EP 7. หกเดือนที่แล้ว
“คิดเสียว่าทำเพื่อน้อง ทำเพื่อแม่ นี่เป็นโอกาสดีที่หนูจะได้ตอบแทนบุญคุณของแม่นะ” พิมลพรรณวางมือลงบนหลังมือของลูกเลี้ยง ถ้าเธอจะบังคับและลำเลิกบุญคุณย่อมทำได้ แต่คงไม่เป็นผลดีต่ออินตรา เพราะแม้จะขอให้ดารินทร์อุ้มบุญให้ แต่เป็นการอุ้มบุญเทียม มิใช่อุ้มบุญแท้ที่ใช้ไข่ของอินตรา ที่ต้องอุ้มบุญเทียมโดยใช้ไข่ของผู้อุ้มบุญนั้นก็เพราะว่าอินตราเป็นหมัน
ทว่าเรื่องนี้ยังไม่ได้บอกดารินทร์ เพราะต้องรอให้หญิงสาวสมยอมเสียก่อน จึงปล่อยให้ดารินทร์เข้าใจว่าเป็นการอุ้มบุญแท้ จากนั้นจึงค่อยเกลี้ยกล่อมเรื่องนี้อีกทีหนึ่ง
ดารินทร์อึกอักหมายจะปฏิเสธ
“ดาคิดว่า...”
โครม!
เสียงดังโครมครามจากด้านนอกทำให้ทั้งสองตกใจ พิมลพรรณและดารินทร์รีบวิ่งหน้าตาตื่นไปตามต้นเสียงทันที ภาพที่เห็นคืออินตราล้มลงกับพื้น โดยมีเก้าอี้ล้มไปอีกทาง บนเพดานมีเชือกผูกเป็นห่วงห้อยลงมา
อินตราตั้งใจจะฆ่าตัวตาย!
“ลูกอินทำบ้าอะไรเนี่ย เรื่องแค่นี้ทำไมต้องคิดสั้นด้วย ถ้าพี่เขาไม่ช่วยเราก็ไปจ้างใครก็ได้นี่ลูก” พิมลพรรณกอดบุตรสาวแล้วบีบน้ำตาร้องไห้
“อินอยากตายไปซะ ผู้หญิงที่มีลูกไม่ได้คงไม่มีค่าอะไรอีกต่อไป คุณอเล็กต้องทิ้งอินไปมีผู้หญิงคนใหม่แน่ๆ อินคงไม่เป็นที่ต้องการของใครอีกแล้ว ไม่มีใครรักอินอีกแล้ว” อินตราตีอกชกหัว ดารินทร์เห็นดังนั้นก็ได้แต่ยืนอึ้ง เพราะปกติแล้วอินตราเป็นผู้หญิงที่รักตัวเองมาก อะไรที่ทำให้ตัวเองลำบากหรือเจ็บปวดเธอแทบไม่กล้ำกราย
“อิน...” หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งข้างน้องสาวต่างสายเลือด เพียงเท่านั้นเองอินตราก็โผเข้ากอดดารินทร์ไว้บีบน้ำตาให้หยาดหยดลงบนไหล่ของอีกฝ่าย ดารินทร์เงยหน้าขึ้นมองเพดานอย่างสะกดกลั้น ด้วยสงสารอินตราจนน้ำตาคลอ
“ถ้ามันเป็นความสุขของอิน พี่จะอุ้มบุญให้อินเอง” เธอตัดสินใจออกไปด้วยความสงสารน้อง ช่างน่าขำทั้งที่เธอก็เป็นเพียงผู้หญิงช่างฝันที่อยากมีความรัก อยากมีลูกและใช้ชีวิตครอบครัวกับใครสักคน แต่ทุกอย่างกลับพังครืน แฟนไม่มี แถมต้องอุ้มท้องกว่าเก้าเดือน
“ถ้าฝืนใจก็อย่าดีกว่าค่ะ อินรู้ว่าขอพี่ดามากเกินไป” อินตราผละออกจากอ้อมกอดแล้วใช้ปลายนิ้วกรีดหยาดน้ำตา
“ไม่เลยอิน พี่เต็มใจ ขอแต่มันเป็นความสุขของอิน พี่ยอม”
“ขอบคุณนะคะพี่ดา ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราไปหาพี่หมอไกรกันเลยนะคะ”
“พรุ่งนี้เลยเหรอ” ดารินทร์ตกใจไม่น้อย ด้วยไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะรวดเร็วถึงเพียงนี้ แต่ก็พยักหน้ารับปากไปในที่สุด ด้วยไม่อาจทนเห็นน้ำตาของอินตราได้ โดยไม่รู้เลยว่าลับหลังตน มารดาเลี้ยงกับน้องสาวที่เธอรักราวกับน้องแท้ๆ จะหัวเราะต่อกระซิกขบขันกับความโง่เขลาไม่ทันเล่ห์ของตน
แต่คนที่แปลกใจที่สุดเห็นจะเป็นนายแพทย์ไกรวิทย์ หรือหมอไกร...ลูกพี่ลูกน้องของอินตรา เขาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นหญิงสาวผู้ที่จะทำหน้าที่อุ้มบุญ
“แน่ใจหรือครับว่าดาจะอุ้มบุญให้อิน” หมอไกรวิทย์ถามย้ำอีกครั้ง
“แน่ใจสิคะพี่หมอ พี่ดากับอินตกลงกันเรียบร้อยแล้วค่ะ ใช่มั้ยคะพี่ดา” อินตราหันมาถามหญิงสาว จ้องมองอย่างรอคอยคำตอบ ดารินทร์พยักหน้า หากเธอรับปากไปแล้วก็ไม่คิดกลับคำ
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ไม่ขัดข้องครับ หากเป็นความสมัครใจของเจ้าตัว” หมอไกรวิทย์มองดารินทร์อีกครั้งราวกับต้องการให้หญิงสาวปฏิเสธ แม้เขาจะไม่สนิทกับดารินทร์ทว่าน้าพิมลพรรณกับอินตรามีนิสัยอย่างไรนั้นเขาทราบดี
“แล้วคุณอเล็กซานโดรล่ะครับทราบเรื่องแล้วใช่มั้ย”
ดารินทร์ขมวดคิ้วมุ่น หันไปมองอินตรา เธอเกือบลืมไปเลยว่าการจะอุ้มบุญได้นั้นผู้เป็นพ่อและแม่ต้องยินยอมทั้งสองฝ่าย
“แน่นอนค่ะ น้ำเชื้อก็เก็บไว้แล้วนี่คะ คุณอเล็กเดินทางไปบราซิลเขาฝากบอกว่าให้จัดการทุกอย่างได้เลย ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
ไกรวิทย์พยักหน้าอีกครั้งอย่างไม่สงสัยอะไรเพราะคราวก่อนที่ทั้งคู่มาที่นี่นั้น อเล็กซานโดรได้ส่งน้ำเชื้อให้เก็บรักษาแล้วบินไปทำงานต่อที่ต่างประเทศทันที ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นนั้นอินตราเป็นคนจัดการเองทั้งหมด ด้วยความที่เป็นญาติกันเขาจึงไม่ติดใจ หารู้ไม่ว่าอเล็กซานโดรทราบเพียงว่านำน้ำเชื้อของตนมาทำกิฟต์กับภรรยา หาใช่อุ้มบุญอย่างที่อินตราตกลงกับหมอไกรวิทย์
“ระหว่างนี้อย่าลืมตกลงเรื่องสัญญาหรือข้อตกลงกันให้เรียบร้อยนะครับ จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง เพราะกรณีการอุ้มบุญนั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน” นายแพทย์หนุ่มเอ่ยเตือนอีกครั้ง มองเห็นความยุ่งยากใจในภายหน้าอยู่รำไร
“ไม่มีปัญหาค่ะพี่หมอ อินเตรียมเอกสารมาเรียบร้อยแล้ว” อินตรายิ้มหวานแล้วหยิบเอกสารออกมายื่นให้ดารินทร์
“นี่ค่ะพี่ดา ลองอ่านดูสิคะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญตามสบายครับ เดี๋ยวพี่กลับเข้ามา” เมื่อหมอ ไกรวิทย์เดินออกไปแล้วดารินทร์จึงก้มลงอ่านเนื้อหาในสัญญาซึ่งมีเนื้อหาไม่มาก ทว่ากลับสะดุดกับสัญญาข้อหนึ่งที่ว่าเธอยินยอมมอบไข่ของเธอเพื่อผสมกับน้ำเชื้อของอเล็กซานโดร
“เดี๋ยวอิน นี่มันหมายความว่ายังไง”
อินตราตอบได้ทันทีโดยไม่ต้องดูด้วยซ้ำว่าดารินทร์หมายถึงสัญญาข้อใด ราวกับได้เตรียมการทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว