วันนี้เป็นวันศุกร์ฉันตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่ออาบน้ำไปโรงเรียนแต่ระหว่างทางฉันก็บังเอิญเจอกับรุ่นพี่ที่โรงเรียน คนหนึ่ง
“ คะนิ้ง ”
ฉันแอบยิ้มที่ได้ยินพี่เขาเรียกชื่อฉันเพราะอะไรรู้ไหม ก็เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายที่ฉันแอบชอบมานานแล้วน่ะสิ
“ พี่บอลมาแถวนี้ได้ไงคะ ”
ฉันพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้รู้ว่าฉันดีใจมากแค่ไหนที่ได้เจอพี่เขา
“ พอดีว่าบ้านป้าพี่อยู่ที่นี่น่ะแล้วพรุ่งนี้ลูกชายป้าพี่ก็จะแต่งงานเมื่อคืนบ้านพี่เลยมาค้างที่นี่กันหมดเลย ”
“ อ๋อ ”
ฉันแค่ได้ตอบไปสั้นๆเพราะไม่รู้ว่าจะถามอะไรต่อดี เคยไหมเวลาอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบมันจะตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
“ งั้นวันนี้พี่ขอไปโรงเรียนพร้อมคะนิ้งได้ไหม ”
เพราะพี่เขาตัวสูงมากเวลาคุยกับฉันเลยต้องก้มลงมา
“ ได้สิคะ ”
ฉันเอ่ยด้วยท่าทีที่เขินนิดๆก็พี่เขาเล่นจ้องจนแก้มฉันมันแดงไปหมดแล้ว จากนั้นฉันกับพี่บอลก็เดินไปโรงเรียนพร้อมกันแต่เดินออกมาได้ไม่เท่าไหร่ฉันก็เห็นนายทึ่มเดินออกมาจากร้านค้าข้างทางและกำลังมองมาที่ฉันผ่านกรอบแว่นหนาเตอะเหมือนเช่นทุกครั้ง ฉันไม่ได้ทักอะไรแล้วนายนั่นก็ไม่ทักฉันเหมือนกัน
หลังจากที่เลิกเรียนฉันก็รีบกลับมาบ้าน วันนี้ที่โรงเรียนมีประชุมครูเลยปล่อยให้พวกฉันกลับมาตั้งแต่เที่ยงแล้ว
“ คะนิ้ง ”
“ จ๋าแม่ ”
ฉันขานรับทันทีที่ได้ยินเสียงแม่เรียกก่อนจะเดินเข้าไปหาแม่ที่นั่งรออยู่ในบ้าน เมื่อกี้ฉันนั่งล้างจานอยู่ในครัว
“ อ่ะเอาไป ”
“ แม่ให้เงินนิ้งทำไม ”
ฉันมองแบงค์ร้อยที่อยู่ในมือจากที่ใช้สายตานับคร่าวๆน่าจะหลายร้อยอยู่ซึ่งมันเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากสำหรับฉัน อีกอย่างปกติแม่ก็ไม่เคยให้เงินฉันเยอะขนาดนี้นอกจากว่าฉันจะขอไปทำรายงานแต่นี่ฉันยังไม่ได้เอ่ยปากอะไรเลย
“ เอาไปเหอะ วันนี้ที่วัดมีงานไม่ใช่หรอเอาไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆใส่แล้วก็…วันนี้แกกลับมืดๆก็ได้นะ ”
“ กลับมืด ”
ฉันทวนคำพูดของแม่เพราะปกติแม่ไม่ชอบให้ฉันไปเที่ยวที่ไหน ทำไมวันนี้แม่ใจดีจัง
“ แกไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนไม่ใช่หรอไปเปิดหูเปิดตาบ้างสิวันนี้แม่อนุญาต ”
ฉันมองแบงค์ที่อยู่ในมือก่อนจะยัดมันลงไปในกระเป๋ากางเกงแล้วตอนนั้นแม่ก็ดึงฉันเข้าไปกอด
“ แม่รักแกนะคะนิ้ง ”
พอกอดแล้วแม่ก็ลูบผมฉันปอยๆตั้งแต่ที่พ่อทิ้งเราสองแม่ลูกแม่ก็ไม่ค่อยได้กอดฉันเท่าไหร่เพราะวันๆหนึ่งของแม่นอกจากนอนแล้วก็ต้องอยู่กับผู้ชายพวกนั้น ซึ่งแม่รับปากฉันว่าต่อไปจะรับงานพวกนี้น้อยลง
“ นิ้งก็รักแม่นะ ”
ฉันโผลเข้าไปกอดทันที อ้อมกอดของแม่สร้างความอบอุ่นให้ฉันมากแต่ถ้าพ่อไม่ทิ้งฉันกับแม่ไปครอบครัวของฉันก็อาจจะอบอุ่นมากกว่านี้
พอบ่ายคล้อยฉันก็ออกมาจากบ้านหลังจากที่นัดแนะกับพวกเพื่อนไว้แล้วว่าวันนี้จะไปเที่ยวงานวันด้วยกันแต่พอเข้ามาในงานได้ไมเท่าไหร่ก็มีกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกันจนงานแตกเจ้าอาวาสวัดเลยต้องสั่งยุติงานบุญทันที
“ เจอกันวันจันทร์นะ ”
“ อื้ออ แล้วเจอกัน ”
ฉันโบกมือให้พวกเพื่อนของฉันก่อนจะเดินกลับมาที่บ้าน ตอนนี้พึ่งจะห้าโมงเย็นฉันเลยกะว่าจะเข้าไปเอาผ้าแม่มาซักสักหน่อยแต่ในตอนที่กำลังจะเปิดประตูเข้าไปฉันก็ได้ยินเสียงโหยหวนดังออกมา
!!!
แต่ภาพที่ฉันเห็นคือแม่ฉันถูกผู้ชายคนหนึ่งจับมือมัดไพล่หลังด้วยสภาพที่เปลือยทั้งตัวและที่ทำให้คนเป็นลูกอย่างฉันถึงกับเข่าอ่อนก็คือการที่ผู้ชายคนนั้นใช้เชือกฟาดไปที่ตัวของแม่ด้วยใบหน้าหื่นกามในขณะที่กำลังมีเซ็กส์กับแม่ด้วยความรุนแรง
เพี๊ยะ!!!
เพี๊ยะ!!!
เพี๊ยะ!!!
“ โอ๊ยยย!! พี่ดิษนวลเจ็บ อ๊าส์!!! ”
ฉันยกมือขึ้นปิดปากในตอนที่แม่ร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะเชือกเส้นนั้นฟาดลงไปกลางหลังและก้นของแม่หลายต่อหลายครั้ง
เพี๊ยะ!!
เพี๊ยะ!!
เพี๊ยะ!!!
“ ร้องออกมาเลยนวลร้องดังๆพี่ชอบ อืมมมสุดยอด!! ”
ร่างเปลือยของแม่โยกไปตามแรงที่ผู้ชายคนนั้นกำลังกระแทกเข้าใส่ ตามตัวของแม่มีรอยแดงช้ำดำเขียวเต็มไปหมดแต่ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไรยังคงใช้เชือดฟาดแม่ฉันไปพร้อมกับการที่สอบเอวเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง
“ ออกมาจากแม่หนูเดี๋ยวนี้เลยนะ ”
ฉันวิ่งเข้าไปแล้วผลักผู้ชายคนนั้นออกจากแม่ ร่างกายเปลือยเปล่าทำให้ฉันมองเห็นอวัยวะเพศของผู้ชายคนนั้นเต็มสองตา
“ คะ….คะนิ้ง! ”
พอเห็นหน้าฉันแม่ก็ตกใจหน้าซีดแต่ก็คงไม่เท่าฉันที่กลับบ้านมาแล้วเห็นสภาพแม่ตัวเองเป็นแบบนี้
“ แม่ แม่เจ็บมากไหม ”
ฉันถลาเข้าไปหาแม่แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมา
“ นี่ลูกนวลหรอ โตเป็นสาวขนาดนี้เชียว ”
น้ำเสียงหื่นกระหายของผู้ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นพร้อมกับสำรวจตัวฉันตั้งแต่ศรีษะจรดเท้าแถมยังเป็นสายตาที่ทำให้ฉันเริ่มจะกลัวขึ้นมา
“ ออกไปสิคะนิ้ง ออกไปเร็วเข้า! ”
“ ไม่ไป ถ้าแม่ไม่ไปกับนิ้งนิ้งก็จะไม่ไปไหนเด็ดขาด ”
ฉันบอกแม่ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น เรื่องอะไรที่ฉันจะยอมให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้มีเซ็กส์กับแม่ด้วยวิธีที่คนปกติเขาไม่ทำกัน
“ แม่บอกให้แกไปไงไม่ได้ยินที่แม่บอกหรอ ”
คราวนี้แม่ดูโกรธฉันมาก แม่ตะคอกใส่ฉันแววตาของแม่เต็มไปด้วยความบอบช้ำที่ฉันไม่อาจเข้าใจได้
“ จะว่าไปลูกสาวนวลก็โตเป็นสาวแล้วนะพี่ว่า…..”
“ ไม่นะพี่ ลูกสาวนวลไม่เกี่ยวพี่อยากทำอะไรพี่ทำฉันคนเดียวฉันยอมทุกอย่าง นะพี่ดิษนะถือว่านวลขอร้อง ”
ในตอนที่ผู้ชายคนนั้นทำท่าจะเข้ามาหาฉันแม่ก็รีบไปขอร้องพร้อมกับกอดแข้งกอดขาอย่างน่าเวทนาแต่แทนที่จะเห็นใจผู้ชายคนนั้นกลับผลักให้แม่นอนลงไปก่อนจะตามไปคร่อมทันที
“ งั้นนวลก็บอกให้ลูกสาวคนสวยของนวลออกไปเร็วสิก่อนที่พี่จะเปลี่ยนใจ ”
“ ยินไหมคะนิ้งออกไปสิแล้วคืนนี้แกก็ไม่ต้องกลับมานอนที่บ้านนะ ”
ฉันได้แต่ยืนอึ้งที่เห็นแม่ตัวเองยอมทำตามผู้ชายป่าเถื่อนคนนั้นอย่างว่าง่ายแถมแม่ยังไม่ให้ฉันกลับมาที่บ้านอีก
“ หนู....หนูจะไปแจ้งตำรวจ ”
“ อย่านะคะนิ้งแกอย่าทำอะไรบ้าๆนะ! ”
แม่ขึ้นเสียงใส่ฉันทันทีที่เห็นฉันกำลังจะออกมาจากห้อง
“ ทำไมล่ะแม่ เขาทำกับแม่ขนาดนี้แม้ยังจะยอมอีกหรอ ”
ฉันถามด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้ สภาพที่น่าสมเพสของแม่ฉันในตอนนี้คนเป็นลูกอย่างฉันไม่อาจจะรับได้จริงๆทั้งที่แม่บอกว่าแม่จะเลิกทำอาชีพนี้แล้ว แล้วทำไมยัง......
“ แกยังเด็กแกไม่เข้าใจหรอกทำตามที่แม่บอกนะคะนิ้ง ออกไป ”
คำพูดที่ออกมาจากปากคนเป็นแม่ทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออก
แม่ทำไปเพราะอยากได้เงินส่งฉันเรียนหนังสือหรือทำเพราะแม่เป็นผู้หญิงติดเซ็กส์ไปแล้วกันแน่!
“ ใช่แล้วหนู หนูไม่รู้หรอกว่าการที่ฉันทำแบบนี้แล้วแม่หนูมีความสุขขนาดไหน จริงไหมจ๊ะนวล ”
ผู้ชายคนนั้นเชยคางแม่ให้เงยขึ้นก่อนจะใช้ลิ้นสากๆเลียไปตามใบหูของแม่อย่างน่าสะอิดสะเอียนแต่แม่กลับทำเหมือนไม่ได้รังเกียจหนำซ้ำยังโน้มใบหน้าผู้ชายคนนั้นลงไปที่หน้าอกตัวเอง
“ ออกไปสิแม่บอกให้ไปไง ”
ในขณะที่แม่ใช้ร่างกายตัวเองปรนเปรอตัณหาผู้ชายคนนั้นแม่ก็หันมาสั่ง ก่อนจะถูกผู้ชายคนนั้นลงลิ้นไปกับยอดอกชูชันของแม่จนเกิดเสียงหนึ่งขึ้น
“ แม่บอกให้แกออกไปไงคะนิ้ง ”
พอเห็นว่าฉันยังอยู่แม่ก็ตวาดใส่ฉันเสียงดัง ผู้ชายคนนั้นสอดใส่ของตัวเองเข้าไปในตัวแม่ต่อหน้าต่อตาฉัน ฝ่ามือใหญ่ฟาดลงไปที่ก้นของแม่แรงจนสะเทือนมาถึงหัวใจคนเป็นลูก ร่างกายบอบช้ำของแม่โยกไปตามแรงหยาบที่ถูกผู้ชายคนนั้นทำเหมือนแม่ไม่ใช่คน
ฉันวิ่งออกมาจากห้องแม่ด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ ทำไมแม่ต้องยอมให้คนอื่นทำกับตัวเองขนาดนี้ นี่มันไม่ใช่การมีเซ็กส์ทั่วไปที่ฉันเคยเห็นแต่มันเข้าขั้นโรคจิตวิตถารไปแล้วนะแล้วฉันก็ไม่สามารถช่วยอะไรแม่ได้เลย ตำรวจก็ไปแจ้งไม่ได้ ถ้าจะไปบอกให้คนมาช่วยก็มีแต่จะพากันมาซ้ำเติมและตราหน้าว่า ผู้หญิงขายตัวอย่างแม่เจอแบบนี้มันก็สมควรแล้วไม่เห็นแปลกอะไร