความรู้สึกของเธอคืออายอย่างที่สุด เพราะในสำนึกบอกว่าไม่เคยให้ใครได้เห็นเนื้อตัวเปล่าเปลือยภายใต้ร่มผ้ามาก่อน
ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตมือบอบบางที่ตะครุบสายเสื้อเอาไว้ เขาค่อยๆ ดึงขึ้นมาสูดดมกลิ่นหอมอย่างอ่อนโยน ก่อนที่อีกมือจะถือโอกาสเลื่อนสายเสื้อคอกระเช้าโดยที่หญิงสาวไม่รู้ตัว
“อุ๊ย!” สาวน้อยอุทานเมื่ออกอวบปรากฏแก่สายตาวาวหวานของคนที่คร่อมอยู่เหนือร่างของเธอ
“สวยและหอม ถ้าพี่จะขอชิมได้ไหมครับ”
คนเอ่ยขอนุ่มนวลเว้าวอนอยู่ในที ชายหนุ่มไม่ได้บุ่มบ่ามตะกละตะกลามหรือทำให้เธอหวาดกลัว น้ำเสียงและสีหน้าของเขาอ่อนโยน อ่อนหวานและออดอ้อน ไร้ความกักขฬะที่จะทำให้หญิงสาวตื่นกลัวหรือรังเกียจขยะแขยง แต่กลับเป็นไปด้วยความรู้สึกค่อยๆ ยินยอมพร้อมใจที่จะมอบกายให้อย่างไม่มีข้อแม้
“พี่จะทะนุถนอมเมียรักของพี่ ไม่ต้องกลัวนะคนดี” กล้าปลอบโยนสาวน้อยใต้ร่างด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอ่อนหวาน เขาสัมผัสได้ถึงอาการสั่นน้อยๆ ของเธอ
“แก้วยินดีทำหน้าที่ภรรยาที่ดีของพี่กล้าค่ะ” เธอตอบอย่างเอียงอายแล้วหลบหน้า แต่ในใจนั้นพรั่งพร้อมอย่างที่สุด
กล้าจุมพิตกลีบปากสวยที่ไม่เคยลบเลือนความหวานเลยแม้แต่ครั้งเดียว ก่อนจะซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น ผิวเนียนละเอียดร้อนรุ่มเพราะถูกลิ้นสากระคายตวัดลามเลียเลื่อนเรื่อยลงมายังปทุมถันอวบตึงทั้งสองข้าง
“ชื่นใจเหลือเกินคนดี พี่ขอชิมดอกบัวดอกตูมคู่นี้ให้คลายจากความกระหายหน่อยนะครับ” กล้ากระซิบขอเสียงแหบพร่า เขาก้มลงดูดเม้มยอดปทุมถันสีชมพูระเรื่อ
“อื้อ...” สาวน้อยที่ไม่เคยต้องมือชายหลับตาพริ้มครวญครางด้วยความเสียวซ่าน เธอจับศีรษะของเขาเอาไว้เป็นที่ยึด ก่อนจะแอ่นอกอิ่มให้เขาด้วยความเผลอไผล
กล้าดึงเสื้อคอกระเช้าขึ้นด้านบน ก่อนจะถอดออกทางศีรษะ ทำให้เขาได้เห็นสัดส่วนเปลือยเปล่าท่อนบนของหญิงสาวได้อย่างถนัดชัดเจน สายตาอ่อนโยนมองอกอวบอิ่มที่ประดับอยู่บนเรือนร่างงดงาม เอวคอดเล็กนิดเดียว หน้าท้องแบนราบ ผิวขาวเนียนละเอียดอมชมพู ลูบไล้แล้วนิ่มตึงน่าสัมผัส
“เมียของพี่สวยที่สุด” เขาเอ่ยชมอย่างไม่คิดออมคำพูด หัวใจหนุ่มเต้นเร็วแรงด้วยความปรารถนาของบุรุษเพศ ความเป็นชายกลางร่างอึดอัดตื่นตัวจนเจ็บร้าว
“พี่กล้าคะ คือ... เอ่อ...” เธอเบี่ยงหน้าหลบจุมพิตของเขา มองสบตาชายหนุ่มอย่างสงสัยใคร่รู้
“ว่าไงครับ”
“ทำไมแก้วรู้สึกไม่คุ้นชิน เอ่อ... กับเรื่องนี้เลยคะ”
เธอก้มหน้างุดด้วยความกระดากอายที่ต้องถามอะไรแบบนี้ แต่เธอไม่คุ้นชินจริงๆ กับสัมผัสและการแนบชิดแบบชายหญิงที่เขากำลังปฏิบัติกับเรือนร่างของเธอ หญิงสาวคิดว่าตัวเองน่าจะจำอะไรได้บ้างรางๆ ว่าเคยแนบกายคลุกเคล้าเล้าโลมกับสามีแบบนี้ แต่กลับไม่มีเลย เธอมีแต่ความเขินอาย ประหม่า รู้สึกหวงเนื้อหวงตัววูบขึ้นมาในมโนสำนึก
“แก้วความจำเสื่อม อาจจะรู้สึกไม่คุ้นชินก็เป็นได้” กล้าพูดออกไปแล้วก็ให้รู้สึกผิด แต่สายตาอ่อนหวานของเธอทำให้เขาอดใจไม่ไหว ทาบริมฝีปากลงไปหาอีกครา เป็นการยุติข้อสงสัยทั้งหมดทั้งมวล หันเหความสนใจของสาวน้อยไปกับจุมพิตดูดดื่ม
สัมผัสอ่อนละมุนคล้ายปีกผีเสื้อโบยบินทำให้สาวน้อยเคลิบเคลิ้ม ปล่อยเขาชักจูงเข้าสู่วังวนเสน่หาอีกครั้ง เธอไร้การต่อต้าน มีเพียงความไม่ประสีประสาเท่านั้นที่ทำให้ชายหนุ่มนึกเอ็นดู คอยประเล้าประโลมแนบชิดมิห่างกาย
มือแข็งแรงลูบเรื่อยลงมาที่เอวคอดกิ่ว สาวน้อยกลั้นใจแขม่วหน้าท้องด้วยความสยิวเมื่อเขาสัมผัสกับปมผ้าถุงที่เธอใส่นอน แม้สาวน้อยจะไม่ถนัด แต่ชายหนุ่มก็สอนให้เธอหัดนุ่งจนชำนาญและไม่หลุดอีก
กล้าจำได้ดีว่าตอนที่เขาสอนเธอนุ่งผ้าถุงเป็นเช่นไร แม้เธอจะดูไม่ค่อยประสีประสาแต่ก็น่ารัก ไม่ได้ทำให้เขารำคาญเลยแม้แต่น้อย เขายินดีสอนคนในอ้อมแขนทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเธอแบบนี้
เธอนุ่งแล้วหลุดตลอด ที่เธอนุ่งหลุดไม่เท่าไหร่ เพราะเขาเข้าใจว่าลูกคุณหนูเช่นเธอคงไม่เคยต้องมานุ่งผ้าถุงแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เขาแทบหัวใจหยุดเต้นทุกครั้งก็ตอนที่เธอทำผ้าหลุดนี่แหละ เรียวขาขาวผ่องเป็นยองใย และท่าทางเงอะๆ งะๆ ดูน่าเอ็นดูทำให้เขาอดยิ้มตามเสียไม่ได้ หลังๆ มานี้ เขาจึงนำเข็มขัดนากแบบโบราณของมารดามารัดให้เธอ ก่อนจะขมวดปมผ้าถุงเข้าด้วยกันเพื่อไม่ให้หลุด และเพื่อไม่ให้มองเห็นเส้นเข็มขัด เขาชอบที่จะแต่งตัวให้เธอเสมอๆ ชอบหวีผมให้ ทัดดอกไม้ และหาเสื้อผ้าชุดสวยๆ น่ารักๆ ให้เธอสวมใส่
“ไม่ต้องกลัวนะสาวน้อย มันไม่มีอะไรน่ากลัวสักนิด” คำปลอบโยนของเขาทำให้เธอผ่อนคลายขณะที่มือหนาเลื่อนลงไปสัมผัสกับสะโพกผายงอนงาม
เขานวดคลึงหนั่นสะโพกเพื่อให้เธอคลายจากความกลัวและเกร็ง ก่อนที่จะวกมือกลับมาส่วนกลางกายของเธอ
“อุ๊ย! ตรงนั้นไม่ได้” สาวน้อยร้องอย่างตกใจเมื่อมือเขาสัมผัสเข้ากับส่วนสงวนที่เธอบอกตัวเองว่าไม่เคยให้ใครเห็นมาก่อน
“ไม่ต้องกลัวนะ หรือถ้าอายก็หลับตาซะ” ชายหนุ่มกำลังทำตัวเหมือนผู้ใหญ่หลอกเด็กให้คลายจากความหวาดกลัวและไว้วางใจตัวเขามากขึ้น
“ถ้าหลับตา แก้วจะโดนพี่กล้ารังแกเอาตามใจชอบใช่ไหมคะ” เธอพูดอย่างรู้ทัน นั่นทำให้กล้าหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดูสาวน้อยมากขึ้น
“งั้นก็ต้องลืมตามองพี่ จะได้รู้ว่าพี่ทำอะไรบ้าง นี่เขาไม่ได้เรียกว่ารังแก แต่เขาเรียกว่ารักต่างหาก” ชายหนุ่มแก้คำพูดของสาวน้อยแล้วประทับจุมพิตหวาน
“อุ๊ย! พี่กล้า” เพราะมัวแต่ต่อปากต่อคำกับเขา รู้ตัวอีกทีมือหนาก็สอดแทรกเข้าในกางเกงชั้นในเนื้อบางเบาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปลายนิ้วของเขาสัมผัสกับความอ่อนละมุนที่ไร้ชายใดได้เคยแตะต้อง นิ้วแกร่งแหวกเข้าหากลีบเกสรนารีสีสวยอย่างมีชั้นเชิง สาวน้อยครวญครางหนีบขาตัวเองเข้าหากันแน่น ด้วยความรู้สึกสับสนปนประหม่า
“ไม่เป็นไรนะคนดี ไม่มีอะไรน่าอาย” กล้าปลอบโยน สอดแทรกนิ้วเข้าหาซอกฉ่ำหวานให้ลึกขึ้นอีกทีละนิดๆ อย่างไม่เร่งรีบ
“เราต้องทำอะไรน่าอายแบบนี้ด้วยเหรอคะ”