ปารวตีหยุดยืนมองหน้าร้านกาแฟที่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่ทำงานแห่งแรกของชีวิตนักศึกษาจบใหม่ แม้ว่าจะไม่ตรงตามสายที่หญิงสาวเรียนจบมา แต่ทว่าเจ้าหล่อนก็ยินดีที่จะทำงานนี้ ขอแค่เป็นอาชีพสุจริตและได้เงินมายังชีพ เพียงเท่านี้เธอก็พอใจแล้ว
“ไม่มีผู้ชายไม่เป็นไร แต่ถ้าเมื่อไหร่ตังค์หมดคืออดตาย”
มาถึงวันนี้ เรื่องที่ถูกชายคนรักทรยศหักหลัง ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับปารวตีมาก เมื่อเทียบกับเรื่องปากท้อง
หญิงสาวยิ้มให้ตัวเองอีกครั้งแล้วใช้มือเลื่อนเปิดประตู ทว่าประตูด้านหน้าทางเข้าร้านกลับเปิดไม่ได้ เพราะมันถูกล็อกจากด้านใน แต่ก็ไม่น่าแปลกหรอก เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน ก็เธอเล่นมาทำงานก่อนเวลาที่ตกลงกับเพชรน้ำหนึ่งตั้งครึ่งชั่วโมงนี่นา
“เฮ้อ~ แกนี่ตื่นเต้นไม่เข้าเรื่องจริงๆ เลยยัยปราง”
ด้วยว่าวันนี้เป็นวันทำงานวันแรก เมื่อคืนปารวตีจึงนอนไม่หลับทั้งคืน เจ้าหล่อนลุกขึ้นจากเตียงมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ตีสี่
“สงสัยคุณป้ายังไม่มาร้าน งั้นหาที่นั่งรอแถวนี้ก่อนแล้วกัน” เจ้าหล่อนสอดส่องมองหาสถานที่ที่คิดว่าเหมาะแก่การนั่งระหว่างรอเวลาเข้างาน พลันหญิงสาวก็มองเห็นโต๊ะม้าหินอ่อนที่วางตั้งอยู่ข้างร้านกาแฟ แต่ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวขาเดิน ก็ได้ยินเสียงประตูหน้าร้านเปิดออกเสียก่อน
หนุ่มลูกครึ่งไทยฮ่องกงชะโงกหน้าออกมามองหาคนที่พยายามเปิดประตูร้านเมื่อครู่ ก่อนที่ดวงตาคมปนหวานทั้งสองข้างจะกระทบเข้ากับใบหน้าถมึงทึงของใครบางคน
“คุณ! คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เธอปรี่เข้าไปหาผู้ชายหน้าหยกอย่างต้องการถามให้รู้เรื่อง ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดวงตกหรืออย่างไร ถึงได้เจอเฉินหมิงบ่อยขนาดนี้
“ผมสิต้องถามคุณมากกว่า คุณมาทำอะไรที่นี่ตั้งแต่เช้า” เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าปารวตีคือพนักงานประจำร้านกาแฟที่เพชรน้ำหนึ่งพึ่งรับเข้าทำงาน “จะว่าไปช่วงนี้เราสองคนก็เจอกันบ๊อยบ่อยนะ หรือ ว่า.. คุณแอบสะกดรอยตามผม” เขาหรี่ตามองคนตัวเล็ก
“ฉันเนี่ยนะ” ปารวตีชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “เฮอะ! ไม่มีทางย่ะ เวลาของฉันเป็นเงินเป็นทอง ไม่มัวเสียเวลาทำเรื่องไร้สาระอย่างนั้นหรอก อีกอย่างนะ มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องสะกดรอยตามคุณมิทราบ”
ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอ.. โลกกลมหรือเป็นเพราะกรรมนำพากันแน่นะ
ริมฝีปากบางหยักโค้งขึ้นเล็กน้อย “ก็เพราะคุณพิศวาสผมไง แต่ผมก็เข้าใจอยู่หรอกนะ ผมมันหล่อนี่นา”
คนฟังขำก๊าก “ฮ่าๆ คุณนี่ก็มั่นหน้าใช่เล่นเหมือนกันนะ เออ! คุณหล่อจริง หล่อเหมือนเทพบุตรมาจุติบนโลกมนุษย์ หล่อลากไส้ หล่อจนหมาไม่กล้าเห่า ฉันไม่ปฏิเสธหรอก แต่ฉันบอกเลยว่าไอ้ความหล่อของคุณมันไม่กระแทกตาฉันเลยสักนิด ฉันชอบผู้ชายที่แบบ.. เป็นสุภาพบุรุษ พูดจาให้เกียรติผู้หญิง และที่สำคัญนะ ฉันไม่ชอบคนที่จ้องแต่จะทำให้ครอบครัวชาวบ้านเขาแตกแยก”
ถึงแม้ว่าคำชมของปารวตีจะฟังดูทะแม่งๆ แต่ก็ช่างเถอะ
“ถ้าหมายถึงเรื่องคุณกวางล่ะก็.. คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมบอกแล้วไง ถึงผมจะชอบเพื่อนคุณมาก แต่ผมก็รู้จักผิดชอบชั่วดี จะจีบคนมีสามีไปทำไม สู้หาสาวโสดแถวนี้ไม่ดีกว่าเหรอ” เขาชำเลืองมองคนตรงหน้า “จะว่าไปคุณกวางก็ไม่ตรงสเปกผมซะทีเดียวหรอกนะ ผมน่ะชอบ.. พยศๆ หน่อย ปากเก่งนิด ชอบแบบจัดจ้านอะคุณ”
ดวงตาคู่คมปนหวานพราวระยับยามที่มองมายังเธอ ปารวตีเห็นแล้วรู้สึกขนลุก “นั่นมันก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักนิด ไม่ต้องมาบอก ไม่อยากรู้”
“อ้าวเหรอ! ก็นึกว่าอยากรู้ แล้วสรุปคุณมาทำอะไรที่นี่ ตอนนี้ร้านกาแฟยังไม่เปิดนะครับ”
พอได้ยินชายหนุ่มพูดเช่นนั้นก็ทำให้ปารวตีนึกได้ “ฉันมาน่ะไม่แปลกหรอก เพราะฉันเป็นพนักงานของร้านกาแฟ คุณนั่นแหละทำไมอยู่ที่นี่”
“พนักงาน? หมายความว่าคุณทำงานที่ร้านแม่ผมงั้นเหรอ”
เพชรน้ำหนึ่งเป็นแม่ของผู้ชายตรงหน้าเธออย่างนั้นหรือ.. ไม่อยากเชื่อเลยว่าโลกจะกลมขนาดนี้
“คุณเป็นลูกของป้าบัวเหรอ” เรียวคิ้วโก่งย่นเข้าหากัน “สงสัยฉันต้องไปทำบุญหน่อยแล้วล่ะ ช่วงนี้ดวงตกชะมัด”
“หมายความว่าไงคุณ”
“ก็เจอแต่เรื่องที่ไม่อยากเจอ เช่น.. คุณ”