ตอนที่ 3 ความสบายใจ (1) “มึแฟนหรือยัง”

1208 คำ
ตอนที่ 3 ความสบายใจ ป๊อปคิดว่ามันออกจะดูบ้าไปสักหน่อยแต่ตอนนี้มันก็เป็นไปอย่างที่ต้องการแล้ว เธอได้ควงหนุ่มหล่อระดับท็อปของมหาวิทยาลัย เพื่อจะฉีกหน้าไอ้คนคุยเก่าที่มันยังตามตื้อไม่เลิกและหน้าด้านหน้าทน แถมยังมาดูถูกว่าเธอจะโง่งมคุยกับมันคนเดียว ก็ยอมรับว่าเคยโง่ แต่ต่อไปนี้มันจะไม่มีผู้หญิงโง่ๆ คนนั้นอีกแล้ว ก่อนออกมาจากร้านคิดว่าจะโดนเพื่อนด่าจนหูแฉะปากฉีก แต่ที่ไหนได้บอยมันบอกแค่ว่าขอบคุณที่เลี้ยงแล้วก็ปล่อยให้ป๊อปไปไหนก็ไป เพื่อนกันมันก็ศีลเสมอกันดี แต่ป๊อปรู้ว่ามันเข้าใจ สุดท้ายป๊อปก็ออกมากับหนุ่มหล่อสุดฮอตของมหาวิทยาลัยที่ใครก็อยากเข้าหา โอ๊ย แล้วถ้าใครมันรู้ว่าป๊อปคนนี้เป็นลูกค้ารายแรกที่ได้ตัวพี่คีตะมาควงตอนเขามาสมัครงานเป็นหนุ่มโฮส คนทั้งมหาวิทยาลัยไม่รุมสาปรุมทึ้งแย่เหรอ “พี่คีตะมีแฟนหรือยัง” เท่าที่รู้มาเขาไม่มีแฟนแต่ต้องถามเพื่อความมั่นใจ “ไม่” เขาตอบไปตามตรงไม่ได้โกหก “ถามเผื่อไว้น่ะ กลัวว่าจะโดนตบเอา” ป๊อปพูดแล้วหัวเราะเบาๆ นี่คงเป็นเสียงหัวเราะแรกตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นมาถึงแม้ว่าคนนั่งข้างกันที่ทำหน้าที่เป็นสารถีอยู่นี้จะหน้านิ่งมากก็เถอะ ก็ยังรู้สึกโลกมันสดใสมากอยู่ดี อาจจะเป็นเพราะความหล่อเหลากับ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ในแบบของผู้ชายล่ะมั้งที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้น “ทำไมถึงไปร้านนั้น” ก็นึกว่าจะต้องเป็นป๊อปที่ชวนคุยอยู่ฝ่ายเดียว เอาเข้าจริงผู้ชายที่หลายคนนอกบอกว่าเย็นชาขั้นสุดแบบเขาก็ชวนคุยเป็นเหมือนกันแต่นั่นอาจจะเป็นเพราะหน้าที่ “เหงาค่ะ เพิ่งอกหักมา” “...” เขาเงียบแล้วรอฟัง ก็รู้อยู่ว่าเหงาไม่อย่างนั้นคงไม่มาจ้างเขาทำอะไรอย่างนี้ เขาพอรู้มาบ้างว่าเธอฐานะทางบ้านร่ำรวย ไม่ได้คิดจะปอกลอก แต่งานนี้เธอก็เสนอให้เขาเอง ต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ อีกอย่างเขาก็ทำได้หมด แค่เธอเอ่ยปากเขาก็พร้อมจะสนองความต้องการให้เต็มที่ เวลานี้ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว ชีวิตแม่ของเขาสำคัญกว่า “เล่าได้เหรอ มันก็มีแต่เรื่องไม่น่าฟัง” “ก็เธอจ้างฉันมาแล้ว” มากกว่าเล่าเรื่องก็ยังได้ จะให้เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวก็ยอมหมด “...” ไม่รู้ทำไมแค่คำพูดสั้นๆ จากคนที่ไม่ได้สนิทกันถึงทำให้ป๊อปรู้สึกอุ่นวาบที่หัวใจได้ขนาดนี้ อันที่จริงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นและเป็นแผลสดใหม่นั้นป๊อปยังไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลย มันก็ตามนิสัยป๊อปที่ไม่ชอบเล่าเรื่องอ่อนแอให้ใครฟัง แม้จะเป็นเพื่อนสนิทมากๆ อย่างยายเฌอกับบอยก็ตาม ป๊อปถึงเป็นสาวมั่นในสายตาของคนรอบข้างได้ทั้งหมด อีกอย่างหนึ่งคือป๊อปไม่อยากแบกเอาความทุกข์ใจไปให้ใครก็ตามที่เรารัก ไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นเราทุกข์ และทำให้เขาต้องเป็นห่วง ทว่าตอนนี้ มันไม่เหมือนกับเมื่อก่อนตอนที่เรายังเป็นเด็ก ยิ่งโตความเจ็บปวดที่เกิดจากความรู้สึกมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น การเก็บไว้คนเดียวมันเหมือนจะทำให้เราจะระเบิดตัวเองเข้าสักวัน “ถ้าเป็นพี่พี่จะรับได้ไหม” ป๊อปเอ็นศีรษะไปกับเบาะ แล้วยิ้มออกมาแต่มันคงเป็นรอยยิ้มที่โคตรตลก “...” เขารอฟัง “ป๊อปไม่อยากจะประจานใครหรอก พี่ก็แค่ทำหน้าที่คนฟังที่ดีก็พอ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ” เขาเงียบอย่างที่ชอบเป็น ป๊อปเองก็ไม่ได้หันไปมองว่าตอนนี้สีหน้าของหนุ่มรุ่นพี่เป็นอย่างไร ไม่กล้าหันไปหรอก ก็ตอนนี้น้ำตามันรื้นเกาะขอบตาจนจะร่วงแหมะลงอาบแก้มแล้ว อีกแค่นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น สุดท้าย มันก็ไหลลงมาจนได้ “ก่อนหน้านี้ป๊อปคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง คุยกันมาหลายเดือนได้แล้วมั้ง อันที่จริงมันก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์พิเศษอะไรขนาดนั้น ถ้าก่อนหน้านี้เลิกคุยกันไปก็ไม่เจ็บเท่าไหร่” “...” เขายังคงเป็นผู้ฟังที่ดี คีตะไม่ใช่คนที่ปลอบใครเก่ง ปกติก็ไม่ค่อยอยากพูดอะไรอยู่แล้ว แต่ยายนี่ดันมาร้องไห้ต่อหน้า กูต้องทำไง ถ้าไม่เอาใจตอนนี้เขาจะไม่ให้กูทำงานต่อไหม “เธอ” เขาพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบเมื่ออีกฝ่ายเล่าต่อ “แต่ที่มันเจ็บมากตอนนี้ก็เพราะเขาไปเอากับน้องรหัส น้องที่เรารักให้ความช่วยเหลือตลอด ไม่ว่ามันจะเจออะไรเลวร้ายมาเราก็พร้อมช่วยเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือแรงกายแรงใจก็แล้วแต่” “...” “พวกเขาโคตรใจร้ายเลย” ป๊อปพูดไปพร้อมกับปล่อยเสียงสะอื้นออกมา สายตามองเหม่อไปยังข้างทางที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนที่กำลังจับจ่ายใช้สอย หาของอร่อยทานยามดึก ก่อนที่รถจะเคลื่อนผ่านตรงนั้นไปถึงสะพานที่มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน สารถีจำเป็นชะลอรถและจอดสนิท เขาเปิดประตูลงขณะที่ป๊อปยังคงมีอาการมึนงง ก็ถ้าจะลงไปยืนชมวิวชวนกันสักหน่อยก็ยังดี หรือเขารำคาญเสียงร้องของเธอตอนนี้กันนะ ไม่เคยร้องไห้ให้ใครฟังด้วยสิ มันทุเรศมากหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทว่าอยู่กับความคิดของตัวเองได้ไม่นานนัก ประตูฝั่งป๊อปก็ถูกเปิดพร้อมกับสายตาคมเข้มที่ส่งมาเป็นสัญญาณว่าให้ลงไป ป๊อปพยักหน้าแล้ววางมือถือที่มีแต่แจ้งเตือนของน้องรหัสกับผู้ชายสารเลวคนนั้นตลอดหลายวันที่ผ่านมา ป๊อปไม่คิดจะเปิดอ่าน ไม่คิดจะรับสาย แล้วก็ไม่ได้ไปเรียนหลายวันแล้ว ของานที่อาจารย์สั่งจากเพื่อนในสาขา ทำใจที่จะไปเจอคนพวกนั้นเมื่อไรค่อยไป “ถามจริง เมื่อกี้ร้องไห้น่าเกลียดไหม” “อืม” อย่างกับเด็กอนุบาล ป๊อปหลุดหัวเราะออกมาเพราะคำพูดที่ตรงไปตรงมาสั้นๆ แต่ได้ใจความของเขา มันเป็นเสียงหัวเราะที่ออกมาพร้อมกับน้ำตาอยู่ตอนนี้ “สรุปพี่รับงานเพื่อมาทำให้ป๊อปรู้สึกเครียดกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย” “ก็ถ้ายิ้มจะดีกว่า” น่ารักกว่ามากเลย คีตะพูดแล้วหันมามองป๊อป เพียงไม่กี่วินาที แล้วเขาก็หันกลับไปมองยังแม่น้ำสายใหญ่ตรงหน้าที่กำลังไหลผ่านใต้สะพานไป น่าแปลกที่คำพูดนั้นมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม