โชคดีที่อากาศยังไม่เย็นมาก หลี่ซินเหมยจึงยังไม่ต้องการเสื้อคลุมอย่างน้อยก็ในอีกสองสามวันข้างหน้า ความจริงนางยังพอมีเสื้อคลุมเหลืออยู่สองสามตัว ทว่าล้วนเป็นของมีราคา ไม่เหมาะสมกับอาชีพคนสวนของสกุลโจวเลยแม้แต่น้อย
ระหว่างเดินทางไปยังแปลงผักหลวง โฉมงามก็กอดตนเองเพื่อป้องกันความหนาวเสียแน่น พลางภาวนาให้อากาศไม่เย็นลง จนกว่านางจะได้เสื้อคลุมกันหนาวราคาถูกจากตลาดในภายหลัง
คุณหนูตกอับปล่อยให้ใจลอยละล่องอยู่ได้เพียงครู่เดียว เสียงตะโกนด่าของหัวหน้าคนสวนชั่วคราวก็ดังกระทบโสตประสาท ตั้งแต่ยังมิทันก้าวขาเข้าสู่อาณาเขตของแปลงผักหลวง
ชายร่างเล็กกำลังทุ่มเถียงเสียงดัง พลางตวาดคนสวนสองสามรายที่นางจำได้ว่ารับผิดชอบดูแลแปลงผักไม้เลื้อย
ติงเกาโกรธจนตัวสั่น ในมือขยุ้มกระดาษจนยับยู่ยี่ไปหมด
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือพี่ติงเกา”
นางรับกระดาษที่ติงเกาบอกว่าได้มาจากคุณชายเมื่อวาน ปรากฏว่าคือรายการผลิตผลที่จะต้องส่งเข้าเมืองหลวงในบ่ายวันนี้
“พวกมันสองคนเลินเล่อ ทำงานสะเพร่ายิ่งนัก!” ติงเกาตวาดสองสหายรูปร่างสูงใหญ่ที่คอยตามติดเขาอยู่เสมอ
อู๋ฮวนและหูเฉินหน้าตาซีดเซียว มั่นใจว่าคราวนี้คงจะต้องถูกไล่ออกเป็นแน่
“เช้านี้อากาศเย็นลงมาก หากรออีกสักหน่อยก็อาจจะมีลมแรงพัดผ่าน และนั่นจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่เข้าไปกันใหญ่”
“น้องสาวซินเหมยเห็นสมควรจัดการอย่างไรเล่า”
ติงเกาทราบคำตอบดี ทว่ามิกล้าเอ่ยเสียงดัง หรือจะพูดให้ชัดก็คือ ชายหนุ่มร่างเล็กไม่กล้าแสดงความรับผิดชอบ
“เผาทิ้งให้หมด หากมีปัญหา ข้าจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง!”
โฉมงามอธิบายเหตุผลอย่างละเอียดแล้ว และพอเห็นว่าไม่มีใครยอมขยับตัว นางจึงหยิบเอากิ่งไม้แห้งบริเวณนั้น โยนเข้าไปจนได้ปริมาณที่พอเหมาะ ก่อนจะจัดการจุดไฟเพื่อกำจัดปัญหาทั้งหมดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
หลี่ซินเหมยเคยประสบปัญหาพวกนี้มาก่อน และหากยังลังเลไม่ยอมตัดสินใจให้เด็ดขาด ทุกอย่างก็อาจจะสายจนเกินแก้
นางยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นมิได้...
“นี่เจ้าทำอะไรลงไป!”
“คุณชายฟังข้าอธิบายก่อนนะเจ้าคะ”
หลี่ซินเหมยมินึกว่าคุณชายจะตื่นเช้า ชะรอยกลิ่นควันไฟจะปลุกเขาให้ลุกออกจากเตียงก่อนจะถึงเวลาตื่น
“เจ้าเผาแปลงผักข้า ยังจะต้องอธิบายกันอีกหรือ!” คุณชายโจวเล่อเทียนตะโกนเสียงดัง กระทั่งเหล่านกน้อยที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นยังต้องรีบบินหนี
ตลอดสองเดือนเศษที่ได้ทำความรู้จักกันมา หากคุณชายเจ้าสำอางรู้สึกมิพอใจก็จะทำแค่เพียงชักสีหน้าและบ่นพึมพำไปตามเรื่อง พอเห็นเขาแสดงอารมณ์เกรี้ยวกราดอาละวาดเสียงดัง หลี่ซินเหมยก็ถึงกับทำอันใดไม่ถูก นึกอยากจะสรรหาคำมาอธิบาย ทว่าก็ตกใจจนกล่าวออกมาเป็นคำพูดมิได้ และสีหน้าของคนที่กำลังโกรธก็ทำให้นางตระหนักเรื่องสำคัญได้อีกประการหนึ่ง
คุณชายเจ้าของแปลงผักหลวงดูคล้ายจะหมดความชอบในตัวของหลี่ซินเหมยเสียแล้ว...