ตึกคณะวิทยาศาสต์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
นักศึกษาหลายสิบชีวิตทยอยเดินคอตกออกจากห้องสอบจากวิชาเอกสุดหิน คนแล้วคนเล่าทรุดนั่งไหล่ตกบนเก้าอี้แถว มีคนเดียวผ่าเหล่าผ่ากอเดินยิ้มออกจากห้องสอบ
“แหม ยิ้มร่าเริงเชียวนะมุก ไหนก่อนเข้าสอบบอกไม่มั่นใจว่าจะสอบได้ไง” เมย์พูดน้ำเสียงเหน็บแนม
มุกตาภา ฉายาสาวน้อยร้อยเกรดเอยิ้มรับเต็มปาก นัยน์ตาเป็นประกายปิดเอาไว้ไม่มิด เพราะทำได้จริงๆ
ข้อสอบเกินกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์มุกตาภาตอบถูกทั้งหมด มีแค่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ทำไม่ได้ แต่หล่อนตัดช้อยออกจนเหลือแค่สอง เพราะฉะนั้นโอกาสตอบถูกมีเกินครึ่ง
คะแนนท็อปของสาขาจะเป็นใครไปได้นอกจากมุกตาภาคนนี้
“กำลังดีใจต่างหาก ที่วันนี้จะสอบเสร็จแล้ว”
“ให้มันจริงเถอะย่ะ ไม่ใช่ว่าผลสอบออกมาได้คะแนนเต็มเหมือนเทอมที่แล้ว” นิ่มหน้าบึ้ง นอยด์ตัวเองทำข้อสอบไม่ได้
“ไม่หรอก อาจจะมีผิดบ้าง 5 ข้อ 10 ข้อ ไม่เกินนี้”
สาวใต้ตาคมเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรเข้ามานั่งเรียบร้อยบนเก้าอี้ว่างถัดจากเมย์ กี้ นิ่ม กลุ่มเพื่อนสาวที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ช่วงชั้นปีหนึ่ง
เพื่อนๆ จิกตามอง
“นี่กำลังอวดอยู่ใช่ไหม”
“ใช่น่ะสิ” มุกตาภาอมยิ้มจนแก้มจะแตก เขย่าขาเพื่อนให้เลิกงอน
“เสนอติวให้แล้วพวกแกไม่มีใครอยากติวเองนี่นา ฉันต้องตั้งใจ พวกแกก็รู้ว่ามีผู้ใหญ่ใจดีจ่ายเงินค่าเทอมให้ ถ้าสอบได้คะแนนน้อยโดนริบทุนแน่”
“มันขี้เกียจนี่หว่า แค่เข้าเรียนก็พอแล้ว เลิกเรียนก็ต้องเที่ยวสิ เสียเวลาติวหนังสือทำไม”
เพื่อนอีกสองคนสนับสนุนความคิดนิ่ม
“ถ้าไม่อยากติว เอาเป็นว่าครั้งหน้าฉันจะจดโน้ตสั้นๆ ให้นะ”
“ดี สั้นๆ ล่ะ ขี้เกียจอ่าน”
“เออ มุก แกลืมปิดโทรศัพท์เหรอ กระเป๋าแกวางไว้ใกล้โต๊ะสอบฉัน ได้ยินเสียงสั่นสองสามครั้งตั้งแต่ต้นชั่วโมง ทำเอาเสียสมาธิอ่านข้อสอบ”
“จริงเหรอ ไม่น่านะ”
มุกตาภาโดนโวย รีบเปิดซิปหยิบโทรศัพท์ออกมาดู แหะ! ไม่ได้ปิดเครื่องจริงด้วย แค่ปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ต
“โทษทีนะเมย์”
“ว่าแล้ว” เมย์กลอกตาไปทางอื่น สูดดมยาดมแก้ปวดหัว
“หิวแล้วอะ ไปหาอะไรกินกันเถอะ บ่ายสองพวกเรายังมีสอบอีกวิชา”
“เออ ไปกัน”
กลุ่มเพื่อนสนิทมุกตาภาสะพายกระเป๋าเตรียมไปลงลิฟต์ มีมุกตาภาคนเดียวไม่ได้ตามไปรวมกลุ่ม เพิ่งจะสังเกตหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรมาคือย่าสะอาด
ย่าเลี้ยงดูมุกตาภามาตั้งแต่ยังเล็ก รักหล่อนเสมือนหลานสาวแท้ๆ ถึงขั้นให้ทุนการศึกษามาเรียนระดับปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ ค่าหอ ค่ากิน ค่าอยู่ ย่าสะอาดออกให้ทั้งหมด เป็นความเมตตาที่มุกตาภาจะกลับไปตอบแทนเมื่อจบการศึกษา
“ไปกันก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันตามไป พอดีว่าย่าโทรมาไม่ได้รับ ฉันจะโทรกลับไป เผื่อย่ามีธุระสำคัญ”
“เออ เอาอะไร จะสั่งไว้รอ”
“เอาข้าวไก่ทอดกระเทียมพริกไทย”
“โอเค”
“ป้าพิศ สวัสดีค่ะ”
รอไม่นาน ป้าพิศ คนดูแลย่าสะอาดรับสาย
“นะ... น้องมุก”
“มุกเห็นเบอร์ย่าโทรมาก็เลยโทรกลับค่ะ”
“ท่าน เอ่อ... เข้าห้องไปเอนหลังนอน ป้าไปดูให้นะ เผื่อท่านจะยังไม่หลับ น้องมุกถือสายรอก่อน”
“ขอบคุณค่ะ ป้าพิศกับทุกคนที่นั่นสบายดีไหมคะ”
“สบายดีจ้ะ สบายดีมาก รอก่อนนะ”
คุยสายนานกว่านี้กลัวจะเผลอแสดงพิรุธ เอามือปิดโทรศัพท์ไว้ เร่งฝีเท้าเข้าไปหาคุณสะอาด
ท่านไม่ได้นอนกลางวัน แต่เข้ามาสวดมนต์ส่งผลบุญไปให้นายเมฆกับนังนวล ที่ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรในป่าใหญ่
‘น้องมุกค่ะ’
ขยับปากไม่ออกเสียงบอกคุณสะอาด
หญิงสูงวัยเข้าใจ “ว่างแล้วเหรอลูก ถึงได้รีบโทรกลับมาหาย่า”
“สวัสดีค่ะย่า สอบวันสุดท้ายค่ะ มุกเพิ่งออกจากห้องสอบ ย่าสบายดีไหมคะ มุกจะโทรหาทีไรก็ยุ่งกับอ่านหนังสือสอบจนลืม”
“แค่น้องมุกส่งรูปเข้ามาในไลน์ ย่าได้อ่านก็หายคิดถึงแล้วลูก เป็นยังไงบ้าง สอบได้ไหม เทอมนี้จะเอาเกรด A กี่ตัวมาให้ย่าชื่นใจจ๊ะ”
“เหมาหมดเลยค่ะ มุกตั้งใจเรียน ตอบแทนเงินทุกบาทที่ย่าส่งเสีย ย่าโทรหามุก มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าคะ มุกว่าง คุยนานได้ค่ะ”
คนแก่หูยังใช้งานได้ดี ฟังออกว่าเด็กสาวมีโทนเสียงที่สดใส ไม่ได้เศร้าหมอง
เท่ากับว่าหล่อนยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อของหล่อน และไม่มีใครในหมู่บ้านติดต่อไปส่งข่าว
แน่ล่ะ ใครจะอยากเป็นศัตรูกับอัครา
นายเมฆกับนังนวลทำผิด ตายไปมีแต่คนสาปส่งสมน้ำหน้า
“ย่าโทรหาแค่จะถาม ปิดเทอมนี้จะกลับบ้านไหมจ๊ะ หรือจะอยู่เที่ยวกรุงเทพฯ”
“ลังเลค่ะย่า พ่อเมฆบอกไม่ต้องกลับก็ได้ มุกอยากกลับ แต่กลับไปก็ไม่มีอะไรทำ มุกก็เลยสมัครทำงานพาร์ทไทม์ไว้ในร้านสะดวกซื้อ หรือย่าอยากให้มุกกลับไปปรนนิบัติรับใช้คะ มุกกลับบ้านไปหาย่าได้ สอบเสร็จกลับได้เลย น่าจะทันรถรอบสุดท้าย”
“อยู่เที่ยวเถอะ คิดซะว่าเป็นการปิดเทอมครั้งสุดท้ายที่จะได้อยู่กับเพื่อน ปิดเทอมใหญ่ปีสี่ครั้งหน้า น้องมุกก็เรียนจบแล้ว ย่าแข็งแรงดี มีแม่พิศคอยดูแล ไม่เป็นไรหรอกลูก ทางเหนือย่าได้ยินว่ามีที่เที่ยวสวย อยากไปไหมลูก ย่าจะส่งเงินให้ ชวนเพื่อนไปด้วย ย่าเอ็นดู จะจ่ายค่ารถ ค่าที่พักให้ทุกคน”
กลัวมุกตาภาอาจจะช็อกจนพาตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบันไม่ได้ ไม่ยอมกลับไปเรียนชั้นปี 4 ให้จบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ย่าสะอาดอยากให้มุกตาภามีวุฒิปริญญาตรีติดตัว
ย่าสะอาดไม่เหมือนอัครา แยกแยะได้ว่าพ่อกับลูกคนละคนกัน ไม่ได้พาลจับเรื่องนั้นมาผสมกับเรื่องนี้จนโกรธไปหมดทุกอย่าง
“ขอบคุณค่ะย่า แต่ไม่รบกวนหรอกค่ะ มุกมีเงินเก็บจากค่าขนมที่ย่าเคยให้ ที่จริงเพื่อนมุกชวนไปเที่ยวทะเลใกล้ๆ กรุงเทพฯ นั่งรถตู้ไม่นานก็ถึง มุกยังไม่ได้ตอบรับ บอกรอให้สอบเสร็จก่อนค่อยคุยกัน”
“ไปเที่ยวกับเพื่อนให้สนุกเถอะนะ ใช้ชีวิตวัยสาวให้คุ้ม ไปถึงแล้วถ่ายรูปส่งมาให้ย่าดูด้วย ย่าชอบเก็บรูปไว้กลับมาเปิดดูซ้ำๆ”
“ค่ะย่า ถ้าได้ไป มุกจะถ่ายตั้งแต่ตอนเก็บกระเป๋าจนถึงตอนกลับมาถึงห้องเลยค่ะ”
“น่ารักที่สุด ย่าเพลียแล้ว คุยแค่นี้นะลูก”
“ค่ะย่า นอนพักผ่อนนะคะ”
มุกตาภาตามมาสมทบเพื่อนที่ร้านอาหารตามสั่งข้างตึกคณะ สถานที่ประจำที่มาฝากท้องเป็นประจำนับตั้งแต่เข้าเรียนชั้นปีที่หนึ่ง
“ย่าของมุกใจดีจังเลยเนอะ ฉันอยากมีคนอุปการะบ้างจัง”
“ได้ยินมุกเคยเล่าว่าย่ามีหลานชายใช่ไหม หล่อมากปะ อยากเห็นรูปจัง ผู้ชายใต้ คงจะผิวเข้ม กล้ามแน่น อูย... แค่คิดก็เสียว”
เมย์ทำหน้าฟิน
“เสียวอะไรกัน น่าเกลียด ลองไปเจอตัวจริงก่อน จะวิ่งหนีป่าราบ เพราะกลัวเขา เขาตัวสูง ตัวหนา หน้าตาน่ากลัว หนวดรุงรัง ผิวพรรณเข้ม ตามประสาคนทำงานในเหมือง ใช้แรงงานวันละไม่ต่ำกว่าสิบชั่วโมง ไหวไม่ไหว ถามใจตัวเองดู”
มุกตาภาตักข้าวกินพลางส่ายหน้ายิ้มๆ
เพื่อนสาวคนสวยอ่านนิยายเพ้อฝันมากไปหรือเปล่า ถึงคิดเพ้อฝันไปไกล ตัวจริงคนงานแต่ละคนน่ากลัวทั้งนั้น ตัวสูง ใหญ่ ล่ำ น่ากลัวจะถูกเขาฆ่าด้วยมือเปล่ามากกว่า ไม่ได้เจอหน้าแล้วเสียว น้ำเดิน อะไรเลย
โดยเฉพาะผู้ชายตัวใหญ่ผิวเข้มกว่าโกโก้ไหม้อย่างนายหัวอัคราหลานชายย่าสะอาด
“อายุเท่าไหร่เหรอ มีเมียยัง”
หน้าเมย์ห่างไกลจากการฟินในช่วงแรก
“อืม...” อัคราอายุน้อยกว่าพ่อเมฆ 15 ปี คราวๆ น่าจะประมาณนี้มั้ง “34-35 มั้ง ไม่แน่ใจ”
“มีเมียแล้วด้วย ถึงจะยังไม่ได้มีพิธีแต่งงาน แต่พวกเขาอยู่กินกันมาหลายปี มีเรือนหอส่วนตัวหลังใหญ่มาก เมียเขาสวยที่สุดในอำเภอเลยแหละ ชื่อพี่นวล ผิวขาว หุ่นดี หน้าตาละเอียดลออ พ่อเล่าว่าสมัยเมียหลานย่ายังสาว ผู้ชายตามจีบทั้งจังหวัด ลูกชายผู้ว่าฯ สมัยสิบกว่าปีก่อนยังเคยมาจีบ แต่ไปยังไงมายังไงไม่รู้ ได้มาเป็นเมียหลานย่า คงเพราะหลานย่ารวยมั้ง”
จะว่าหล่อก็ไม่น่าจะใช่ ถ้านวลจันทร์สวยที่สุดในอำเภอ อัคราก็คงจะน่ากลัวที่สุดในอำเภอ ต่างกันสุดขั้ว
“แก่อะมุก” อายุห่างกันขนาดนี้ เมย์เซย์กุ๊ดบาย
“ฉันชอบคนรวย แต่ถ้าแก่ แถมยังมีเมียแล้ว ก็ไม่ไหว ให้ไปอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนแบบนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกัน ฉันชอบความซิตี้ หันไปทางไหนเจอไฟ ไฟแท้ๆ ทั้งดวง ไม่ใช่ไฟจากหางหิ่งห้อยเหมือนหลังบ้านแก”
“จ้าๆ ถ้าไม่อยากเห็นหิ่งห้อยทุกวัน อย่าเผลอไปตกหลุมรักหนุ่มบ้านป่าเมืองเถื่อนแล้วกันนะ แล้วจะขำไม่ออก”
มุกตาภาแซวเมย์เล่นขำๆ
หมู่บ้านหน้าเหมืองกันดารมาก อยากเดินห้างฯ แต่ละครั้งขับรถเข้าเมืองไปกว่าหนึ่งชั่วโมง ไม่มีหรอกพิซซ่า เคเอฟซี บิงซู ซูซิ ที่เมย์ชอบกิน ถ้าจะไปอยู่จริง คงต้องปรับตัวขนานใหญ่