บทที่5

940 คำ
ฉันเอ่ยเสียงหวานพลางมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่ชอบเอามากๆ ตอนนี้ฉันเลยรู้แล้วว่าทำไมแม่ถึงชอบให้ผู้ชายพวกนั้น “ดูดนม” เพราะเวลาที่มีคนแบบนี้ให้มันรู้เสียวไปถึงท้องน้อยเลย “ นมคะนิ้งพอดีกับมือเราเลย ” อยู่ๆนายทึ่มก็พึมพำออกมาทั้งที่ยังหยอกเย้าหน้าอกกลมของฉันไปด้วย “ แล้วชอบไหมล่ะ ” ฉันถามออกไปด้วยความตื่นเต้นสุดๆแล้วฉันก็สังเกตเห็นว่านายทึ่มหน้าแดงมากก่อนจะพยักหน้าให้ฉันพอพูดแล้วก็ลงมือบีบหน้าอกฉันต่อ “ อื้อออ~ …เสียว ” เสียงหวานครางออกมาด้วยความทรมานมันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่ได้นึกรังเกียจและยิ่งไปกว่านั้นฉันก็ชักจะชอบขึ้นมาแล้วด้วย ตอนนี้ด้านนอกฝนพายุยังคงซัดลงมาไม่หยุดบวกกับลมแรงที่พัดเข้ามาภายในกระต๊อบหลังนี้ทำให้ฉันต้องการความอบอุ่นจากใครสักคน “ คะนิ้งหนาวหรอ ” นายทึ่มถามฉันขึ้นหลังจากที่หยุดทุกอย่างเอาไว้แล้วปล่อยให้ยอดอกของฉันแข็งเป็นตุ่มไตอยู่อย่างนั้น จะรู้บ้างไหมว่าฉันทรมานกับอาการนี้เหลือเกิน “ อือ ” ฉันพยักหน้าเบาๆพร้อมกับกระชับอ้อมกอดตัวเองเพื่อให้ร่างกายมันอบอุ่นขึ้นมาบ้าง ตอนนี้ฉันกับนายทึ่มนั่งเอาหลังชนฝาไม้เก่าๆโดยที่ต่างฝ่ายต่างรักษาระยะห่างของตัวเอง “ ทำอะไรของนาย ” ฉันเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจเพราะอยู่ๆนายทึ่มก็ดึงฉันเข้าไปกอดโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันมองหน้าอึ้งๆเพราะไม่คิดว่าคนซื่อๆบื้อๆบทจะใจกล้าก็ทำเอาหัวใจเต้นแรงไม่หยุด “ ก็คะนิ้งหนาวไม่ใช่หรอเราแค่อยากทำคะนิ้งอุ่นขึ้น ” ฉันได้แต่นั่งตัวเกร็งแล้วปล่อยให้นายทึ่มกอดอยู่แบบนี้โดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอ้อมแขนเล็กๆของนายคนนี้ทำให้ฉันรู้สึกอุ่นขึ้นมามาก เราสองคนติดอยู่ในนี้นานเป็นครึ่งชั่วโมงกว่าที่ฝนจะหยุดและทันทีที่เม็ดฝนเริ่มซาลงฉันกับนายทึ่มก็แยกย้ายกันกลับบ้าน “ เดี๋ยวก่อนสิ ” แต่ก่อนที่จะแยกย้ายกันฉันก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยเรียกนายนั่นเอาไว้ “ คะนิ้งมีอะไรหรอ ” หมอนั่นก็หันมาหาฉันด้วยหน้าตาที่ซื่อๆบื้อๆตามแบบฉบับ “ เรื่องวันนี้อย่าเอาไปบอกใครนะสัญญากับเราสิ ” พอได้ฟังที่ฉันพูดนายทึ่มก็พยักหน้าเหมือนที่ชอบทำทุกครั้งแต่ฉันสังเกตุว่าแววตาคู่นั้นดูเศร้าๆยังไงก็ไม่รู้แต่มันอาจจะไม่ได้มีอะไรฉันอาจจะคิดไปเองเพราะคนบื้อๆและบ้าเรียนอย่างนายทึ่มนั่นนอกจากเรื่องที่เคยสอบได้เกรดเฉลี่ย 3.99 ตอนที่อยู่ ม.1 แล้วก็ไม่น่าจะไม่มีเรื่องอะไรทำให้นายนั่นเสียใจได้หรอก หลายวันต่อมา หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้ไปที่กระต๊อบปลายสวนของป้าอรอีกเลยแต่ฉันกับนายทึ่มก็ยังเจอกันที่โรงเรียนเพราะเราสองคนเรียนอยู่ห้องเดียวกัน เราสองคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่ง...... “ การบ้านเสาร์อาทิตย์นี้ให้ทุกคนจับคู่กันไปเขียนรายงานมาแล้วก็ออกมาพรีเซ้นหน้าห้องชั่วโมงหน้าแล้วก็ส่งรายชื่อคู่ของตัวเองให้ครูตอนนี้เลยนะคนไหนไม่มาก็ให้ทำเดี่ยวไป ” เจ้าของเสียงเมื่อครู่คือครูเดือนเพ็ญ ครูเพ็ญเป็นครูสอนวิชาสุขศึกษาแล้วยังเป็นครูที่ปรึกษาของห้องฉันด้วย “ อ่าว คนไม่ครบทำไงดี ” ยัยปุ๊กกี้เอ่ยขึ้นหลังจากที่ต้องมีคนใดคนหนึ่งในกลุ่มหาคู่ทำรายงาน เนื่องจากกลุ่มฉันมีด้วยกันสี่คนแต่เพราะเมื่อวานฝนตกหนักเพื่อนฉันคนหนึ่งไปตากฝนมาจนไม่สบายเลยไม่ได้มาเรียน “ เออนั่นดิ แล้วทีนี้ใครจะเป็นคนเสียสละ ” เราสามคนมองหน้ากันด้วยความลำบากใจเพราะรู้ๆกันอยู่ว่าเวลาทำงานส่งไม่มีใครอยากแยกไปทำกับเพื่อนกลุ่มอื่นแน่นอน “ คะนิ้งคู่กับเราไหม ” ในระหว่างที่พวกฉันกำลังจะเป่ายิงฉุบหาคนเสียสละน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยของใครบางคนก็ดังเข้ามา นายทึ่มขยับฐานแว่นตาเล็กน้อยหลังจากที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉันด้วยหน้าตาซื่อๆ “ เอ่อ…… ” “ จะเอ่ออ่าอะไรละคะนิ้งคู่กับทิมส์ดีจะตายไปมีหวังงานนี้แกต้องได้คะแนนเต็มแหงๆ ” ยัยเหมยเพื่อนของฉันอีกคนเอ่ยอย่างเห็นด้วย ฉันก็เห็นด้วยนะเพราะคนที่เรียนเก่งที่สุดในห้องและเก่งที่สุดในระดับชั้นก็คือนายทึ่มคนนี้แหละแต่ว่าไม่รู้ทำไมฉันถึงได้รู้สึกแปลกๆ “ งั้นวันเสาร์นี้เราไปรอที่กระต๊อบนะ ” พูดแล้วนายทึ่มก็หันหลังให้ฉันโดยที่ไม่ฟังคำตอบ อ้าว! อะไรหว่า ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะนี่มันมัดมือชกกันชัดๆ แล้วทำไมต้องไปที่กระต๊อบนั่นด้วยเล่าหรือว่า…...... อย่าบอกนะว่านายทึ่มติดใจฉันขึ้นมา หึ ... ฉันแอบยิ้มอยู่คนเดียวและรู้สึกอยากให้ถึงวันเสาร์ไวๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม