ตอนที่ 8 หลั่งน้ำตา

1475 คำ
เที่ยงคืน คนตัวเล็กกระสับกระส่าย เห็นเขาบอกว่าวันนี้จะค้างที่ห้อง แต่ตอนออกมาจากห้องน้ำ กลับหายไป จนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย ตกลงเขาคิดปล่อยกันไปหรือเปล่า เธออยากกลับบ้าน เพื่อสืบหาความจริง เกี่ยวกับเรื่องของคุณอิน ถ้าหากพี่เป็นคนทำ ก็อยากให้มาขอโทษ และรับผิดชอบกับเรื่องนี้เสีย เสียงกุกกักด้านนอก ทำเอาคนในห้องหัวใจเต้นระทึก ทำไมถึงกลับมาตอนนี้ แกล้งหลับตาแน่น จนกระทั่งประตูเปิดออก ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาด้านใน มองดูคนตัวเล็กกำลังหลับใหล ระบายลมหายใจออกมา เดินไปหยิบผ้าขนหนู ปลดเสื้อผ้าออกจากเรือนร่าง เดินเข้าห้องน้ำ คนแกล้งหลับขนในกายลุกชัน แม้เคยเห็นมาแล้ว อย่างไรก็ยังคงขัดเขินอยู่ดี เสียงน้ำกระทบกระเบื้อง พิชญาภาเม้มริมฝีปากแน่น หวังว่าเขาคงเห็นใจคนนอน ไม่ทำอะไร ประตูห้องน้ำเปิดออก อรัญกรณ์พันผ้าขนหนูออกมา เปิดตู้หยิบกางเกงขาสั้นสวม แล้วปลดผ้าขนหนูออก เดินมาหยุดยืนตรงเตียง แล้วสอดกายเข้าใต้ผ้าห่มเดียวกัน มือโอบเอวบาง คนตัวเล็กนอนเกร็ง เขากระตุกยิ้มมุมปาก โน้มใบหน้ามาใกล้ ขบเม้มใบหู “อ๊ะ!” เธอร้อง แล้วดิ้นหนี “คุณจะทำอะไร!” เขาอมยิ้ม “ทำไมไม่นอนต่อล่ะ” คนถูกย้อนถาม หน้าแดงก่ำ โชคดีที่ห้องมืดมิด ทำให้เขาไม่เห็นใบหน้านี้ “ใครจะไปนอนได้ล่ะค่ะ คุณทำแบบนี้” “ถ้าคุณสะดุ้งขนาดนี้ แสดงว่าคุณก็รู้สึกสินะ” “ไม่ใช่นะคะ!” เธอรีบปฏิเสธเสียงสั่น “ฉันตกใจแค่นั้นเอง!” “งั้นเหรอ” ไม่พูดเปล่า ร่างสูงใหญ่โน้มกายเข้าหา พิชญาภายกมือดันแผงอก ทว่าเขากลับบดเบียด จนร่างกายเอนลงกับฟูก เธอรีบหยัดตัวไว้ ไม่ยินยอมให้เขาทำตามใจ “คุณอรัญ!” “ครับ” “อย่าทำแบบนี้นะคะ ไหนบอกว่าจะปล่อยฉันกลับบ้านแล้วไงคะ” “เมื่อตอนเย็นผมบอกคุณว่ายังไง?” คนฟังเม้มริมฝีปาก บอกแบบนั้น ก็ไม่ใช่ว่าเธอต้องยอมรับเสียหน่อย รุกหนักกันขนาดนี้ ทำเอาเธอใจหายใจคว่ำหมดแล้ว “ไม่เกี่ยวเลยนี่คะ ทำแบบนี้ฉันเสียหาย” “หรือคุณต้องการให้ผมรับผิดชอบ” เขาเลิ่กคิ้วถาม “ไม่ใช่นะคะ!” “แล้ว..” “ก็... พอแล้วค่ะ เราสองคน เรื่องแบบนั้น ควรพอได้แล้วนะคะ” เธอบอกเสียงแผ่วเบา ใบหน้าแดงจนลามไปถึงใบหู “ไม่พอหรอก อีกหน่อยเราคงไม่ได้เจอกันแล้ว” มือหนาเอื้อมกอบกุมใบหน้า ดวงตาสองคู่สบกัน ท่ามกลางแสงของดวงจันทร์ ส่องผ่านหน้าต่าง คนตัวเล็กหัวใจเต้นโครมคราม ใบหน้าเขาค่อย ๆ โน้มเข้าใกล้ เธอหลับตาลง ยอมรับจุมพิตนั้น ท่อนแขนแกร่งโอบรัดร่างไว้แนบแน่น ลิ้นร้อนตวัดควานหาความหวานในโพรงปาก ร่างบางไหวสะท้านไปตามความปรารถนา มือเริ่มเลื่อนมากอบกุมทรวงอกอวบอิ่ม แล้วสอดเข้าใต้เสื้อ สะกิดแผ่วตรงยอดบัว “อืม..” เจ้าของมันครางแผ่ว เขาถอนริมฝีปาก มองดูอีกคนหอบหายใจเพราะรสจูบ กายแกร่งโน้มเข้าหา ผลักดันร่างบางให้นอนราบกับเตียง กายสาวสะท้านไหว รู้สึกเหมือนตนเองกำลังถลำลึกลงทุกที เสื้อยืดตัวเล็กสีขาว ถูกรั้งออกจากเรือนร่าง ติดตามด้วยชั้นในสีเดียวกัน ในขณะที่ริมฝีปากลากไล้ไปตามลำคอ เลื่อนลงมายังทรวงอกอวบอิ่ม กอบกุม ขบเม้มยอด ตวัดลิ้นหยอกเย้า จนเจ้าของกัดริมฝีปาก ส่งเสียงครางในลำคอ มือใหญ่บีบสลับหนักเบา ผลัดเปลี่ยนฉกชิม ดูดดื่มกับยอดอันชูชันแข็งขืน ร่างบางบิดเร้าหอบโยน ตามแรงปรารถนา ซึ่งอีกฝ่ายปรนเปรอ มือหนาเลื่อนมายังด้านล่าง รั้งกางเกงนอนขาสั้นออก สอดมือเข้าซับใน นิ้วแยกดอกไม้กลีบงามออกจากกัน สะกิดแผ่วตรงเกสร ซึ่งกำลังเต้นระริก “อ๊ะ!” เธอครางออกมาทันที ที่ถูกสัมผัส ทว่าอีกคนกลับกระตุกยิ้มมุมปาก พอใจที่เห็นเธอกำลังหลับตาบิดกาย เก็บกลั้นเสียงร้อง ทำให้อยากแกล้งมากขึ้นไปอีก ยามนิ้วขยับ พิชญาภาสั่นเทาไปทั้งร่าง เรียวขาหุบเข้าหากัน แต่กลับถูกขาแยกจาก ซับในถูกดึงออกทางปลายเท้า ส่วนเขารั้งกางเกงของตนเองออกจากร่างเรียบร้อย ตัวตนกำลังแข็งขืน พิชญาภาหยัดกายมองดู แล้วเบือนหนีด้วยความเขินอาย เขาโน้มกายเข้าหาอีกครั้ง มือกอบกุมสะโพกมนดึงคนตัวเล็กให้มาหา จับเรียวขาแยกออกจากกัน ใช้นิ้วสำรวจความพรั่งพร้อม “อ๊า!” เธอร้องออกมา เมื่อนิ้วร้ายกำลังขยับเข้าออก “ยะ... หยุดนะคะ” “ทำไมล่ะ” เขาย้อนถาม แล้วอมยิ้มเจ้าเล่ห์ เธอส่ายหน้ากับหมอน จนเรือนผมนุ่มกระจาย ความเสียดเสียวพุ่งทะยาน ไม่คิดว่าแค่นิ้วมือจะทำให้เธอแทบคลั่งเช่นนี้ ริมฝีปากถูกกัดแน่น พร้อมเสียงครางในลำคอ “ฉันจะไม่ไหวแล้ว!” “ปล่อยมันออกมาสิ เอาเลย!” อรัญกรณ์บอกเสียงกระหึ่มในลำคอ “อ๊า! อ๊าย!” เธอกรีดร้อง สะดุ้งผวากอดเขาไว้แน่น หอบหายใจ เขาทำเอาเธอสำลักความสุข กระทั่งตอนนี้หัวใจยังเต้นหนักไม่หายเลย ทว่าความหฤหรรษ์เช่นนี้มันยังไม่หมดไป เขาดึงเรียวเขา แทรกระหว่างขาเรียว จับตัวตนกดเข้าสู่ช่องทางรัก คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อย หยัดกายมอง เธอยังไม่หายจากความเสียดเสียวเมื่อครู่ เขากลับดำเนินมันต่อ “ผมจะขยับแล้วนะ” เขาบอก แต่ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ ร่างอรชรเปลือยเปล่าสะท้านไหว ตามแรงขยับของอีกฝ่าย ทรวงอกกระเพื่อมไหว เขาก้มลงฉกชิมหยอกเย้า แล้วหยัดกายยกสะโพก เพื่อสอดแทรกตัวตนให้ถนัดมากขึ้น “อ๊ะ อ๊า” เธอสูด ความเสียดเสียวพุ่งทะยาน บิดกายสะบัดศีรษะไปมา มือกำแขนเขาไว้แน่น ทรวงอกอวบอิ่มกระเพื่อมไหว ตามแรงขยับของอีกฝ่าย เสียงครางกระหึ่มในลำคอ บ่งบอกถึงความพึงพอใจ จังหวะหนักขึ้นแรงขึ้น ทำเอาคนตัวเล็กกรีดร้องไม่หยุด “ไม่ไหวแล้ว อื้อ อ๊าย!” พิชญาภากรีดร้อง เขาใส่จังหวะหนักอีกสองสามครั้ง จึงหยุดลง ซุกซบใบหน้ากับทรวงอกอวบอิ่ม หอบหายใจ เมื่อผ่านไปชั่วครู่ ร่างสูงผละห่างนอนเคียงข้าง ส่วนอีกคนเหม่อมองเพดานด้วยความสับสน พิชญาภานอนนิ่ง อีกคนเลยตะแคงมอง แล้วรั้งร่างให้หันมาเผชิญหน้า เธอสบตาเขาแววตาสับสน “พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปส่ง” ริมฝีปากบางเม้มสนิท “ค่ะ” “แล้วผมจะติดต่อคุณไป” คงฟังชะงัก มองเขาอย่างไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ดวงตาคมกล้าทอดมอง ถึงอย่างไร ก็ทำใจไม่ได้หากเธอคบหาชายหนุ่มคนอื่น “ทำไมต้องติดต่อฉันอีกล่ะคะ” เธอถามเสียงแผ่วเบา ความจริงเขาควรเกลียดเธอเสียด้วยซ้ำ เขานิ่งงัน สบตาคนพูด “เพราะผมยังต้องการให้คุณช่วยให้ผมทำบางอย่างสำเร็จ!” ถ้าหากสิ่งที่เขาต้องการ คือการทำให้พี่ชาย ยอมรับความผิด มันคงเป็นไปได้ยาก ไม่ใช่ไม่อยากช่วย แต่เธอไม่เคยรู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องทั้งหมด “ต้องการให้ฉันช่วยอะไรเหรอคะ ถ้าฉันช่วยได้ ก็อยากช่วยคุณตอนนี้เลย” “ตอนนี้ คุณยังช่วยผมไม่ได้หรอก” สีหน้าคนฟังหม่นลง “หรือคุณไม่อยากให้ผมไปยุ่งกับเกี่ยวกับคุณอีก ถ้าไปจากที่นี่แล้ว” ริมฝีปากเม้มแน่น “มันก็ไม่ควรไม่ใช่เหรอคะ เพราะเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน ที่สำคัญ คุณลักพาตัวฉันมา ไม่ใช่ความเต็มใจของฉันเลย” อรัญกรณ์นิ่งเงียบ มันคือความจริง ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ความจริง เขาต้องการติดต่อกับพิชญาภาต่อไป แค่เพียงคิดว่า ในวันที่ห่างกัน เธออาจมีคนของหัวใจ ทำเอารู้สึกโหวงชอบกล “ถึงคุณต้องการแบบนั้น แต่ผมคงทำให้ไม่ได้หรอกนะ” “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” ภายในห้องเงียบลง เธอเหลือบมอง เห็นเขากำลังหยิบกางเกงมาสวม แล้วเดินออกจากห้องไป ดวงตาเรียวหม่นลง รู้สึกเหมือนตัวเอง เป็นผู้หญิงที่เขาเลี้ยงไว้บำเรอก็ไม่ปาน ขยับกายลุกนั่ง สาวเท้าเข้าห้องน้ำ มองตัวเองในกระจก ร่องรอยเมื่อครู่มันยังอยู่ สัมผัสยังชัดเจน มันควรเป็นสิ่งที่คนรักกระทำกัน ไม่ใช่คนแปลกหน้า กัดริมฝีปากน้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่มีวันหวนกลับไปได้แล้ว ต่อให้คะนึงหามากแค่ไหนก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม