บทที่7

1672 คำ
ฉันแอบมานั่งร้องไห้อยู่ที่ศาลาท่าน้ำในหมู่บ้านตั้งแต่ที่วิ่งออกมา ตอนนี้ฝนก็เริ่มลงเม็ดเพราะพยากรณ์อากาศเมื่อเช้าบอกว่าคืนนี้แถวบ้านฉันมีพายุเข้าแต่ทว่า…น้ำฝนที่ทำให้ฉันเปียกปอนไปทั้งตัวก็ไม่อาจจะกลบคราบน้ำตาที่ร้องไห้เป็นชั่วโมงของฉันได้ ฉันนั่งสะอึกสะอื่นอยู่คนเดียวมือทั้งสองข้างก็คอยกอดตัวเองเอาไว้พร้อมกับคำถามในหัว แม่ทำเพื่อฉันหรือทำเพราะแม่ชอบเซ็กส์กันแน่ ไม่ว่าจะคิดในมุมไหนฉันก็ไม่เข้าใจแม่อยู่ดี “ คะนิ้งมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ ” ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากหัวเข่าตัวเองเมื่อได้ยินเสียงของใครบางคน “ คะนิ้งร้องไห้หรอ ” และคนๆนั้นก็คือนายทึ่มที่เข้ามาถามฉันแต่ทว่าใบหน้าซื่อๆนี้ยิ่งทำให้ฉันอยากร้องไห้มากกว่าเดิม “ เปล่าเราไม่ได้ร้องสักหน่อย ฮึกกก ” ฉันใช้หลังมือปาดน้ำตาแบบลวกๆก่อนจะลุกขึ้นยืน “ แล้วคะนิ้งจะไปที่ไหน ” คำถามของนายทึ่มทำให้ชะงัก นั่นสิ แล้วคืนนี้ฉันจะไปอยู่ที่ไหนในเมื่อแม่ไม่ให้ฉันกลับบ้าน อีกอย่างป่านนี้แม่ก็คงยังใช้ร่างกายตัวเองปรนเปรอความสุขให้ผู้ชายคนนั้นอยู่แน่ๆ “ เราก็จะกลับบ้านน่ะสิ ” ฉันตอบออกไปโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองนายทึ่มเพราะน้ำตาของฉันมันก็ยังไหลบ่าไม่หยุด “ คะนิ้งแน่ใจหรอว่าจะกลับไปที่บ้านได้ ” ประโยคนี้ทำให้ฉันหันไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายเพราะปกติคนเราจะไม่ถามกันแบบนี้ นอกจากว่า…….. “ ขอโทษนะตอนเย็นเราบังเอิญยินเสียงที่แม่คะนิ้งกับคะนิ้ง……. ” “ นาย…นายได้ยินด้วยหรอ ” ฉันถามในขณะที่ในใจก็ภาวนาไม่ให้นายทึ่มนี่ได้ยินเรื่องน่าอายแบบนั้น การที่แม่ฉันเป็นผู้หญิงขายตัวมันไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นจะเข้าใจและยอมรับได้แล้วยิ่งถ้ารู้ว่าเพื่อคำว่าเงินแล้วแม่ถึงกับยอมให้ผู้ชายใช้วิธีซาดิสแบบนั้น คนอื่นก็จะยิ่งดูถูกแม่ฉันมากกว่าเดิม “ ไม่ต้องห่วงนะเราไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครหรอก ” คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของผู้ชายซื่อๆคนหนึ่งทำให้ฉันอบอุ่นหัวใจขึ้นมาแต่ฉันจะเชื่อใจนายทึ่มนี่ได้จริงๆน่ะหรอ “ แล้วคืนนี้คะนิ้งจะไปอยู่ที่ไหนหรือว่าคะนิ้งจะไปนอนบ้านเพื่อน ” ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบ ถึงฉันจะมีเพื่อนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันแต่ฉันก็ไปหาไม่ได้อยู่ดีเพราะขืนฉันไปในสภาพแบบนี้ต้องมีคำถามจากพ่อแม่ของเพื่อนฉันแน่นอนซึ่งแน่นอนว่าฉันบอกเรื่องนี้กับใครไม่ได้ “ งั้นคืนนี้.......คะนิ้งไปนอนบ้านเราไหม ” ฉันหันไปสบตานายทึ่มด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ทั้งที่นายคนนี้เป็นผู้ชายแท้ๆแต่ฉันกลับรู้สึกว่าฉันไว้ใจเขาได้ “ เราไปนอนบ้านนายได้จริงๆหรอ ” ฉันจ้องหน้านายทึ่มผ่านสายฝนที่กำลังโปรยปราย ตอนนี้ตัวนายทึ่มเปียกโชกไปหมดเพราะมายืนตากฝนเป็นเพื่อนฉันทั้งที่ในมือถือร่มอยู่แท้ๆ “ ได้สิถ้าเป็นคะนิ้งล่ะก็นะ ” อยู่ๆฉันก็เห็นดวงตาของนายทึ่มเป็นประกายขึ้นมา หัวใจฉันก็พลอยชุ่มชื้นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ นายทึ่มพาฉันมาที่บ้าน บ้านของนายทึ่มใหญ่กว่าบ้านฉันนิดหน่อยแถมยังเทปูนทั้งหลังแต่ก็มีแค่ชั้นเดียวนะ “ ป้าอรนอนแล้วหรอ ” ฉันถามทันทีที่เปิดประตูเข้ามาพอเห็นบ้านมืดๆเลยเดาว่าตอนนี้ป้าอรน่าจะหลับไปแล้ว “ ไม่น่าจะใช่นะเพราะป้าเราต้องเตรียมของไปขายตลาดตอนเช้ากว่าจะนอนก็ห้าทุ่มโน่น ” นายทึ่มเดินนำฉันเข้ามาในบ้านแล้วหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวขึ้นมาอ่าน “ มีอะไรหรือเปล่า ” ฉันถามขึ้นเพราะเห็นนายทึ่มทำหน้าแปลกๆ “ ป้าเราบอกว่าคืนนี้ไม่อยู่ไปนอนบ้านที่มีงานแต่งน่ะ ” “ หรอ ” พอได้ยินที่นายทึ่มบอกก็ทำให้ฉันนึกอะไรขึ้นมาได้ ป้าอรน่าจะไปงานแต่งลูกชายของญาติที่พี่บอลบอกฉันเมื่อเช้านั่ล่ะมั้ง “ แต่คะนิ้งนอนที่นี่ได้นะ ” ฉันไม่ได้พูดอะไรขณะเดียวกันก็มองไปรอบๆบ้าน แม้ว่าบ้านของป้าอรจะไม่ได้คับแคบแต่ทั้งหลังก็เป็นพื้นที่โล่งๆมีข้าวของและเฟอร์นิเจอร์วางอยู่นับชิ้นได้แล้วก็มีอยู่แค่สองห้องเอง ห้องหนึ่งก็คงจะเป็นห้องของป้าอรส่วนอีกห้องที่อยู่ติดกันน่าจะเป็นห้องของนายทึ่มนี่เพราะตรงประตูมีภาพวาดแขวนเอาไว้ ฉันจำได้ว่าลายเส้นสวยๆแบบนั้นเป็นฝีมือของนายทึ่มแน่นอน “ งั้นเรานอนห้องนายได้ไหม ” ในความเงียบฉันก็ถามออกไปตรงๆในขณะที่มือทั้งสองกำเสื้อนักเรียนเอาไว้แน่นเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าพูดดเรื่องแบบนี้ออกไป “ ได้สิเดี๋ยวเราออกมานอนข้างนอกเอง ” คำตอบของนายทึ่มทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังนิดๆ “ เอางั้นก็ได้ ” ฉันบอกพร้อมกับกยกมือขึ้นกอดตัวเองเพราะฉันดันไปนั่งตากฝนอยู่นานสองนานตอนนี้เลยรู้สึกหนาวขึ้นมาแล้ว “ เดี๋ยวเราไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้นะ ” ว่าแล้วนายทึ่มก็เปิดประตูห้องเข้าไปโดยที่ฉันก็เดินตามเข้าไปด้วย “ คะนิ้งทำไมไม่รออยู่ข้างนอกล่ะเดี๋ยวเราเอาออกไปให้ ” “ ไม่เป็นไรหรอกเราเกรงใจ เอามาสิ ” ฉันยื่นมือออกไปเอาผ้าเช็ดตัวที่นายทึ่มยังถืออยู่ด้วยอาการเก้ๆกังๆ เห็นแล้วก็ตลกไปเป็นบ้า “ ง่ะ…งั้นเราออกไปรอข้างนอกนะแล้วนี่ก็ชุดของเราเราไม่ค่อยได้ใส่หรอก คะนิ้งก็ใส่ไปก่อนเดี๋ยวจะไม่สบาย ” พอพูดแล้วหมอนั่นก็ออกไปจากห้องทันที ฉันหยิบชุดของนายทึ่มขึ้นมาดูมันเป็นเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวไม่ลวดลายอะไรแต่ก็ตัวใหญ่มากฉันเลยหยิบแค่เสื้อขึ้นมาใส่แค่ตัวเดียว “ นายทึ่มห้องนายมีหวีไหม ” ฉันโผล่แค่หน้าออกไปถามนายทึ่มที่ยืนรออยู่หน้าห้อง “ อยู่ในตู้เสื้อผ้าของเราไงตรงประตูฝั่งซ้ายน่ะ ” “ ไม่เห็นจะมีเลยนายเข้าไปหาให้หน่อยสิ ” “ อะอืม ” นายทึ่มทำหน้าตาซื่อๆเดินเข้ามาในห้องแล้วตรงไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ใกล้กับประตูแต่พอหันมาเห็นฉันชัดๆนายทึ่มก็หน้าแดงขึ้นมา “ ทำไมคะนิ้งไม่ใส่กางเกงล่ะ ” นายทึ่มรีบหันหน้าหนีทันทีที่เห็นว่าฉันใส่แค่เสื้อตัวเดียว “ ก็กางเกงนายมันยาวนิขืนใส่เราก็เดินไม่ได้พอดี ” ฉันตอบอย่างไม่ได้คิดอะไรถึงเสื้อของนายทึ่มจะตัวใหญ่ก็จริงแต่มันก็ไม่ได้ยาวมากทำให้มองเห็นต้นขาวขาวๆของฉันนิดหน่อย “ งะ…งั้นเราไปนอนก่อนนะ ” “ แล้วนายไม่อาบน้ำก่อนหรอ ” ฉันถามออกไปทันทีเพราะตัวนายทึ่มก็เปียกพอๆกับฉันนี่แหละ “ เอ่อ นั่นสิ ” “ ไม่ไหวเลยนะนายทึ่มเอ้ย ” พอพูดแล้วฉันก็ดันตัวนายทึ่มเข้าไปในห้องน้ำแต่ผ่านไปสักห้านาทีฉันก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรสักอย่างดังออกมา “ นายทึ่มนายเป็นอะไรหรือเปล่า ” ฉันยืนถามอยู่หน้าห้องน้ำ “ ร่ะ…เราไม่ได้เป็นอะไรแค่เหยียบสบู่แล้วลื่นน่ะแต่ว่า……แว่นเราหล่นไปไหนไม่รู้คะนิ้งช่วยหาให้เราหน่อยดะ….ได้ไหม ” เสียงตะกุกตะกักของนายทึ่มบ่งบอกว่าตอนนี้คงจะกำลังลำบากอยู่แน่ๆฉันเลยไม่รีรอที่จะเปิดประตูเข้าไปแต่จังหวะที่จะก้มลงหยิบแว่นตาฉันก็เหยียบสบู่ที่นายทึ่มทำหล่นเอาไว้ทำให้ฉันลื่นไปด้วยอีกคน “ โอ๊ยยย! เจ็บเป็นบ้า ” ฉันคลำไปที่ก้นตัวเองที่จ้ำเบ้าอยู่กับพื้นแต่พอตั้งสติได้ฉันก็พบว่าตอนนี้นายทึ่มยืนล้อนจ้อนอยู่ “ คะนิ้งช่วยส่งผ้าเช็ดตัวมาให้เราก่อนดะ…ได้ไหม ” คราวนี้น้ำเสียงของนายทึ่มดูสั่นๆในขณะที่ยืนหันหลังให้ฉันแล้วก็เอามือกุมตรงนั้นของตัวเองไว้แล้วอยู่ๆมันก็มีด้วยความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นกับฉัน ฉันจ้องไปยังร่างกายเปลือยเปล่าของนายทึ่มแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ แม้ว่าจะยังไม่โตเป็นหนุ่มเต็มตัวแต่ก็รูปร่างก็ดูสมส่วนสำหรับเด็กผู้ชายวัยนี้ เนื้อตัวของนายทึ่มขาวสะอาดสะอ้านจนน่ามองไปหมด เม็ดน้ำที่เกาะอยู่ตามตัวทำให้ฉันอยากจะลองสัมผัสดูสักครั้ง “ คะ…คะ….คะนิ้ง!!! ” นายทึ่มตกใจมากที่ฉันเข้าไปยืนอยู่ข้างหลังแล้วมองร่างกายล้อนจ้อนของตัวเองผ่านกระจกใสที่สามารถเห็นได้ทั้งตัว “ นายอยากมีอะไรกับเราไหม ” ฉันเอ่ยพร้อมกับใช้นิ้วลากไปตามแผ่นหลังกร้านที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังโตเป็นหนุ่มซึ่งนอกจากว่ามือของฉันจะอยู่ไม่สุขแล้วมันยังทำให้ฉันรู้สึกว่าอยากถูกอีกฝ่ายสัมผัสเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม